18.11.18       Avyakt Bapdada        Thai  Murli     04.04.84      Om Shanti       Madhuban


ช่วงเวลาที่สูงส่งของยุคบรรจบพบกันคือเวลาที่จะวาดภาพของโชคที่สูงส่งของลูก


วันนี้บัพดาดาได้เห็นช่วงเวลาของการเกิดของชีวิตที่สูงส่งและเส้นโชคของดวงวิญญาณบราห์มินที่สูงส่งทั้งหมด ช่วงเวลาของการเกิดของลูกทุกคนมีความสูงส่งเพราะเวลานี้คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งซึ่งเป็นสิริมงคลที่สุด ลูกทุกคนได้เกิดเป็นบราห์มินที่สูงส่งในยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สูงส่งที่สุด ช่วงเวลาของการเกิดของลูกทุกคนสูงส่ง เส้นโชคและโชคของลูกบราห์มินทุกคนสูงส่งเพราะลูกเป็นของวงศ์สกุลชีพบราห์มา กุมารและกุมารีซึ่งเป็นของพ่อที่สูงส่ง พ่อที่สูงส่ง ชาติเกิดที่สูงส่ง มรดกที่สูงส่ง ครอบครัวที่สูงส่ง และสมบัติที่สูงส่งเส้นโชคนี้ของลูกทุกคนสูงส่งตั้งแต่เกิด ช่วงเวลาสูงส่งและเนื่องจากการได้มาซึ่งการบรรลุผล เส้นโชคจึงสูงส่งด้วยเช่นกัน ลูกทุกคนได้รับโชคประเภทเดียวกันจากพ่อผู้เดียวกันไม่มีอะไรแตกต่างในสิ่งนี้ แม้ว่าลูกจะได้รับโชคเดียวกันที่เหมือนกัน แล้วเหตุใดจึงตามลำดับกันไป?พ่อเดียวกัน ชาติเกิดเดียวกัน มรดกเดียวกัน ครอบครัวเดียวกัน ช่วงเวลาก็เป็นช่วงเดียวกันของยุคบรรจบพบกัน แล้วทำไมจึงมีอันดับ?ลูกทุกคนได้รับการบรรลุผลที่ไม่มีขีดจำกัด นั่นคือโชคที่ไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นทำไมจึงมีความแตกต่าง?ความแตกต่างถูกสร้างขึ้นในวิธีที่ลูกนำโชคไม่มีขีดจำกัดไปสู่ภาพของการกระทำในชีวิตของลูกตามความสามารถของลูก ชีวิตบราห์มินหมายถึงการวาดภาพโชคของลูก เพื่อนำโชคเข้ามาในชีวิตของลูก เพื่อนำไปสู่ทุกการกระทำของลูก ผู้ที่มีโชคควรจะสัมผัสกับโชคในทุกความคิดทุกคำพูดและทุกการกระทำ นั่นคือโชคควรจะมองเห็นได้ บราห์มินหมายถึงดวงวิญญาณที่มีโชค ผู้ที่ดวงตา หน้าผาก และรอยยิ้มบนใบหน้าจะให้ประสบการณ์ของโชคที่สูงส่งในทุกย่างก้าวแก่ทุกคน สิ่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นการวาดภาพของโชค จงวาดภาพโชคของลูกด้วยปากกาของประสบการณ์บนกระดาษของการกระทำวาดเส้นภาพของโชคของลูก ลูกทุกคนกำลังสร้างภาพของลูก แต่ภาพของลูกบางคนก็สมบูรณ์ในขณะที่ภาพของลูกคนอื่นยังขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อลูกนำสิ่งนี้ไปปฏิบัติในชีวิตของลูก เส้นของหน้าผากหมายถึงความคิดของลูก เส้นของดวงตาหมายถึงสายตาทางจิต เส้นของรอยยิ้มบนใบหน้าของลูกหมายถึงการเป็นดวงวิญญาณที่พอใจอย่างสม่ำเสมอและเป็นตัวของการบรรลุผลทั้งหมด ความพอใจของตัวมันเองคือเส้นของรอยยิ้ม เส้นของมือหมายถึงเส้นของการกระทำที่สูงส่ง เส้นของเท้าหมายถึงพลังที่จะใช้ทุกย่างก้าวตามศรีมัท ในทำนองนี้ที่มีความแตกต่างในวิธีที่ลูกวาดภาพโชคของลูก ในบางคนสิ่งหนึ่งขาดหายไปและในคนอื่นๆ สิ่งอื่นๆขาดหายไป เมื่อมีการวาดภาพร่างกาย บางคนไม่รู้ว่าจะวาดดวงตาอย่างไร บางคนไม่รู้ว่าจะวาดขาอย่างไร บางคนไม่รู้ว่าจะวาดรอยยิ้มอย่างไร และดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้เกิดความแตกต่าง เท่าที่ภาพนั้นมีความสมบูรณ์พร้อม ภาพนั้นก็จะมีค่ามากเท่านั้น ภาพของบางคนหารายได้ให้กับพวกเขาได้หลายร้อยหลายพันรูปี ในขณะที่ภาพของคนอื่นๆหารายได้แทบจะไม่ถึงร้อยรูปี ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างคืออะไร?ความสมบูรณ์พร้อม ในทำนองเดียวกันเพราะลูกดวงวิญญาณบราห์มินไม่สมบูรณ์พร้อมในทุกเส้น เพราะไม่มีความสมบูรณ์ในหนึ่งเส้นหรือสองเส้น ลูกจึงตามลำดับกันไป

ดังนั้นวันนี้บาบาได้มองที่ภาพของลูกที่มีโชค เช่นที่โชคทางกายภาพมีโชคประเภทต่างๆ ในทำนองเดียวกันที่นี่เช่นกันบาบาได้เห็นภาพของโชคประเภทต่างๆมากมาย ในทุกๆภาพคุณลักษณะหลักๆ-ดวงตาและหน้าผาก-ช่วยเพิ่มคุณค่าของภาพ ในทำนองเดียวกันที่นี่พลังของทัศนคติของจิตใจและพลังของสายตาทางจิตของดวงตาก็มีความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานของภาพ ลูกทุกคนมองดูภาพของลูกเองหรือไม่?ภาพของลูกเสร็จสมบูรณ์มากแค่ไหน?ลูกได้วาดภาพเช่นนั้นที่ผู้เป็นหนึ่งเดียวที่สร้างโชคของลูกสามารถมองเห็นได้ในภาพนั้นหรือไม่?ตรวจสอบทุกเส้น มันตามลำดับกันไปเพราะสิ่งนี้ ลูกเข้าใจไหม?

ผู้ประทานคือผู้เดียวและท่านก็ให้ทุกคนสิ่งเดียวกัน แต่ผู้ที่กำลังสร้างภาพนั้นก็ยังตามลำดับกันไปในวิธีที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมา บางคนกลายเป็นหนึ่งในแปดที่พิเศษและเทพพิเศษที่เป็นที่รัก บางคนกลายเป็นเทพ บางคนกลายเป็นผู้ที่มีความสุขเพียงแค่มองดูเทพอื่น ๆ ลูกได้เห็นภาพของลูกเองหรือไม่?อัจชะ

สำหรับการพบปะในรูปที่มีตัวตน ก็จะต้องมีการพิจารณาเรื่องเวลาและจำนวนของคน ในขณะที่การพบปะในรูปอะแวคจะไม่มีเรื่องของเวลาหรือจำนวนของผู้คนเลย หากลูกมีประสบการณ์ในการพบปะในรูปอะแวค ลูกก็จะเฝ้าแต่มีประสบการณ์ที่พิเศษสุดในการพบปะในรูปอะแวคอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ บัพดาดามีความเชื่อฟังลูกทั้งหมดอย่างอย่างสม่ำเสมอ นี่คือเหตุผลที่แม้ว่าท่านจะอะแวคท่านก็ยังต้องเข้ามาในรูปที่มีตัวตน (วะแยค)อย่างไรก็ตามลูกต้องกลายเป็นอะไร?ลูกต้องกลายเป็นอะแวคใช่หรือไม่?หรือลูกต้องการเข้ามาในรูปที่มีตัวตน?จงกลายเป็นอะแวค ด้วยการกลายเป็นอะแวคลูกจะกลับมาไม่มีตัวตนและกลับบ้านพร้อมกับพ่อ ลูกยังไม่ถึงสภาพที่จะไปถึงทางผ่าน ด้วยรูปที่เป็นเทวดา-นางฟ้าลูกจะสามารถกลับมาไม่มีตัวตนและกลับบ้านได้ แล้วเวลานี้ลูกได้กลายเป็นรูปที่เป็นเทวดา-นางฟ้าแล้วหรือยัง?ลูกได้วาดภาพของโชคของลูกเสร็จแล้วหรือยัง?เพียงรูปที่วาดเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้นคือเทวดา-นางฟ้า อัจชะ

ลูกทุกคนที่มาจากทุกโซนที่แตกต่างกัน บัพดาดายินดีที่ได้เห็นลูกแต่ละคนด้วยคุณสมบัติพิเศษของแต่ละโซน ลูกบางคนอาจจะไม่รู้เรื่องภาษา แต่ลูกมีความฉลาดถ้าจะพูดถึงเรื่องภาษาของความรักและความเลื่อมใสศรัทธา ลูกไม่รู้สิ่งอื่นใด แต่ลูกรู้ภาษาของมุรลีด้วยความรักและความเลื่อมใสศรัทธาของพวกเขา แม้แต่คนที่ไม่สามารถเข้าใจอะไรเลยก็สามารถเข้าใจได้ ผู้ที่มาจากเบงกอลและพิหารมีชีวิตอยู่ในสภาพอากาศที่เป็นฤดูใบไม้ผลิตลอดเวลา พวกเขามีฤดูใบไม้ผลิอย่างสม่ำเสมอ

ปัญจาบเป็นเช่นนั้นที่ทำให้ทุกสิ่งสดชื่นและเขียวชอุ่ม (ทำให้ทุกคนเต็ม) มีการเก็บเกี่ยวที่ดีในปัญจาบ ฮาริยาน่าเต็มไปด้วยสีเขียวเสมอ (ฮาร่าบาร่า) ปัญจาบและฮาริยาน่าเต็มไปด้วยสีเขียว ที่ใดมีความเขียวชอุ่มที่นั่นกล่าวได้ว่ามีความสุขและความพอใจและเป็นสถานที่ที่สูงส่งเสมอ ปัญจาบและฮาริยาน่าเต็มไปด้วยความสุข ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงมีความยินดีที่ได้เห็นลูกทุกคน คุณสมบัติพิเศษของราชสถานคืออะไร?ราชสถานเป็นที่รู้จักกันดีเป็นอย่างมากสำหรับงานศิลปะ ภาพของราชสถานมีคุณค่ามากเพราะมีราชามากมายที่นั่น ดังนั้นผู้ที่มาจากราชสถานเป็นผู้ที่จะทำให้ภาพของโชคมีค่าที่สุด ในสายศิลปะลูกมีความสูงส่งเสมอ คุณสมบัติพิเศษของคุชราตคืออะไร?มีการประดับประดาด้วยกระจกแก้วอยู่มากมายที่นั่น ดังนั้นคุชราตคือกระจก เป็นกระจกที่สามารถมองเห็นรูปของพ่อได้ ลูกมองใบหน้าของลูกในกระจกใช่ไหม?ดังนั้นกระจกของคุชราตมีคุณสมบัติพิเศษของการแสดงภาพลักษณ์ของพ่อและภาพลักษณ์ของเทวดา-นางฟ้าให้ทุกคนได้เห็น คุณสมบัติพิเศษของคุชราตคือกระจกที่จะเปิดเผยพ่อ สุดท้ายทมิฬนาฑูเล็กๆยังคงเหลืออยู่ คนที่ตัวเล็กกว่าทำงานที่มหัศจรรย์ พวกเขาทำงานที่ใหญ่โต ผู้ที่มาจากทมิฬนาฑูจะทำอะไร?มีวัดมากมายหลายแห่งที่นั่น พวกเขาเล่นดนตรีในวัด คุณสมบัติพิเศษของทมิฬนาฑูคือการตีกลองและทำให้เสียงของการเปิดเผยของพ่อดังมาก ลูกมีคุณสมบัติพิเศษที่ดี บางคนเล่นดนตรีแม้กระทั่งในวัยเด็กของพวกเขา แม้กระทั่งบักกัตก็เล่นดนตรีด้วยความรักเป็นอย่างมาก ลูกเล่นดนตรีด้วยความรักเช่นกัน เวลานี้ในแต่ละสถานที่ของลูก ลูกจะต้องนำคุณสมบัติพิเศษของลูกไปใช้ในรูปปฏิบัติ ตอนนี้บาบาได้พบกับผู้ที่มาจากทุกโซนแล้วใช่ไหม?ในที่สุดนี้ก็เป็นวิธีของการพบปะที่จะเกิดขึ้น ลูกที่เก่าแก่กว่าพูดว่า: ทำไมท่านไม่เชิญพวกเรา?ลูกสร้างปวงประชาและลูกต้องเพิ่มจำนวนปวงประชาด้วยเช่นกัน และดังนั้นผู้ที่เก่าแก่กว่าจะต้องให้โอกาสกับลูกที่ใหม่กว่า แล้วเมื่อนั้นจำนวนก็สามารถเพิ่มขึ้นได้ ถ้าผู้ที่เก่าแก่กว่ายังคงเคลื่อนไปตามเส้นทางเก่าแบบเดิมๆแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่?คนที่เก่าแก่กว่าเป็นผู้ประทานผู้ให้และคนที่ใหม่กว่าคือผู้ที่รับ ดังนั้นลูกต้องให้โอกาสกับผู้อื่น ลูกต้องกลายเป็นผู้ประทานในสิ่งนี้ มีข้อจำกัดมากมายในการพบปะผ่านรูปที่มีตัวตน ในการพบปะที่อะแวคไม่มีข้อ จำกัดอะไรเลย บางคนถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อจำนวนเพิ่มขึ้น?วิธีการของการพบปะที่มีตัวตนจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อจำนวนเพิ่มขึ้นลูกจะต้องให้ทานบางสิ่งและทำบุญบ้างด้วยเช่นกัน อัจชะ

ถึงลูกทุกคนจากแผ่นดินนี้และจากต่างแดน ในการตอบสนองต่อเสียงของหัวใจที่มีความรักของพวกเขา เพลงแห่งความสุขและจดหมายข่าวในหัวใจของพวกเขา พร้อมกับการให้ความรักและการจดจำระลึกถึงลูกทั้งหมดหลายล้านเท่า บัพดาดาก็ได้ให้การตอบจดหมายของพวกเขาด้วยเช่นกัน ด้วยการมีการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอก็จะเป็นผู้ที่ได้รับพรของความเป็นอมตะและจะเฝ้าแต่ก้าวไปข้างหน้าและทำให้ผู้อื่นก้าวไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน ถึงลูกทุกคนที่รักษาความจริงจังและความกระตือรือร้นของพวกเขา บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกสำหรับความก้าวหน้าของตนเองและความก้าวหน้าของงานรับใช้ ขอแสดงความยินดี! ลูกอยู่กับพ่ออยู่เสมอ ลูกเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมเสมอ ถึงลูกที่ได้รับพรทั้งหมดเช่นนั้น บัพดาดาให้ความรักและระลึกถึงลูกอีกครั้งหนึ่ง รัก ระลึกถึง และนมัสเต

บัพดาดาพบกลุ่ม:

ลูกพิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณที่สมบูรณ์และทัดเทียมกับพ่อหรือไม่?ผู้ที่สมบูรณ์จะเฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้าอยู่เสมอ หากไม่มีความสมบูรณ์แล้วลูกก็จะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ดังนั้นพ่อเป็นเช่นไรลูกก็เป็นเช่นนั้น พ่อเป็นมหาสมุทรและลูกก็เป็นนายมหาสมุทร จงตรวจสอบคุณธรรมทั้งหมด เช่นที่พ่อเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ดังนั้นลูกก็เป็นนายมหาสมุทรแห่งความรู้ พ่อเป็นมหาสมุทรแห่งความรักและดังนั้นลูกก็เป็นนายมหาสมุทรแห่งความรัก ตรวจสอบความคล้ายคลึงกันของลูกในลักษณะนี้ และแล้วเมื่อนั้นลูกก็จะมีความทัดเทียมและสมบูรณ์เช่นเดียวกับพ่อและเฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้า ลูกเข้าใจไหม?จงเฝ้าแต่ตรวจสอบตนเองในลักษณะนี้อย่างสม่ำเสมอ จงรักษาความสุขไว้อยู่เสมอว่าผู้เดียวที่โลกกำลังแสวงหาได้ทำให้ลูกเป็นของท่านแล้ว อัจชะ

คำพูดที่สูงส่งที่อะแวค - จงเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก

บัพดาดาทำให้ลูกเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้โลก ลูกเป็นลูกที่จะเปิดเผยพ่อแก่ทั้งโลก เพียงลูกของพ่อเท่านั้นที่สามารถเปิดเผยพ่อได้ พ่อเป็นกระดูกสันหลัง ถ้าพ่อไม่ใช่กระดูกสันหลังลูกก็จะอยู่ด้วยตัวลูกเองและในไม่ช้ารู้ก็จะสึกเหนื่อยล้า ดังนั้นจงพิจารณาว่าพ่อเป็นกระดูกสันหลังและไม่ว่างเว้นในงานรับใช้โลกต่อไปด้วยความคิด คำพูด การกระทำของลูก ด้วยร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สมบัติของลูกและลูกจะสามารถเอาชนะมายาได้อย่างง่ายดาย

ปัจจุบันผลไม้และดอกไม้ทั้งหมดบนต้นไม้แห้งเหี่ยวเพราะได้รับการหล่อเลี้ยงเพียงชั่วคราวเท่านั้น แม้ว่าทุกคนยังคงต้องดำเนินไปในทางโลกและใช้ชีวิตของพวกเขา พวกเขาก็ร้องไห้ในความคิดหรือคำพูดของพวกเขา ไม่มีใครมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขอีกต่อไป ดังนั้นจงให้ปีกของการบรรลุผลแก่ผู้ที่กำลังจะเคลื่อนไปภายใต้สถานการณ์ที่สิ้นหวังและช่วยให้พวกเขาสามารถโบยบินได้ อย่างไรก็ตามเมื่อลูกอยู่ในสภาพที่โบยบินแล้วเท่านั้นที่ลูกจะสามารถทำให้ผู้อื่นโบยบินได้ การที่จะทำเช่นนี้ จงอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่ไม่มีขีดจำกัดของผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกเช่นเดียวกับพ่อ ท่องทัวร์ไปในโลกและส่งกระแสของรัศมีที่มีพลังให้แก่ทุกดวงวิญญาณ พวกเขาแสดงภาพของศรีกฤษณะที่นั่งอยู่บนลูกโลกของโลก ลูกเช่นกันก็ควรนั่งอยู่เหนือลูกโลกของโลก และจากการมองไปรอบๆโลกทั้งโลกลูกจะได้ท่องทัวร์ไปทุกหนแห่งโดยอัตโนมัติ เมื่อลูกไปยังสถานที่ที่มีความสูงมาก ลูกไม่จำเป็นต้องท่องทัวร์ไปรอบๆ เพราะลูกสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้จากที่สูง ในทำนองเดียวกันเมื่อลูกอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่เป็นเมล็ดที่สูงส่งของลูก ในสภาพของผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกของลูก ทั้งโลกก็ดูเหมือนจะเป็นโลกเล็กๆที่ลูกสามารถท่องทัวร์ไปรอบๆได้ภายในหนึ่งวินาที

ลูกเป็นลูกของพ่อของทุกดวงวิญญาณ และทุกดวงวิญญาณเป็นพี่น้องของลูก ดังนั้นให้ความคิดของลูกคำนึงถึงพี่น้องของลูกและทำให้สติปัญญาของลูกกว้างไกลและมีสายตาที่ยาวไกล อย่าได้เสียเวลาไปกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่จงมั่นคงในสภาพที่สูงส่งและกลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานที่ไม่มีขีดจำกัด โอ้ดวงวิญญาณผู้ให้คุณประโยชน์โลก จงอยู่อย่างมีสำนึกรู้ถึงแผนการที่จะให้คุณประโยชน์ต่อโลกอย่างสม่ำเสมอ เพียงเมื่อคุณสมบัติพิเศษของทุกคนได้นำมาใช้เพื่อให้คุณประโยชน์โลกแล้วงานที่ไม่มีขีดจำกัดนั้นก็จะประสบความสำเร็จ เมื่อลูกกำลังทำอาหารบางอย่าง แต่ลืมใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป – แม้ว่าลูกจะพลาดอะไรบางอย่างที่ธรรมดาเช่นเกลือหรือน้ำตาลก็ตาม - แล้วไม่ว่าอาหารนั้นจะดูสวยงามเพียงใด มันก็ไม่มีค่าต่อการรับประทานเลย ในทำนองเดียวกันเพชรพลอยแต่ละเม็ดมีความสำคัญต่องานที่สูงส่งของการให้คุณประโยชน์โลก นิ้วของการให้ร่วมมือของทุกคนเป็นสิ่งที่จำเป็น งานของการเปลี่ยนแปลงโลกจะสำเร็จลงได้ด้วยนิ้วของความร่วมมือของแต่ละคนเท่านั้น

ความปรารถนาของบัพดาดาคือให้ธงของความสงบและความสุขปลิวไสวสูงทั่วทั้งโลกอย่างสม่ำเสมอ และเป่าขลุ่ยของความสบายอย่างสม่ำเสมอ รักษาเป้าหมายนี้ไว้และทำงานที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ให้เสร็จสิ้นด้วยนิ้วของความร่วมมือของทุกคน หน้าที่พิเศษของบราห์มินแต่ละคนคือการกลายเป็นนายพระอาทิตย์แห่งความรู้และส่องแสงของพลังทั้งหมดไปทั่วทั้งโลก ดังนั้นลูกแต่ละคนกลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลกที่ส่องรัศมีของพลังทั้งหมดไปทั่วทั้งโลก ดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างไปทั่วโลกด้วยลำแสงของมัน ดังนั้นเวลานี้ลูกได้กลายเป็นนายพระอาทิตย์แห่งความรู้และกระจายลำแสงของพลังทั้งหมดไปทั่วทั้งโลก และแล้วเมื่อนั้นทุกดวงวิญญาณก็จะได้รับกระแสของรังสีที่ทรงพลังของลูก

ดีพมาลาได้มีการเฉลิมฉลองอย่างเป็นอนุสรณ์ของลูกทุกคนผู้เป็นตะเกียงของโลกที่ไม่สูญสลาย แม้กระทั่งเวลานี้ผู้คนก็ยังคงหมุนลูกปัดของลูกประคำของลูก เพราะในเวลานั้นลูกกลายเป็นผู้ที่ขับไล่ความมืดและนำมาซึ่งแสงแสงสว่าง ดังนั้นจงสัมผัสว่าตนเองเป็นตะเกียงที่ติดไฟสว่างอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมีพายุเกิดขึ้นมากมายเพียงใดลูกต้องอยู่เบื้องหน้าของแสงที่คงอยู่ตลอดไปอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับตะเกียงที่ติดไฟสว่างที่ไม่เคยกระพริบ โลกก้มลงให้กับตะเกียงเช่นนั้นและแม้กระทั่งพ่อก็อยู่กับตะเกียงเช่นนั้นอย่างสม่ำเสมอ เช่นที่พ่อเป็นตะเกียงที่ติดไฟสว่างอย่างสม่ำเสมอ เช่นที่พ่อเป็นแสงที่คงอยู่ตลอดไปและเป็นอมตะ ดังนั้นลูกๆเช่นกันต้องเป็นแสงที่อมตะอย่างสม่ำเสมอเพื่อรับใช้โลกโดยการขจัดความมืดทั้งหมดออกไป ดวงวิญญาณของโลกนับถือลูกผู้เป็นตะเกียงที่ติดไฟสว่างด้วยความรักเป็นอย่างมาก ลูกเป็นตะเกียงที่มีชีวิตซึ่งสามารถเปลี่ยนกลางคืนให้เป็นกลางวันได้ มีดวงวิญญาณมากมายที่กำลังเร่ร่อนไปทั่วในความมืดและหมดหวังกับแสงสว่าง ถ้าแสงสว่างของลูกผู้เป็นตะเกียงกระพริบ ถ้าแสงสว่างของลูกติดชั่วครู่หนึ่งและดับในช่วงเวลาต่อมา แล้วสภาพของดวงวิญญาณที่เร่ร่อนจะเป็นเช่นไร?ไม่มีใครชอบแสงไฟที่ติดและดับ ดังนั้นจงกลายเป็นแสงที่ติดสว่างตลอดเวลาอยู่เสมอและเคลื่อนไปโดยพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่มีความรับผิดชอบต่อการขับไล่ความมืดออกไป และแล้วเมื่อนั้นลูกจึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ให้คุณประโยชน์โลก

ให้ทัศนคติของลูกทุกคนผู้เป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษเป็นเช่นนั้นที่จะเปลี่ยนบรรยากาศของทั้งโลก ให้เชื้อสายทั้งหมดของลูกผู้เป็นดวงวิญญาณบรรพบุรุษได้รับการเตือนถึงความเป็นพี่น้องของพวกเขาด้วยสายตาของลูก ลูกดวงวิญญาณบรรพบุรุษต้องอยู่อย่างตระหนักรู้จักพ่อและเตือนเชื้อสายทั้งหมดของลูกว่าเวลานี้พ่อของทุกดวงวิญญาณได้มาแล้ว ให้การกระทำที่สูงส่งและคุณลักษณะที่สูงส่งของความถ่อมตนของลูกดวงวิญญาณบรรพบุรุษสร้างความหวังที่บริสุทธิ์ในเชื้อสายของลูกทั้งหมด ดวงตาของทุกคนกำลังแสวงหาลูกดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ดังนั้นเวลานี้จงกลายเป็นผู้ที่สำนึกรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดอยู่เสมอ เช่นที่มีการร้องเพลงสรรเสริญของบาบาว่า “ผู้เดียวที่ให้พลังแก่ผู้ที่อ่อนแอ” ดังนั้นลูกเช่นกันต้องกลายเป็นผู้ที่มีพลังที่จะให้พลังแก่คนที่อ่อนแอในครอบครัวบราห์มินและทุกดวงวิญญาณของโลก เช่นที่ผู้คนตีกลองเพื่อขจัดความยากจน ดังนั้นเวลานี้ลูกต้องขจัดสภาพที่ไร้พลังของพวกเขาด้วย กลายเป็นเครื่องมือเช่นนั้นและให้ความช่วยเหลือและความกล้าหาญของพ่อแก่ทุกดวงวิญญาณในโลก

พร:
ขอให้สติปัญญาของลูกมีศรัทธาและลูกจะอยู่อย่างไร้กังวล และจบสิ้นความวิตกกังวลทั้งหมดในไฟแห่งความรัก

ลูกๆที่สติปัญญามีศรัทธาจะอยู่อย่างไร้กังวลในทุกสถานการณ์ ความกังวลทั้งหมดของพวกเขาได้จบสิ้นลงแล้ว พ่อยกพวกเขาออกจากกองไฟของความกังวลและทำให้พวกเขานั่งบนบัลลังก์หัวใจของพ่อ ลูกมีความรักต่อพ่อและบนพื้นฐานของความรักนี้ ความกังวลทั้งหมดของลูกจะจบสิ้นในไฟแห่งความรักราวกับว่าความกังวลเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่เลยไม่มีความกังวลเกี่ยวกับร่างกาย ไม่มีความกังวลกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ในจิตใจแต่อย่างใด และไม่มีความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติ เช่น “จะเกิดอะไรขึ้น?”ด้วยพลังของความรู้เวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่งแล้วและลูกได้อยู่เหนือความกังวลทั้งหมดและชีวิตของลูกก็กลับมาไร้กังวล

คติพจน์:
จงกลับมาไม่ไหวหวั่นสั่นคลอน ที่จะไม่มีปัญหาใดสามารถมาเขย่าเท้าของสติปัญญาของลูกได้