22/10/18       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน แทนการปล่อยให้สติปัญญาของลูกเร่ร่อนไปที่นี่ที่นั่น จดจำพ่อในบ้าน นำสติปัญญาของลูกไปไกลออกไป นี่เรียกว่าการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง

คำถาม:
สิ่งใดคือสิ่งชี้บอกของลูกที่จดจำพ่อด้วยหัวใจที่แท้จริง?

คำตอบ:
1 ลูกที่จดจำพ่อด้วยหัวใจที่แท้จริงนั้นไม่เคยกระทำการกระทำที่เป็นบาปใดๆ พวกเขาไม่เคยทำการกระทำใดที่จะประณามพ่อ พวกเขามีกิริยามารยาทที่ดีมาก

2 พวกเขาอยู่ในการจดจำระลึกถึงแม้ขณะรับประทานอาหาร พวกเขาตื่นขึ้นจากการหลับนอนของเขาอย่างเป็นธรรมชาติในเวลาที่ถูกต้อง พวกเขาอดทนอย่างยิ่งและอ่อนหวานอย่างยิ่ง พวกเขาไม่เคยซ่อนเร้นสิ่งใดจากพ่อ

เพลง:
การจาริกแสวงบุญของเรานั้นพิเศษสุด

โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ บางคนเข้าใจพ่อที่ไม่มีตัวตน บางคนเข้าใจพ่อที่มีตัวตน และบางคนเข้าใจแม่และพ่อ(Father) แม้แต่เมื่อแม่นี้และพ่อ(Father)อธิบาย แม่นั้นก็แยกจากพ่อ(Father) เมื่อผู้ที่ไม่มีตัวตนอธิบาย ผู้ไม่มีตัวตนก็แยกจากผู้มีตัวตน อย่างไรก็ตามเป็นพ่อผู้ที่อธิบายสิ่งนี้ เพียงลูกเท่านั้นที่รู้ว่ามีสถานที่จาริกแสวงบุญทางร่างและสถานที่จาริกแสวงบุญทางจิต การจาริกแสวงบุญทางร่างเหล่านั้นคงอยู่เป็นเวลาครึ่งวงจร ถ้าลูกพูดว่าการจาริกแสวงบุญทางร่างได้ดำเนินมาชาติแล้วชาติเล่าแล้วจะเป็นที่เข้าใจว่าการจาริกแสวงบุญเหล่านั้นดำเนินไปตั้งแต่ตอนเริ่มต้นและคงอยู่ตลอดไป ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่าการจาริกแสวงบุญเหล่านั้นได้ดำเนินไปเป็นเวลาครึ่งวงจร ในเวลานี้พ่อได้มาและอธิบายความลับของการจาริกแสวงบุญเหล่านั้นแก่ลูก “มานมานะภาฟ”หมายถึงการจาริกแสวงบุญทางจิต ท่านอธิบายแก่ดวงวิญญาณอย่างแน่นอนเพราะผู้ที่กำลังอธิบายคือพ่อสูงสุด ไม่มีใครอื่นสามารถอธิบายสิ่งนั้น แต่ละคนไปสู่สถานที่จาริกแสวงบุญของผู้ก่อตั้งศาสนานั้น นี้คือขนบธรรมเนียมของครึ่งวงจรด้วยเช่นกัน พวกเขาไปสู่สถานที่จาริกแสวงบุญทั้งหมด แต่สถานที่เหล่านั้นไม่สามารถให้การหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ผู้ใด พวกเขาเองไปในการจาริกแสวงบุญซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาไปในการจาริกแสวงบุญที่อมานาถและที่บาดรินาถทุกปี แล้วพวกเขาก็ไปสู่สถานที่จาริกแสวงบุญทั้งสี่ด้วยเช่นกัน ในเวลานี้พียงลูกเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับการจาริกแสวงบุญทางจิตนี้ พ่อสูงสุดทางจิตได้พูดว่า: มานมานะภาฟ ละทิ้งการจาริกแสวงบุญทางร่างทั้งหมด และจดจำพ่อและลูกจะไปสู่สวรรค์ที่แท้จริง การจาริกแสวงบุญหมายถึงการมาและการไป สิ่งนั้นเกิดขึ้นในเวลานี้เท่านั้น ไม่มีการจาริกแสวงบุญใดในยุคทอง ลูกจะไปและนั่งในอาศรมแห่งสวรรค์ตลอดเวลา ที่นี่พวกเขาเพียงแต่ให้ชื่อนั้นแก่สถานที่หนึ่ง ในความเป็นจริงไม่มีสวรรค์-อาศรม(อาศรมแห่งสวรรค์)ใดที่นี่ ยุคทองเรียกว่าเป็นอาศรมแห่งสวรรค์ นรกไม่สามารถได้รับชื่อนั้น ชาวนรกอาศัยอยู่ในนรกและชาวสวรรค์อาศัยอยู่ในสวรรค์ ที่นี่ผู้คนไปสู่อาศรมทางร่างแล้วกลับมา พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดอธิบายทั้งหมดนี้ ในความเป็นจริงมีกูรูที่ไม่มีขีดจำกัดที่แท้จริงเพียงผู้เดียวเท่านั้น พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดคือผู้เดียวเท่านั้นด้วยเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาพูดถึงกูรู อกาคาน เขาก็ไม่ใช่กูรูอย่างแท้จริง เขาไม่ใช่ผู้ประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส หากเขาคือผู้ประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสเขาเองจะสามารถไปสู่การหลุดพ้นและการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส เขาไม่สามารถเรียกว่าเป็นกูรู พวกเขาเพียงแต่ให้ชื่อนั้นแก่เขา ชาวซิกข์พูดว่า: สัทกูรูอกาล(ผู้ที่เป็นอมตะ) ในความเป็นจริงเพียงดวงวิญญาณสูงสุดเดียวเท่านั้นคือสัท ศรี อกาลที่เรียกว่าเป็นสัทกูรูด้วยเช่นกัน ท่านผู้เดียวคือผู้ที่ประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส ผู้คนของอิสลาม ชาวพุทธและ

บราห์มา ฯลฯ ไม่สามารถทำสิ่งนี้ แม้ว่าพวกเขาพูดถึงกูรูบราห์มา กูรูวิษณุ แม้ว่าบราห์มาสามารถเรียกว่าเป็นกูรูก็ไม่สามารถมีกูรูวิษณุหรือกูรูชางก้า อย่างแน่นอนที่มีชื่อของกูรูบราห์มาแต่ต้องมีกูรูของกูรูบราห์มาด้วยเช่นกัน สัท ศรี อกาล ไม่มีกูรูใด ท่านคือสัทกูรูเดียวเท่านั้น ไม่มีกูรูหรือนักปราชญ์ ฯลฯ ที่ให้ความรู้ทางจิตนอกจากผู้เดียว พระพุทธเจ้า ฯลฯ นำทุกคนอื่นลงมากับพวกเขา เขาต้องผ่านสภาพรโชและตโม เขาไม่ได้มาเพื่อประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส ชื่อ “ผู้ประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส” เป็นที่รู้จักสำหรับผู้เดียวเท่านั้น แต่แล้วท่านได้ถูกเรียกว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันด้วยเช่นกัน ในกรณีนั้นสิ่งใดคือความจำเป็นที่จะรับกูรู? ฉันคือกูรู ท่านคือกูรู ฉันคือชีวาและท่านคือชีวา...ไม่มีผู้ใดจะได้รับความสมใจกับสิ่งนั้น แต่ ใช่ เพราะพวกเขานั้นบริสุทธิ์พวกเขาจึงได้รับความนับถือ แต่พวกเขาไม่สามารถประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส เป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นกูรูที่แท้จริง มีกูรูหลายประเภทแม้แต่ผู้เป็นนายที่สอนลูกก็เรียกว่าเป็นกูรู ผู้นี้คือผู้เป็นนายด้วยเช่นกัน ท่านสอนวิธีที่จะรบรากับมายาแก่ลูก ลูกๆ มีความรู้ของการเป็นตรีกาลดาร์ชิ ที่ลูกกลายเป็นผู้ปกครองโลก เพียงผู้ที่รู้จักวงจรโลกเท่านั้นที่กลายเป็นราชาที่เป็นผู้ปกครองโลก การรู้จักวงจรของละครและการรู้ถึงตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของต้นกัลปะคือสิ่งเดียวกัน สัญลักษณ์ของวงจรได้ถูกเอ่ยถึงในคัมภีร์มากมาย หนังสือปรัชญานั้นแยกไป มีหนังสือหลายประเภท ที่นี่ลูกไม่ต้องการหนังสือใดๆ ลูกต้องเข้าใจว่าพ่อกำลังสอนสิ่งใดแก่ลูก ลูกทั้งหมดมีสิทธิ์ต่อทรัพย์สมบัติของพ่อ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนจะมีทรัพย์สมบัติเดียวกันในสวรรค์ อาณาจักรเป็นของผู้ที่เป็นของพ่อ เมื่อลูกพูดว่า“บาบา”และรับฟังแม้กระทั่งความรู้เล็กน้อยลูกก็ประกาศสิทธิ์ แต่สิ่งนั้นต่างลำดับกันไป มีความแตกต่างอย่างมากมายระหว่างจักรพรรดิของโลกและปวงประชาและสาวใช้คนรับใช้ ทั้งอาณาจักรกำลังได้รับการก่อตั้ง ด้วยการเป็นของพ่ออย่างแน่นอนลูกได้รับมรดกแห่งสวรรค์ ลูกได้รับมรดกจากพ่อ เพราะสิ่งเหล่านี้ใหม่ ผู้คนไม่เข้าใจ พ่ออธิบายว่าไม่มีกิเลสใดในยุคทอง มายาเองไม่ได้คงอยู่ที่นั่น ดังนั้นกิเลสจะมาจากที่ใดได้เล่า? อาณาจักรของมายาเริ่มในยุคทองแดง สิ่งเหล่านี้คือโซ่ตรวนทั้งห้าของราวัน สิ่งเหล่านั้นไม่ได้คงอยู่ที่นั่น ลูกไม่ต้องไปสู่การอธิบายมากมาย นั่นคือโลกที่ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามขนบธรรมเนียมใดก็ตามที่เป็นขนบธรรมเนียมของการให้กำเนิดแก่ลูก การฉลองการขึ้นครองราชย์และการสร้างประสาทราชวัง ฯลฯ อย่างแน่นอนที่สิ่งเหล่านั้นจะดีเพราะนั้นคือสวรรค์ พ่ออธิบายว่าลูก: ลูกๆ ต้องเชื่อมโยงโยคะของสติปัญญาของลูกกับการจาริกแสวงบุญทางจิตนี้อย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้ง่ายดายอย่างยิ่ง ผู้คนตื่นแต่เช้าตรู่ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ดังนั้นแม้กระทั่งในหนทางของความรู้ ลูกต้องตื่นแต่เช้าตรู่และจดจำพ่อ ลูกต้องไม่ศึกษาหนังสืออื่นใด ฯลฯ พ่อพูดว่า: จดจำพ่อผู้เดียวเพราะความตายของทุกคนเยาว์วัยและสูงวัยนั้นอยู่เพียงเบื้องหน้า เมื่อบุคคลหนึ่งกำลังตายผู้คนอื่นพูดกับบุคคลนั้นว่า: จดจำพระเจ้า หากลูกไม่จดจำพระเจ้าในชั่วขณะสุดท้ายของลูก ลูกจะไม่สามารถไปสู่สวรรค์ได้! ดังนั้นพ่อก็พูดด้วยเช่นกันว่า: มานมานะภาฟ ลูกต้องไม่แม้กระทั่งจดจำร่างกายนี้ ฉัน ดวงวิญญาณ เป็นนักแสดงลูกของชีพบาบา ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปลูกจะไม่บอกให้เด็กเล็กๆจดจำพระเจ้า ที่นี่ลูกต้องบอกทุกคนเพราะทุกคนต้องไปหาพ่อ ลูกต้องเชื่อมโยงโยคะของสติปัญญาของลูกกับพ่อ ลูกต้องไม่ต่อสู้หรือทะเลาะแบะแว้งกับผู้ใด นั่นคือความเสียหายอย่างยิ่ง เมื่อบางคนพูดบางสิ่งเพียงแต่เพิกเฉยต่อสิ่งนั้นราวกับว่าลูกไม่ได้ยินสิ่งนั้น ลูกไม่ควรสร้างความขัดแย้งใดที่จะเริ่มการต่อสู้ ลูกต้องอดทนในทุกสถานการณ์และลูกต้องเข้าใจด้วยเช่นกันว่าพ่อคือพ่อ และดรามราชด้วยเช่นกัน ถ้าสิ่งใดเกิดขึ้น เพียงแต่รายงานสิ่งนั้นกับพ่อแล้วสิ่งนั้นจะไปถึงดรามราชอยู่ดี และบุคคลนั้นจะได้รับการลงโทษ พ่อพูดว่า: พ่อให้ความสุข เป็นดรามราชที่ให้ความทุกข์ นั่นคือการลงโทษ พ่อไม่มีสิทธิ์ที่จะให้การลงโทษ ลูกบอกพ่อและแล้วดรามราชจะให้การลงโทษ ด้วยการบอกบาบาเกี่ยวกับสิ่งนั้นลูกจะเบาสบายเพราะดรามราชยังคงเป็นมือขวา ผู้ที่ประณามสัทกูรูไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางของเขาได้ เพียงดรามราชเท่านั้นที่จะตัดสินว่าใครจะถูกตำนิ ไม่มีสิ่งใดสามารถซ่อนเร้นจากท่านได้ มีคำกล่าวว่าความผิดพลาดถูกทำขึ้นตามละคร แต่ได้มีการทำความผิดพลาดในวงจรที่แล้วด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้หมายว่าลูกจะเฝ้าแต่ทำความผิด ในกรณีนั้นลูกจะเป็นอิสระจากการทำความผิดได้อย่างไร? ถ้าลูกทำความผิดลูกต้องขอการให้อภัย ในเบงกอลหากใครบางคนแตะเท้าของบางคนโดยบังเอิญเขาจะขออภัยในทันที ที่นี่ผู้คนเฝ้าแต่ดูถูกดูหมิ่นกันและกัน ใครก็ตามควรมีกิริยามารยาทที่ดีมาก พ่อสอนอย่างมากแต่เมื่อบางคนไม่เข้าใจก็เป็นที่เข้าใจว่าทะเบียนประวัติของเขานั้นไม่ดี เขาเฝ้าแต่เป็นเหตุของการประณาม สถานภาพของเขาจะถูกทำลาย ถึงอย่างไรก็มีภาระของบาปชาติแล้วชาติเล่า ซึ่งจะต้องได้รับการลงโทษสำหรับบาปนั้น หากบางคนอยู่ที่นี่แล้วทำการกระทำที่เป็นบาปบางอย่างเขาจะได้การลงโทษหนึ่งร้อยเท่าสำหรับบาปนั้น การถูกลงโทษจะต้องได้รับเป็นประสบการณ์ บาบาอธิบายเกี่ยวกับการสังเวยตนเองที่คาชี นั่นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา สิ่งนี้อ้างอิงถึงหนทางของความรู้ ประการแรกมีบาปกรรมของอดีตและประการที่สองไม่ว่าความผิดอะไรก็ตามที่ลูกทำในเวลานี้ลูกก็สะสมการลงโทษหนึ่งร้อยเท่าสำหรับสิ่งนั้น จะต้องมีประสบการณ์การลงโทษที่รุนแรง พ่ออธิบายทุกสิ่ง อย่าได้กระทำบาปใดๆ กลายเป็นผู้ทำลายความผูกพันยึดมั่น สิ่งนี้ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก ลูกต้องไม่จดจำมาม่าและบาบานี้ ลูกจะไม่สะสมสิ่งใดด้วยการจดจำท่านทั้งสอง ชีพบาบาเข้ามาในผู้นี้ ดังนั้นลูกต้องจดจำชีพบาบา ไม่ใช่ว่าเพราะชีพบาบามาในผู้นี้ลูกต้องจดจำผู้นี้ ไม่เลย ลูกต้องจดจำชีพบาบาเบื้องบนนั้น ลูกต้องจดจำชีพบาบาและบ้านที่แสนหวานของลูก เก็บรักษาสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูกเช่นจินนี่: ชีพบาบาอาศัยอยู่เบื้องบนนั้น ชีพบาบามาที่นี่และพูดกับเราแต่เราต้องจดจำท่านเบื้องบนนั้นไม่ใช่ข้างล่างที่นี่ สติปัญญาของลูกควรไปไกลออกไป ไม่ได้คงอยู่ที่นี่ ถึงอย่างไรชีพบาบาจะจากไป ชีพบาบาเข้ามาในผู้นี้เท่านั้น ลูกไม่สามารถเห็นท่านในมาม่า ลูกรู้ว่านี่คือพาหนะของบาบา แต่ลูกมองดูที่ใบหน้านี้ ให้สติปัญญาของลูกแขวนอยู่เบื้องบนที่นั่น ลูกจะไม่ทำให้ตนเองสนุกสนานมากนักด้วยการเก็บรักษาสติปัญญาของลูกที่นี่เบื้องล่าง นี่ไม่ใช่การจาริกแสวงบุญ ขีดจำกัดของการจาริกแสวงบุญของลูกอยู่เบื้องบนที่นั่น ไม่ใช่ว่าลูกควรเฝ้าแต่มองดูบาบาเพราะชีพบาบาอยู่ในเขา ในกรณีนั้นนิสัยของการไปสู่เบื้องบนของลูกจะเสียไป พ่อพูดว่า: จดจำพ่อเบื้องบนที่นั่น เชื่อมโยงสติปัญญาของลูกในโยคะที่นั่น บางคนที่โง่เขลา(บุดดู)คิดว่าพวกเขาควรเพียงแต่นั่งอยู่ที่นี่เฝ้าแต่มองดูบาบา โอ แต่ลูกต้องเชื่อมโยงสติปัญญาของลูกกับบ้านที่แสนหวาน ชีพบาบาไม่สามารถนั่งอยู่ในพาหนะนี้อย่างสม่ำเสมอได้ ท่านเพียงแต่มาที่นี่และทำงานรับใช้ ท่านมาใช้พาหนะของท่าน ทำงานรับใช้และจากไป ไม่มีใครสามารถขี่วัวได้เสมอ ดังนั้นสติปัญญาของลูกควรคงอยู่ที่นั่น บาบามา พูดมุร์ลีและแล้วก็จากไป สติปัญญาของผู้นี้อยู่เบื้องบนที่นั่นด้วยเช่นกัน ลูกควรทำตามหนทางที่ถูกต้อง มิฉะนั้นลูกจะตกออกไปจากทางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้เดียวนั้นอยู่ที่นี่เป็นเวลาอันสั้นเท่านั้น หากชีพบาบาไม่ได้อยู่ในเขา เหตุใดลูกจะจดจำผู้นี้เล่า? แม้กระทั่งผู้นี้สามารถพูดมุร์ลีได้ บางครั้งท่านอยู่ในผู้นี้และบางครั้งท่านก็ไม่ได้อยู่ บางครั้งท่านพักผ่อน ลูกต้องจดจำท่านที่นั่น บางครั้งบาบามีความคิดว่า: ตามละคร ฉันจะไปและพูดมุร์ลีเดียวกันที่ฉันพูดในวันนี้ในวงจรที่แล้ว ลูกสามารถพูดด้วยเช่นกันว่าลูกจะประกาศสิทธิ์ในมรดกจากพ่อมากเท่าที่ลูกเคยทำในวงจรที่แล้วด้วยเช่นกัน อย่างแน่นอนลูกต้องเอ่ยถึงชื่อของชีพบาบา อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดจะรู้วิธีที่จะพูดสิ่งนี้ ชื่อของพ่อจะต้องได้รับการจดจำอย่างแน่นอน ลูกเพียงแต่ต้องให้คำแนะนำของพ่อ ไม่ใช่ว่าลูกเพียงแต่ต้องนั่งและมองดูผู้นี้ บาบาได้อธิบายว่า: จดจำชีพบาบา มิฉะนั้นจะมีการทำบาป ลูกต้องจดจำพ่ออย่างสม่ำเสมอ มิฉะนั้นบาปของลูกจะไม่ได้รับการปลดเปลื้อง จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก สิ่งนี้ไม่เหมือนการไปบ้านป้าของลูก ไม่ควรเป็นว่าเมื่อลูกเริ่มรับประทานอาหารของลูก ลูกก็จดจำบาบาแล้วก็เท่านั้นเองที่ลูกเริ่มที่จะรับประทานเพียงเช่นนั้น ไม่เลย ลูกต้องจดจำท่านตลอดเวลาที่ลูกกำลังรับประทาน สิ่งนี้อาศัยความเพียรพยายาม ลูกไม่สามารถได้รับสถานภาพที่สูงเพียงเช่นนั้น เหตุนี้เองลูกสามารถมองเห็นว่าจากจำนวนหลายล้านเพียงแปดเพชรพลอยเท่านั้นที่สอบผ่าน จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก ลูกต้องกลายเป็นนายของโลก สิ่งนี้ไม่อยู่ในสติปัญญาของผู้ใด สิ่งนี้ไม่ได้แม้อยู่ในสติปัญญาของผู้นี้ เพียงแต่คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ว่า: ผู้ใดจะได้รับ 84 ชาติเกิด? อย่างแน่นอนผู้ที่มาก่อนคือลักษมีและนารายณ์ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดคือสิ่งที่ลูกต้องไตร่ตรอง พ่ออธิบายว่า: ขอให้มือของลูกทำงานขณะที่หัวใจของลูกคงอยู่ในการจดจำระลึกถึง ลูกอาจจะเฝ้าแต่ทำธุรกิจ ฯลฯ ของลูก แต่ลูกต้องเฝ้าแต่จดจำพ่ออย่างสม่ำเสมอ นี่คือการจาริกแสวงบุญ ลูกไม่ต้องไปสู่การจาริกแสวงบุญเหล่านั้นแล้วกลับ ผู้คนมากมายไปในการจาริกแสวงบุญ แต่ขณะนี้เป็นสิ่งที่สกปรกมากแม้ที่นั่น ไม่ควรมีโรงค้าประเวณีเลยในที่สถานที่จาริกแสวงบุญ ในเวลานี้มีการคดโกงอย่างมาก ไม่มีผู้เป็นนายแม้คนเดียวที่นั่น พวกเขาเริ่มที่จะดูถูกดูหมิ่นกันและกันอย่างรวดเร็ว วันนี้บางคนอาจจะเป็นหัวหน้ารัฐมนตรี และในวันพรุ่งนี้พวกเขาอาจจะโยนเขาออกไป พวกเขากลายเป็นทาสของมายา พวกเขาสะสมเงินทองและสร้างบ้าน ฯลฯ พวกเขาแม้กระทั่งขโมยเพื่อที่จะได้รับสมบัติ ในเวลานี้ลูกกำลังเตรียมการเพื่อจะไปสวรรค์ ลูกควรจดจำสิ่งนั้นเท่านั้น ลูกต้องสร้างสมทุกสิ่งด้วยเช่นกัน ลูกควรเขียนมุร์ลีลงไปและทบทวนสิ่งนั้น ลูกมีเวลาว่างมากมาย ในเวลากลางคืนลูกมีเวลามากมาย คงตื่นอยู่ในเวลากลางคืนและลูกจะปลูกฝังนิสัยนั้น ดวงตาของผู้ที่จดจำบาบาอย่างแท้จริงจะเปิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ บาบาบอกประสบการณ์ของท่านเองแก่ลูกว่าท่านตื่นอยู่ในเวลากลางอย่างเป็นธรรมชาติอย่างไร ทุกวันนี้ผู้คนทำความเพียรพยายามเพิ่มอย่างมากเพื่อที่จะนอนหลับ ใช่อย่างแน่นอนที่ร่างกายนั้นเหน็ดเหนื่อยด้วยการทำงานทางร่างอย่างมากมาย ดูซิว่าพาหนะของบาบานั้นแก่ชราเพียงใด! เพียงแต่คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้นว่า: บาบาเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์และทำความเพียรพยายามอย่างมากมาย ท่านเคยทำความเพียรพยายามอย่างมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา และแม้กระทั่งในเวลานี้ท่านทำความเพียรพยายามอย่างมากมาย ร่างกายนั้นไม่บริสุทธิ์และโลกก็ไม่บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน บาบาพูดว่า: พ่อมีการพักอย่างมากมายเป็นเวลาครึ่งวงจร พ่อไม่ต้องคิดถึงสิ่งใด พ่อต้องคิดอย่างมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา เหตุนั้นเองพ่อได้รับการจดจำว่าเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา มหาสมุทรแห่งความรู้และมหาสมุทรแห่งปิติสุข พวกเขายกย่องท่านอย่างมาก พ่อเดียวกันนั้นกำลังสอนพวกเราอยู่ ไม่มีใครอื่นสามารถสอนพวกเราได้ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. อย่าได้ต่อต้านผู้ใด หากบางคนพูดบางสิ่งเพียงแต่เพิกเฉยสิ่งนั้นราวกับว่าลูกไม่ได้ยินสิ่งใด ลูกต้องกลับมาอดทน ลูกต้องไม่ทำให้สัทกูรูถูกประณาม

2. ลูกต้องไม่ปล่อยให้ทะเบียนประวัติของลูกนั้นเสียไป หากลูกทำความผิดใด บอกพ่อเกี่ยวกับสิ่งนั้นแล้วร้องขอการให้อภัย ปลูกฝังนิสัยของการจดจำท่านที่เบื้องบนนั้น

พร:
ขอให้ลูกเป็นจุติของความอดทน และเพียงแค่ปรับตนเองแทนที่จะถอยห่างออกไป

ลูกบางคนขาดพลังของความอดทนและแม้กระทั่งเมื่อมีบางสิ่งเกิดขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมาก และแล้วอันเนื่องมาจากความกลัวพวกเขาก็คิดถึงการเปลี่ยนสถานที่อยู่ของพวกเขาหรือพวกเขาก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงคนที่ทำให้พวกเขามีความทุกข์ พวกเขาจะไม่เปลี่ยนตัวเขาเอง แต่จะก้าวออกไปจากผู้อื่น ดังนั้นแทนที่จะเปลี่ยนสถานที่ของลูกหรือคิดที่จะเปลี่ยนแปลงผู้อื่น จงเปลี่ยนแปลงตนเอง: กลายเป็นจุติของความอดทน เรียนรู้วิธีที่จะปรับตนเองให้เข้ากับทุกคน

คติพจน์:
การพยายามมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบนพื้นฐานของกิจกรรมของพระเจ้าของลูกคือคุณภาพของโยคี