24.12.18       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:

ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกได้รับมันตราที่ง่ายดายจากสัทกูรู เพื่อจัดระเบียบวินัยให้กับจิตใจ: คงอยู่ในความเงียบสงบและจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ นี่คือมันตราที่ยิ่งใหญ่ที่จะควบคุมมายา

คำถาม:
คำถาม: ชีพบาบาเป็นลูกค้าที่ไร้เดียงสาที่สุดอย่างไร?

คำตอบ:

คำตอบ: บาบาพูดว่า: ลูก พ่อรับขยะเก่าๆ ทั้งหมดที่ลูกมี, รวมทั้งร่างกายของลูก, และพ่อรับสิ่งนั้นเมื่อลูกนั้นกำลังจะตาย ชุดสีขาวของลูกเป็นสิ่งชี้บอกถึงความตายด้วยเช่นกัน เวลานี้ลูกได้สังเวยตนเองแก่พ่อ และพ่อก็ทำให้ลูกรุ่งเรืองถึง 21 ชาติเกิด พ่อจะเติมเต็มความปรารถนาของทุกคนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา และในหนทางของความรู้ พ่อให้ความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของโลกแก่ลูก และทำให้ลูกเป็นตรีกาลดาชิ

เพลง:
ไม่มีใครพิเศษสุดเช่นเจ้าผู้ไร้เดียงสา...

โอมชานติ
ลูกๆ กำลังอยู่เบื้องหน้าเจ้าผู้ไร้เดียงสา นักธุรกิจพูดว่า: ส่งลูกค้าที่ไร้เดียงสาที่โง่เขลามาให้ฉัน, ผู้ที่จะซื้อสินค้าดีๆ ที่มีค่าหนึ่งถึงสองพันและให้เงินทองมากมายแก่เรา โอ พระเจ้า, ส่งลูกค้าเช่นนั้นให้กับฉันเถิด! พ่อ, เจ้าผู้ไร้เดียงสาได้อธิบายแก่ลูกๆ ถึงตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของโลก และทำให้ลูกเป็นตรีกาลดาชิ ลูกเคยพบลูกค้าเช่นพ่อไหม? ลูกอุทิศตนเองต่อท่าน ลูกร้องสรรเสริญท่านมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา คำยกย่องของเจ้าผู้ไร้เดียงสาก็คือ: ท่านคือแม่และพ่อ ท่านมาและสอนราชาโยคะแก่ลูกและให้อาณาจักรแก่ลูก ลูกพูดกับพ่อว่า: เราจะสังเวยขยะเก่าๆ เหล่านี้ทั้งหมดให้กับท่าน ท่านทำให้เรารุ่งเรืองถึง 21 ชาติเกิด นายหน้าซื้อขายหุ้นก็ทำสัญญาและรับค่านายหน้า ผู้เดียวนี้เองก็พูดว่า: ไม่ว่าขยะใดก็ตามที่ลูกมี, พ่อจะรับทั้งหมดนั้นรวมทั้งร่างกายของลูกเมื่อลูกกำลังจะตาย ที่นี่เครื่องแต่งกายของลูก บราห์มา กุมารี คือสีขาว ก็เหมือนราวกับว่าลูกนั้นตายแล้ว ศพนั้นจะถูกปกคลุมด้วยผ้าขาวซึ่งไร้รอยเปื้อนโดยสิ้นเชิงอยู่เสมอ ในเวลานี้ทุกคนมีรอยดำของมายาอยู่กับพวกเขา เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นเคราะห์ร้ายของราหู พระจันทร์เองก็กลับมามืดเมื่อถูกเงามืดปกคลุม ดังนั้นเงามืดของเคราะห์ร้ายของมายานี้จะทำให้ทั้งโลกนั้นมืดมิดด้วยเช่นกัน วัตถุธาตุทั้งหมดรวมอยู่ในนั้นด้วย พ่อนั่งที่นี่และอธิบายว่า: นี่คือราชาโยคะของลูก ด้วยราชาโยคะที่ลูกต้องประกาศสิทธิ์ต่ออาณาจักรของลูกในสวรรค์ ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชาและลูกมีความซาบซึ้งของการกลายเป็นนารายณ์ ลูกเปลี่ยนจากนายธรรมดาเป็นนารายณ์ อาณาจักรของลักษมีและนารายณ์อยู่ในยุคทอง ดังนั้นพ่อจะต้องมาในเวลาสุดท้ายอย่างแน่นอน ในเวลานี้เป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ผู้คนก้มศีรษะของพวกเขาและเฝ้าแต่ล้มลุกคลุกคลานไปทั่วจากประตูหนึ่งสู่อีกประตูหนึ่ง พระเจ้าคือผู้ปกป้องผู้เลื่อมใสศรัทธา ท่านมาและให้ผลของความเลื่อมใสศรัทธา ทุกคนคือผู้เลื่อมใสศรัทธา, แต่ไม่ใช่พวกเขาทั้งหมดที่ได้รับผลเช่นเดียวกัน บ้างได้รับนิมิต บ้างมีบุตรชาย ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงเวลาชั่วคราว พ่อเติมเต็มความปรารถนาที่หลากหลายทั้งหมดของพวกเขา ไม่มีใครในโลกรู้ว่าพระเจ้าได้มาเพื่อสอนราชาโยคะ พวกเขาคิดว่าท่านมาในยุคทองแดงแล้วสอนราชาโยคะในเวลานั้น ลูกจะกลายเป็นนารายณ์จากนายธรรมดาที่นั่นได้อย่างไร? เวลานี้คือพ่อที่สอนราชาโยคะแก่ลูกและทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา ที่นี่เพียงแต่ลูกต้องอยู่ในความเงียบสงบ มานมานะภาฟ: นี่คือมันตราที่ง่ายดายซึ่งให้โดยสัทกูรูเพื่อจัดระเบียบวินัยของจิตใจ มีรายได้มากมายด้วยมันตรานี้ นี่เป็นมันตราที่ซึ่งลูกใช้ควบคุมมายา ลูกกลายเป็นผู้เอาชนะมายาและเป็นผู้เอาชนะโลก ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาพูดว่า: “เมื่อลูกเอาชนะจิตใจของลูก ลูกก็เอาชนะโลก” เหตูนี้เองพวกเขาจึงทำหัตถะโยคะ ฯลฯ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งนั้นเพื่อที่จะกลายเป็นผู้เอาชนะโลก พวกเขาทำสิ่งนั้นเพื่อการหลุดพ้น พ่อมาและพูดว่า ลูกละทิ้งร่างกายของลูกและศาสนาทางร่างทั้งหมด ละทิ้งทุกสิ่งเช่นที่ว่า: ฉันเป็นของศาสนานั้นศาสนานี้, ฉันเป็นผู้นั้นผู้นี้ พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอยู่เสมอ ก็เท่านั้นเอง! เพียงแต่ทำตามการกำหนดที่พ่อให้กับลูก เวลานี้ลูกต้องละทิ้งการกำหนดที่แตกต่างกันทั้งหมดที่ลูกเคยทำตามมาจนถึงเวลานี้ ดังนั้นความรู้ของลูกนั้นใหม่อย่างสมบูรณ์ ผู้คนคิดว่าสิ่งที่ลูกบอกพวกเขาเป็นสิ่งใหม่ ก่อนที่ลูกจะอธิบายให้แก่ใคร ประการแรกลูกควรจับชีพจรของพวกเขา ลูกต้องไม่พูดสิ่งเดียวกันกับทุกคน ผู้คนนั้นมีการกำหนดที่แตกต่างกันมากมายอย่างยิ่ง ของลูกคือการกำหนดเดียว แต่เป็นสิ่งที่ตามลำดับกันไป ผู้ที่อยู่ในโยคะอย่างดีและผู้ที่มีคุณธรรมจะอธิบายอย่างดีแน่นอน ผู้ที่มีคุณธรรมน้อยกว่าก็จะอธิบายได้น้อยกว่า เพียงแต่บอกสิ่งที่ง่ายดายเดียวนั้นกับใครก็ตามที่มาหาลูก แม้ว่าลูกอาจจะอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก ลูกต้องคงอยู่เช่นดอกบัว ลูกรู้ว่าดอกบัวแต่ละดอกอยู่ในกอบัวมากมายและดังนั้นจึงมีการให้ตัวอย่างของสิ่งนั้น พ่อก็มีลูกๆ มากมายด้วย ดอกบัวที่ยังคงอยู่เหนือน้ำและส่วนที่เหลือทั้งหมดของกอบัวนั้นก็อยู่ใต้น้ำ นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดี บาบาพูดว่า: ขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก แต่คงอยู่อย่างบริสุทธิ์ นี้เป็นเรื่องของความบริสุทธิ์ ในสิ่งนี้คงอยู่อย่างบริสุทธิ์ในชาติเกิดสุดท้ายนี้และจดจำพ่อผู้เดียวอยู่เสมอด้วยเช่นกัน แน่นอนที่ลูกต้องหล่อเลี้ยงสิ่งสร้างของลูกด้วย ไม่เช่นนั้นสิ่งนี้จะกลายเป็นเช่นหัตถะโยคะ ผู้คนมากมายในโลกคงอยู่อย่างบริสุทธิ์ บางคนที่ถือพรหมจรรย์ตั้งแต่เกิดเป็นเหมือนกับปิชัมปิตัมเม ตัวอย่างที่ดีของการถือพรหมจรรย์คือเมื่อสามีและภรรยาอยู่ด้วยกันและอยู่อย่างบริสุทธิ์ การแต่งงานที่บริสุทธิ์นั้นแม้กระทั่งมีการอ้างอิงในคัมภีร์แต่ไม่มีใครมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้น พ่ออธิบายสิ่งนี้ บาบาพูดว่า: เวลานี้ลูกๆ แทนการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ ลูกทั้งสองผูกพันธะของการนั่งบนกองไฟของความรู้ ลูกบราห์มินกำลังทำงานที่ดีมาก ลูกต้องสัญญาที่จะอยู่อย่างบริสุทธิ์ด้วยการเตือนกันและกัน ลูกทั้งสองจะไปยังสวรรค์ ที่นี่ลูกได้แสดงให้เห็นถึงวิธีที่จะอยู่อย่างบริสุทธิ์ขณะที่อยู่ด้วยกันและนี่คือวิธีที่ลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง ตัวอย่างของลูกจะมีการให้ไว้ ลูกนั่งบนกองไฟของความรู้และประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงในสวรรค์ ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งนี้ หากลูกเฝ้าแต่เคลื่อนไปอย่างมั่นคงอย่างมากสถานภาพของลูกก็จะสูงมาก แล้วก็ขึ้นอยู่กับงานรับใช้ด้วยเช่นกัน ผู้ที่ทำงานรับใช้มากมายและสร้างปวงประชาจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่ดี ลูกแม้กระทั่งควรจะไปสูงยิ่งกว่าบาบาและมาม่า อย่างไรก็ตาม เช่นที่บาบาพูดว่าหากชาวคริสต์เตียนทั้งสอง (รัสเซียและอเมริกา) มารวมกัน พวกเขาก็จะสามารถกลายเป็นนายของโลก ทำนองเดียวกันบางคู่ควรจะปรากฏขึ้นที่สูงยิ่งกว่าแม่และพ่อ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเป็นเช่นนั้น มีเพียงจากัดอัมบ้าและจากัดปิตาที่เป็นที่รู้จัก ไม่มีใครที่สามารถทำงานรับใช้เช่นที่ท่านทั้งสองทำ พวกเขานั้นได้กลายเป็นเครื่องมือ เหตุนี้ลูกจึงไม่ควรที่จะมีอาการหัวใจวายด้วยสิ่งนี้ โอเค หากไม่ได้เป็นเหมือนกับมาม่าและบาบา ลูกสามารถกลายเป็นอันดับสอง ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับงานรับใช้ที่จะสร้างปวงประชาและทายาท ดังนั้นทุกสิ่งของเรานั้นใหม่ แน่นอนที่พระเจ้าต้องมาที่นี่เพื่อสร้างโลกใหม่ ท่านผู้เดียวคือผู้สร้าง ผู้คนเหล่านั้นพูดว่าพระเจ้าอยู่เหนือรูปและนาม แต่ท่านไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่สามารถถูกประณาม เพียงแต่ถ้าหากอยู่ในโชคของพวกเขาเท่านั้นที่พวกเขาจะเข้าใจ หลายคนที่มาคิดว่าสิ่งนี้ถูกต้อง บ้างก็พูดว่า ดวงวิญญาณไม่มีนามหรือรูป ดังนั้นอะไรที่จะเรียกว่าเป็นดวงวิญญาณ? มีชื่อเป็น “ดวงวิญญาณ” บอกทุกคนว่านี่คือราชาโยคะ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดมาในยุคบรรจบพบกัน แน่นอนที่จะเป็นยุคบรรจบพบกันที่ท่านสอนราชาโยคะ เพราะเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถทำให้ผู้ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์ ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่นี่พิเศษสุด พ่อพูดว่า เพียงแต่พิจารณาว่าตนเองนั้นเป็นดวงวิญญาณ ลูกต้องไปหาพ่อ ไม่มีความจำเป็นที่จะถามคำถามใดเกี่ยวกับสิ่งนี้ พวกเขากล่าวว่า อย่าได้ทำให้ดวงวิญญาณของฉันเจ็บปวด ผู้นี้คือดวงวิญญาณบาป ผู้นี้คือดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ ไม่มีใครสามารถพูดว่าดวงวิญญาณไม่มีรูป เมื่อวิเวกอนันดากำลังนั่งอยู่เบื้องหน้ารามากฤษณะ, เขาก็ได้นิมิต เขาเห็นแสงที่เข้าไปในรามากฤษณะ พวกเขาพูดถึงบางสิ่งเช่นนั้น บอกพวกเขาว่า นี่คือราชาโยคะของเรา ที่นี่ลูกต้องลืมร่างกายของลูกและเพื่อนฝูงญาติมิตรทางร่างกายทั้งหมด ฯลฯ เราดวงวิญญาณคือลูกของท่าน และเราเองเป็นพี่น้องกัน หากทุกคนกำลังจะกลายเป็นพ่อ พ่อก็จะสวดมนต์ภาวนาถึงพ่อ ขณะนี้เรากำลังศึกษาราชาโยคะ นี่คือโยคะเพื่อที่จะกลายเป็นราชาเหนือราชา ไม่มีอาณาจักรใดในเวลานี้ ดังนั้นลูกต้องอธิบายว่า เราอยู่ในความสงบและเพียงแต่จดจำชีพบาบา เราพิจารณาว่าตนเองนั้นแยกห่างจากร่างกายของเรา ดวงวิญญาณพูดว่า ฉันละร่างหนึ่งและใช้อีกร่างหนึ่ง ดังนั้นสันสการ์ของความรู้คงอยู่ในดวงวิญญาณ สันสการ์ที่ดีและไม่ดีอยู่ในดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อผลของการกระทำ สิ่งนี้ต้องมีการอธิบาย ดวงวิญญาณนั้นกลับมาเกิดใหม่ ดวงวิญญาณต้องใช้อวัยวะซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงวิญญาณเป็นดวงดาวที่อาศัยอยู่ตรงกลางหน้าผาก เมื่อพวกเขามีนิมิตของดวงวิญญาณ พวกเขาเชื่อว่าลูกมีพลังเช่นนั้นในตัวลูกที่ลูกสามารถทำให้พวกเขามีนิมิตของดวงวิญญาณ อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณอาศัยอยู่ตรงกลางหน้าผาก มันสำคัญอะไรหรือไม่ว่าลูกจะมีนิมิตหรือไม่? ดวงวิญญาณเองพูดว่า ฉันคือดวงดาว ฉันมีบทบาทของ 84 ชาติเกิดในตัวเอง หากดวงวิญญาณได้ใช้ 8.4 ล้านชาติเกิด พวกเขาก็จะต้องมีสันสการ์มากมายอย่างยิ่ง ลูกไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกสามารถเชื่อว่าดวงวิญญาณใช้ 84 ชาติเกิด ลูกไม่สามารถเชื่อว่าใครก็ตามสามารถใช้ 8.4 ล้านชาติเกิด เวลานี้เรากำลังกลับมาบริสุทธิ์ บาบาได้ทำให้เราบริสุทธิ์และเปลี่ยนเราจากมนุษย์ธรรมดาเป็นนารายณ์ ลูกควรจะมีความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งในสิ่งนี้ ลูกไม่จำเป็นที่จะต้องไปโต้แย้งกับใคร ละทิ้งร่างกายของลูกและศาสนาทั้งหมดของร่างกาย และพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง แม้ว่าเราจะเคยศึกษาคัมภีร์ ฯลฯ เหตุใดเราควรจะโต้แย้งกับพวกเขาในเมื่อพ่อได้พูดแล้วว่า จดจำพ่อผู้เดียวอยู่เสมอ คำสั่งที่สองของท่านก็คือ ในขณะที่อาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก คงอยู่อย่างบริสุทธิ์เหมือนดอกบัว เพียงด้วยไฟของโยคะเท่านั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง พระเจ้าพูด พระเจ้าคือดวงวิญญาณสูงสุด ท่านเรียกว่าเป็นดวงดาวด้วย มีประเด็นมากมายแต่พวกเขาไม่สามารถที่จะหยิบยกประเด็นทั้งหมดเหล่านั้นขึ้นมาได้ในเวลาเดียวกัน ลูกต้องมองดูบุคลิกภาพของผู้ที่อยู่เบื้องหน้าลูกและหยิบยกขึ้นมาอย่างมีศิลปะวิธี บอกพวกเขาว่า เราศึกษาคัมภีร์เช่นกัน แต่คำสั่งของพ่อคือลืมทุกคนและจดจำพ่อผู้เดียวอยู่เสมอ ท่านไม่มีตัวตน ทุกคนเชื่อในดวงวิญญาณ แม้แต่ผู้ที่เชื่อในวิเวกอนันดาก็เชื่อในดวงวิญญาณ ทุกคนมีดวงวิญญาณ ดังนั้นแน่นอนที่ดวงวิญญาณจะมีพ่อผู้ที่เรียกว่าเป็นพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ทั้งหมดเหล่านี้คือประเด็น ด้วยการไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้ลูกจะพบประเด็นใหม่ๆ อยู่เสมอ เรือกลไฟก็เฝ้าแต่ได้รับการเติมเต็ม นี่เป็นเหมือนกับสินค้าของเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลาย จดประเด็นต่างๆลงไปแล้วทบทวนประเด็นเหล่านั้น เหล่านี้คือเพชรพลอย ลูกควรจะมีความใส่ใจอย่างดีในการดูดซับประเด็นเหล่านั้นและเขียนเกี่ยวกับประเด็นเหล่านั้น อธิบายแก่ทุกคนอย่างชัดเจนมากว่า มีดวงวิญญาณในทุกคนแต่ดวงวิญญาณไม่ได้มีรูปหรือนามที่เป็นวัตถุ ท่านไม่สามารถพูดว่าดวงวิญญาณมีรูป, เหตุใดพระเจ้าจึงไม่มีรูป? ท่านเรียกว่าพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้เดียวที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตสูงสุด มีการอธิบายมากมายอย่างยิ่งแก่ลูกๆ ดังนั้นเวลานี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้ด้วยการทำงานรับใช้ บาบาได้ให้รางวัลตามงานรับใช้ที่ลูกทำ ท่านทำให้ลูกสามารถได้รับการประดับประดาด้วยเพชรพลอยแห่งความรู้มากมายอย่างยิ่ง เราไม่ต้องการที่จะกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีที่นี่ เราต้องการอำนาจในการปกครองโลก อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้และดูดซับเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ลูกได้รับ อยู่อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยเพชรพลอยแห่งความรู้เสมอ

2. อยู่ในความซาบซึ้งของการกลายเป็นนารายณ์ อย่าได้พูดถึงประเด็นที่ไร้ประโยชน์กับใคร ฝึกฝนที่จะอยู่อย่างปราศจากร่าง

พร:

 ขอให้ลูกเป็นผู้เอาชนะมายาและอยู่อย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ โดยพิจารณาว่ามายาให้ความร่วมมือในการสอนบทเรียนแก่ลูกแทนที่จะเป็นศัตรูของลูก

แม้ว่าบางครั้งร่างกายไม่สบาย ก็อย่าปล่อยให้จิตใจของลูกถูกรบกวนจากความเจ็บป่วยใดๆของร่างกาย จงเฝ้าแต่ร่ายรำในความสุขอย่างสม่ำเสมอและร่างกายของลูกก็จะกลับมาสบายดี ทำให้ร่างกายของลูกทำงานด้วยความสุขของจิตใจ และลูกก็จะออกกำลังกายทั้งสองทาง ความสุขเป็นพรและการออกกำลังกายเป็นยา ดังนั้นด้วยทั้งพรและยา ลูกจะเป็นอิสระจากความเจ็บป่วยของร่างกายและจิตใจ ด้วยความสุข ลูกจะลืมความเจ็บปวดของลูก เพื่อที่จะมีความพอใจกับร่างกายและจิตใจของลูกอย่างสม่ำเสมอ อย่าคิดมากเกินไป ด้วยการคิดมากเกินไปก็จะทำให้เสียเวลา และความสุขของลูกก็จะหายไป

มายามาเพื่อสอนบทเรียนแก่ลูกและดังนั้นอย่าได้หวาดกลัว แต่จงเรียนรู้บทเรียน บางครั้งมายามาเพื่อให้บทเรียนของความอดทนที่มั่นคง และบางครั้งก็ให้บทเรียนของการเป็นตัวแห่งความสงบที่มั่นคง ดังนั้นแทนที่จะพิจารณาว่ามายาเป็นศัตรูให้คิดว่าถึงเธอเป็นผู้ให้ความร่วมมือและลูกจะไม่รู้สึกกลัวหรือพ่ายแพ้ ลูกจะได้เรียนรู้บทเรียนและกลับมาไม่สั่นคลอนเหมือนองคด อย่าได้อ่อนแอและปลุกเรียกมายา และเธอก็จะอำลาลูกไป

คติพจน์:
ให้มีความยิ่งใหญ่ของความมุ่งมั่นในทุกความคิดและลูกจะได้รับความสำเร็จอยู่เรื่อยๆ 

คำพูดที่สูงส่งที่แสนหวานของมาเตชวารี

เพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้หนทางและวิธีการของท่านของการให้การหลุดพ้น

มีเพียงท่านเท่านั้นที่รู้หนทางและวิธีการของท่าน: การร้องเพลงสรรเสริญนี้เป็นความทรงจำของใคร? เพราะหนทางที่พระเจ้าให้การหลุดพ้นนั้นมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ มนุษย์ไม่สามารถรู้สิ่งนี้ได้ ผู้คนมีเพียงความปรารถนาที่จะมีความสุข แต่พวกเขาจะได้รับความสุขนั้นได้อย่างไร? พวกเขาไม่สามารถได้รับความสุขนั้น จนกว่าผู้คนจะเผากิเลสทั้งห้าของพวกเขาและทำให้การกระทำของพวกเขาเป็นกลาง ปรัชญาของการกระทำ การกระทำที่เป็นกลาง และการกระทำที่เป็นบาปนั้นลึกล้ำมาก ไม่มีมนุษย์คนไหน นอกจากพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถรู้ถึงผลสืบเนื่องของสิ่งเหล่านี้ มนุษย์ไม่สามารถได้รับการหลุดพ้นในชีวิต จนกว่าพระเจ้าจะบอกเราถึงผลสืบเนื่องเหล่านี้ เหตุนี้เองผู้คนจึงพูดว่า “เพียงท่านเท่านั้นที่รู้หนทางและวิธีการของท่าน” พระเจ้ามีหนทางและวิธีการสำหรับการให้การหลุดพ้นแก่ผู้นี้ เป็นหน้าที่ของพระเจ้าที่จะให้คำสอนว่าจะทำให้การกระทำเป็นกลางอย่างไร มนุษย์ไม่มีความรู้นี้ และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยังคงมีการกระทำที่ผิดๆอยู่เรื่อยๆ หน้าที่แรกของมนุษย์คือการเปลี่ยนแปลงการกระทำของพวกเขา เพราะเพียงเมื่อนั้นพวกเขาจะสามารถได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ของชีวิตมนุษย์ได้ อัจชะ