05.12.18 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้วเป็นนิรันดร์
การแสดงของนักแสดงแต่ละคนถูกกำหนดไว้ในละครนี้
ไม่มีใครสามารถได้รับการหลุดพ้นตลอดไป (โมกช์ moksha)
คำถาม:
ชีพบาบาปราศจากร่าง เหตุใดท่านจึงเข้ามาในร่างกาย?
งานใดที่ท่านทำและงานใดที่ท่านไม่ได้ทำ?
คำตอบ:
บาบาพูดว่า: ลูกๆ พ่อเข้ามาในร่างนี้เพียงเพื่อพูดมุรลีกับลูก
พ่อทำงานของการพูดมุรลีเท่านั้น พ่อไม่ได้มาที่นี่เพื่อรับประทานและดื่ม
พ่อมาที่นี่เพื่อให้อาณาจักรใหม่แก่ลูก แต่เป็นดวงวิญญาณของผู้นี้ที่ลิ้มรสทุกสิ่ง
เพลง:
ละบัลลังก์ของท่านบนท้องฟ้า และลงมายังพื้นดิน
โอมชานติ
เราเพียงเล่นเพลงที่เราใส่ใจเท่านั้น ไม่มีบัลลังก์ใดในท้องฟ้า
อวกาศเรียกว่าท้องฟ้าแต่ไม่มีบัลลังก์ในท้องฟ้า และพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
ไม่ได้อาศัยอยู่บนบัลลังก์ในท้องฟ้า พ่ออธิบายแก่ลูกๆ ว่า: ทั้งพ่อ พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดและลูกๆ ซึ่งเป็นดวงวิญญาณอาศัยอยู่เหนือฟากฟ้าของดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์ ดวงดาว และสถานที่นั้นเรียกว่าโลกที่ไม่มีตัวตน เช่นที่มีพระอาทิตย์
พระจันทร์และดวงดาวในท้องฟ้า
ในทำนองเดียวกันดวงวิญญาณอาศัยอยู่ในธาตุที่ยิ่งใหญ่ในรูปทรงของต้นไม้
เช่นที่ดวงดาวแขวนอยู่ในท้องฟ้านั้นโดยไม่มีสิ่งใดค้ำจุน
ในทำนองเดียวกันเราดวงวิญญาณ
และพ่อดวงวิญญาณสูงสุดนั้นเป็นผู้อาศัยของธาตุที่ยิ่งใหญ่ เราเป็นเช่นดวงดาวเช่นกัน
พระอาทิตย์ของความรู้ พระจันทร์ของความรู้ และดวงดาวของความรู้
ได้มีการอธิบายว่าเมื่อมีความทุกข์อย่างมาก เป็นเวลานั้นที่พ่อมา
สิ่งเก่าจำเป็นต้องถูกทำให้ใหม่ เพียงในโลกเก่าเท่านั้นที่มีความทุกข์
ในยุคเหล็กมีความทุกข์มากมาย ในสวรรค์ไม่มีสิ่งใดนอกจากความสุข
พ่อต้องมาเพื่อสอนราชาโยคะที่ง่ายดายแก่ลูกอีกครั้ง ทุกคนเรียกหาพ่อว่า: ได้โปรดมา!
พวกเขาไม่ได้พูดกับกฤษณะว่า: ทิ้งบัลลังก์ของท่านและลงมาที่นี่! คำว่า ‘บัลลังก์’
ไม่ได้เหมาะสมกับกฤษณะ เขาได้เคยเป็นเจ้าชาย
ลูกสามารถพูดถึงบัลลังก์เมื่อได้ครองราชย์ ใช่ พ่อสามารถวางเด็กเล็กๆ
ในตักของเขาหรือถัดจากเขา พ่ออธิบายว่า:
ดวงวิญญาณอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตนเหมือนเช่นดวงดาว
แล้วเขาก็ลงมาจากที่นั้นต่างลำดับกันไป พวกเขาแสดงให้เห็นว่าดวงดาวตกลงมาอย่างไร
ดวงดาวมาจากที่นั่นด้วยเช่นกันและเข้ามาในครรภ์โดยตรง บันทึกสิ่งนี้ลงไปอย่างดีว่า:
ทุกดวงวิญญาณต้องผ่านสภาพซาโต ราโจ และตาโม
เป็นเพียงสิ่งเดียวกันสำหรับลักษมีและนารายณ์ผู้ที่มาก่อน
พวกเขาต้องผ่านสภาพซาโตและราโจเช่นกัน
และไปถึงสภาพตาโมประธานของเขาด้วยการกลับมาใช้ชาติเกิด เป็นสิ่งเดียวกันสำหรับทุกคน
ไม่มีใครสามารถกลับบ้าน เมื่ออับบราฮัมและพระพุทธเจ้ามา พวกเขาต้องผ่านสภาพซาโต
ราโจและตาโมเช่นกัน พวกเขาต้องกลับมาใช้ชาติเกิด ผู้ก่อตั้งศาสนามาในยุคทองแดง
พวกเขาเริ่มใช้ชาติเกิดใหม่ของเขาที่นั่น แล้วต้องกลับมาซาโตประธาน
ในเวลานี้ใครสามารถประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่เขา?
เพียงชีวาผู้เดียวเท่านั้นที่ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส ท่านพูดว่า:
พ่อต้องมาเพื่อประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคน
ไม่มีใครอื่นสามารถทำงานที่พ่อทำ พ่อก่อตั้งศาสนาเทพ พ่อกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูก
พ่อคือผู้ประทานการหลุดพ้นและชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
พ่อพาลูกกลับไปเมื่อลูกบริสุทธิ์ พ่อประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ลูกด้วยเช่นกัน
พร้อมกับลูกพ่อยกระดับผู้ก่อตั้งศาสนาของศาสนาอื่นทั้งหมดผู้ที่อยู่กับลูกด้วยเช่นกัน
พ่อตกแต่งประดับประดาลูกด้วยความรู้และทำให้ลูกมีค่าควรแก่การแต่งงานกับนายแห่งสวรรค์,
ลักษมีหรือนารายณ์ แล้วพ่อก็พาลูกกลับบ้าน
ก่อนอื่นใดพ่อพาทุกคนไปสู่ดินแดนของการหลุดพ้น
พ่อคือผู้ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทั้งหมดด้วยเช่นกัน
ผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นที่มานั้นไม่ได้ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ผู้ใด
พวกเขาเพียงแต่ก่อตั้งศาสนาของเขาเองแล้วก็เริ่มทำให้ศาสนานั้นขยายตัว
พวกเขากลับมาใช้ชาติเกิดในศาสนาของเขาเองและผ่านสภาพซาโต ราโจ และตาโม
ในเวลานี้ทั้งหมดนั้นตาโมประธาน ในเวลานี้ใครจะทำให้พวกเขาบริสุทธิ์และซาโตประธาน?
พ่อเองนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก
พระเจ้ามาและประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคนและทำให้บารัตกลายเป็นสวรรค์ด้วยเช่นกัน
ท่านสอนราชาโยคะแก่ลูกเพื่อลูกจะได้มาซึ่งการหลุดพ้นในชีวิต
และเหตุนี้เองพ่อจึงได้รับการสรรเสริญอย่างมากมาย กีตะเป็นคัมภีร์ที่สูงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ด้วยการเขียนชื่อของกฤษณะ พวกเขาก็ลืมพระเจ้า
พระเจ้าคือผู้ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทั้งหมด
และเหตุนี้เองกีตะจึงเป็นคัมภีร์ศาสนาสำหรับศาสนาทั้งหมด ทุกคนต้องยอมรับสิ่งนี้
ไม่มีคัมภีร์ศาสนาอื่นใดเพื่อประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
เป็นผู้เดียวเท่านั้นที่ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส กีตะเป็นของท่านผู้นั้น
ท่านกำลังให้ความรู้เพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ลูกๆ หากมีชื่อชีวาในกีตะ
ก็จะเป็นคัมภีร์ของศาสนาทั้งหมด พ่อพูดกับทุกคนว่า:
คิดว่าตนเป็นดวงวิญญาณและมีโยคะกับพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
แล้วลูกจะมาที่ดินแดนของพ่อ
พ่อคือผู้เดียวที่ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ผู้คนของศาสนาทั้งหมด
ผู้อื่นทั้งหมดมาเพื่อก่อตั้งศาสนาของเขาเอง ผู้คนถามว่า:
เราจะไม่ได้รับการหลุดพ้นตลอดไปหรือ? พ่อพูดว่า: ไม่
บทบาทของดวงวิญญาณทั้งหมดถูกกำหนดไว้ในละคร
ไม่มีการกระทำของผู้ใดที่สามารถเปลี่ยนแปลง
ละครที่คงอยู่ตลอดไปของการกระทำที่สมบูรณ์ของแต่ละคนถูกกำหนดไว้แล้ว
ละครนั้นคงอยู่ตลอดไป ละครไม่มีตอนเริ่ม ตอนกลางหรือตอนจบ ตอนเริ่มของโลกคือยุคทอง
และยุคเหล็กกล่าวได้ว่าเป็นตอนจบ อย่างไรก็ตามไม่มีตอนเริ่มหรือตอนจบใดของละคร
ลูกไม่สามารถถามว่าเมื่อใดที่ละครถูกสร้างขึ้น คำถามนี้ไม่สามารถเกิดขึ้น
บาบาได้อธิบายว่า: มีคัมภีร์อื่นๆมากมาย แต่ละคนมาและก่อตั้งศาสนาของเขาเอง
พวกเขาไม่ได้ประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
พวกเขามาและก่อตั้งศาสนาของเขาและศาสนานั้นก็เฝ้าแต่ขยายตัวตามพวกเขา
สิ่งเหล่านี้คือประเด็นที่ลึกล้ำเช่นนั้น
เป็นสิ่งที่มีค่าในการเขียนเรียงความเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
ที่นี่ไม่มีการพูดโอ้อวดใดๆ นี้คือละครของชัยชนะและการพ่ายแพ้
ในยุคทองไม่มีความจำเป็นใดที่จะจดจำพระเจ้า หากลูกจะจดจำพระเจ้าที่นั่น
ลูกก็ต้องได้เข้าใจด้วยเช่นกันว่าท่านได้สร้างลูกบราห์มิน
ท่านบอกลูกเป็นการส่วนตัวว่าท่านเป็นผู้สร้าง
ยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้เป็นโลกใหม่ของบราห์มิน ไม่มีใครรู้จักจุก
แต่พวกเขาได้สร้างภาพขนาดใหญ่ที่แสดงให้เห็นรูปที่หลากหลายของเทพ นักรบ
พ่อค้าและศูทร พวกเขาได้ลืมบราห์มิน ในยุคทองมีเหล่าเทพและในยุคเหล็กมีศูทร
พวกเขาไม่รู้จักบราห์มินในยุคแห่งการบรรจบพบกัน พ่อมาและอธิบายความลับนี้
บาบาพูดว่า: โดยปราศจากความบริสุทธิ์ ไม่สามารถมีคุณธรรมได้
บาบาอธิบายว่ามีคัมภีร์และพระเวทย์มากมาย
พวกเขาไปทั่วพร้อมกับคัมภีร์และพระเวทย์เหล่านั้น พวกเขาเอาภาพลักษณ์ต่างๆออกจากวัด
นำภาพลักษณ์นั้นไปแห่แล้วก็นำกลับมาที่วัด บาบาได้อธิบายสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
พวกเขาใส่คัมภีร์ลงในรถบรรทุกและแห่คัมภีร์เหล่านั้น
ในทำนองเดียวกันพวกเขาใส่ภาพลักษณ์ของเหล่าเทพในรถและแห่ไปกับภาพลักษณ์เหล่านั้น
ทั้งหมดคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกคือชีพชัคตี
ลูกประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทั้งโลก
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าวัดดิลวาลาคืออนุสรณ์ที่ถูกต้องแม่นยำของลูก
ไม่มีวัดเช่นนั้นที่อื่นใด มีจักกัดอัมบาและชีพบาบาด้วยเช่นกัน
พวกเขาได้สร้างแท่นสำหรับชัคตี
วัดเช่นนั้นถูกสร้างขึ้นอีกครั้งในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
แล้วการทำลายล้างจะเกิดขึ้น แล้วสิ่งเหล่านั้นจะถูกทำลาย ไม่มีวัดใดเลยในยุคทอง
ทั้งหมดนั้นคือการขยายตัวของความเลื่อมใสศรัทธา ในความรู้ลูกต้องอยู่ในความเงียบสงบ
เพียงแต่จดจำชีพบาบาผู้เดียว หากลูกลืมชีพบาบาและจดจำผู้อื่น
ลูกจะสอบตกในเวลาสุดท้าย ลูกต้องไม่สอบตก เมื่อมนุษย์ตาย
ก็จะมีผู้บอกให้เรียกชื่อของรามแต่เขาไม่สามารถจดจำท่านในเวลานั้น
กระนั้นก็ตามมีการจดจำว่า: ผู้ที่พร่ำชื่อของนารายณ์ในเวลาสุดท้ายของเขา…
สิ่งนั้นอ้างอิงถึงในเวลานี้ ในเวลานี้กองฟางต้องถูกจุดให้ลุกเป็นไฟ
ผู้ที่จดจำนารายณ์ในเวลาสุดท้ายของเขา…
ในเวลานี้อย่างแท้จริงลูกเข้าใจว่าลูกจะแต่งงานกับลักษมีหรือนารายณ์
ลูกกำลังพร้อมสำหรับสวรรค์ ไม่มีใครสามารถให้ความรู้นี้แก่ลูกนอกจากบาบา
บาบานี้พูดด้วยเช่นกันว่า: ชีพบาบาได้อธิบายแก่ฉันในเวลานี้
นี่เรียกว่ากองทัพชัคตีและกองทัพพันดาฟ
ชื่อพันดาวาสอ้างอิงถึงมหารตีแล้วเขาก็แสดงให้เห็นชัคตีขี่สิงโต พ่อพูดว่า:
เช่นที่พ่อสอนราชาโยคะที่ง่ายดายแก่ลูกในวงจรที่แล้ว
ดังนั้นพ่อกำลังสอนลูกในวิธีเดียวกันอีกครั้ง การกระทำใดก็ตามที่กำลังดำเนินไป
การกระทำเดียวกันจะถูกเล่นทุกๆ วงจร ไม่สามารถมีความแตกต่างในสิ่งนั้น
แล้วบทบาทเดิมนี้จะดำเนินไปทุกๆ วงจร บาบาพูดว่า: พ่อบอกสิ่งที่ลึกล้ำแก่ลูก
พ่อจะบอกลูกภายหลังว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเวลาสุดท้าย
หากพ่อจะบอกทุกสิ่งแก่ลูกในเวลานี้ แล้วจะให้พ่อกลับไปเลยหรือ?
พ่อจะเฝ้าแต่บอกลูกถึงประเด็นใหม่จนเวลาสุดท้าย เราสรรเสริญกีตะอย่างมาก
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้แสดงให้เห็นการต่อสู้รบราในกีตะและมหาบารัตนั้น
ไม่มีการต่อสู้รบราใดๆ ของลูกเป็นเรื่องของพลังโยคะ
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของการไม่ก้าวร้าวรุนแรง
พวกเขาเพียงแต่พูดว่าผู้หญิงเป็นประตูไปสู่นรก ในความเป็นจริงทั้งสอง (ชายและหญิง)
คือประตูไปสู่นรก ใครจะทำให้พวกเขาไปสู่ประตูสวรรค์?
เพียงพระเจ้าเท่านั้นที่มีพลังที่จะทำเช่นนั้น
บาบาได้ทำให้เพลงเหล่านั้นถูกแต่งขึ้น แต่แล้วจากผู้ที่แต่งเพลงนั้น
บางคนแต่งเพลงอย่างถูกต้องแม่นยำและบางคนก็แต่งเพลงอย่างผิดๆ
พวกเขาปะปนทุกสิ่งเข้าด้วยกัน “โอ้ นักเดินทางในเวลากลางคืนอย่าได้เหนื่อยล้า”…
บาบาได้ให้มีการแต่งเพลงนี้ขึ้น ดังนั้นเรื่องราวของที่นี่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
มีเกาชาลา (คอกวัว)
และมีการเนรเทศด้วยเช่นกันแต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น
พ่อขับไล่ผู้ใดหรือ? พ่อเคยบอกผู้ใดให้มาที่การาจีหรือ? ถามชัคตีเหล่านี้
นี่คือบทบาทในละคร ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายมาที่นี่ ดังนั้น
พ่อนั่งที่นี่และบอกสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูก
สิ่งใดก็ตามที่ถูกเขียนไว้ในคัมภีร์นั้นเป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่มีผู้ใดสามารถพบพ่อได้จากสิ่งนั้น พวกเขาไม่สามารถมาหาพ่อได้จากสิ่งนั้น
พ่อต้องกลายเป็นผู้นำทางและมาที่นี่
พวกเขาถามว่าเหตุใดท่านจึงไม่ใช้ร่างกายของใครบางคนที่ไม่ใช่ผู้ครองเรือน? อ้า
พ่อต้องเข้ามาในร่างกายของผู้ครองเรือนและให้ความรู้แก่เขา พ่อบอกเขาเกี่ยวกับ 84
ชาติเกิดของเขา ดังนั้นสิ่งเหล่านี้คือประเด็นที่ลึกล้ำเช่นนั้น
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งใหม่สำหรับศาสนาใหม่ แม้กระทั่งความรู้นี้ก็ใหม่
พ่อพูดว่าพ่อให้ความรู้นี้แก่ลูกทุกๆวงจร
ไม่มีใครอื่นเคยพูดว่าฉันมาเพื่อก่อตั้งศาสนาทุกๆวงจร
ไม่ทั้งลักษมีและนารายณ์จะพูดว่าพวกเขาได้มาเพื่อปกครองอาณาจักรอีกครั้ง
ความรู้จะหายไปก่อนที่พวกเขาจะมา คัมภีร์นับไม่ถ้วนถูกเขียนขึ้นในภายหลัง
สำหรับเราบราห์มินมีเพียงกีตะเดียว
พ่อก่อตั้งศาสนาและประทานชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคนด้วยเช่นกัน
ดังนั้นนี้คืองานสองเท่า
ดังนั้นสิ่งที่พ่อบอกลูกถูกต้องหรือสิ่งที่พวกเขาพูดถูกต้อง? ลูกรู้สิ่งนี้
พ่อคือใคร? พ่อคือสัจจะ พ่อไม่ได้ถ่ายทอดพระเวทย์หรือคัมภีร์
แม้ว่าผู้นี้ได้ศึกษาอย่างมากเขาก็ไม่ได้ถ่ายทอดสิ่งนั้น
เป็นชีพบาบาที่บอกสิ่งใหม่แก่ลูกแต่ท่านนั้นปราศจากร่าง
ท่านมาที่นี่เพียงเพื่อทำงานของการพูดมุรลีให้ลูกฟังไม่ใช่การรับประทานหรือดื่ม
พ่อได้มาที่นี่เพียงเพื่อให้อาณาจักรแก่ลูกๆ อีกครั้ง
เป็นดวงวิญญาณของผู้นี้ที่ลิ้มรสทุกสิ่ง
ศาสนาของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันและแต่ละคนต้องศึกษาคัมภีร์ทางศาสนาของเขาเอง
ที่นี่พวกเขาเฝ้าแต่ศึกษาคัมภีร์มากมาย แต่ไม่มีสาระใดในคัมภีร์เหล่านั้น
มากเท่าที่พวกเขาเฝ้าแต่ศึกษาเล่าเรียน มากตามนั้นที่โลกจะเฝ้าแต่กลับมาไร้รสชาติ
ทุกคนต้องกลับมาตาโมประธาน ลูกคือผู้ที่เข้ามาสู่โลกก่อน
ลูกบราห์มินได้ใช้ชาติเกิดกับแม่และพ่อ
ในด้านนั้นคือครอบครัวที่เป็นเช่นปีศาจและในด้านนี้คือครอบครัวของพระเจ้า
แล้วลูกจะเข้าไปสู่ตักของเหล่าเทพ ลูกจะกลายเป็นนายแห่งสวรรค์
หากลูกทำตามการกำหนดของแม่และพ่อ ลูกจะได้รับความสุขอย่างมากมายในสวรรค์
อย่างไรก็ตาม อย่างแน่นอนจะมีอุปสรรคต่อไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้า พ่อพูดว่า:
ลูกๆ เพียงแต่เอาชนะกิเลสเท่านั้นที่ลูกจะสามารถกลายเป็นผู้เอาชนะโลก
ไม่ใช่ว่าหากลูกไม่แต่งงานลูกจะอยู่อย่างอ่อนแอ ซันยาสซีกลับมาบริสุทธิ์
แต่ถึงกระนั้นแล้วพวกเขาก็มีพลานามัยดีมาก
ที่นี่ลูกต้องทำทุกสิ่งด้วยสมองและสิ่งนั้นอาศัยความเพียรพยายาม
มีตัวอย่างของดาดีชี ริชชี ซันยาสซีได้รับอาหารบำรุงมากมาย
บาบาเองเคยป้อนอาหารบำรุงเช่นนั้นแก่พวกเขา
ที่นี่ลูกต้องทำตามข้อควรระมัดระวังอย่างมากมาย อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เพื่อที่จะสร้างสมความรู้อย่างดี จงทำสัญญาของความบริสุทธิ์
ชั่วขณะเหล่านี้คือชั่วขณะสุดท้าย
ดังนั้นฝึกฝนการจดจำระลึกถึงในวิธีเช่นที่ว่าลูกไม่จดจำใครในเวลาสุดท้ายนอกจากพ่อ
2. ด้วยการทำงานรับใช้เช่นดาดี้ชีริชชี
จงได้มาซึ่งชนะเหนือกิเลสและกลายเป็นผู้็็เอาชนะโลก
พร:
ขอให้ลูกทำให้สติปัญญาของลูกมั่นคงในสภาพที่สูงส่งตามทิศทางที่กำหนดและกลายเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจ
เมื่อลูกบางคนนั่งในโยคะ แทนที่จะมีจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ
พวกเขากลับจดจำงานรับใช้ อย่างไรก็ตามไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
เพราะถ้าแทนที่จะกลับมาปราศจากร่างในช่วงเวลาสุดท้ายลูกกลับมีความคิดของงานรับใช้
ลูกจะสอบตกในข้อสอบของหนึ่งวินาที
ในเวลานั้นลูกต้องไม่จดจำสิ่งใดนอกจากพ่อและการอยู่อย่างไม่มีตัวตน ปราศจากกิเลส
และไม่มีความหลงทะนงตน ในงานรับใช้ลูกจะยังคงเข้ามาสู่จิตสำนึกทางร่างกาย
ดังนั้นเมื่อลูกต้องทำให้ตนเองมั่นคงในสภาพนั้น
จงฝึกฝนที่จะกลับมามั่นคงในสภาพนั้นเท่านั้น
และแล้วเมื่อนั้นลูกจึงจะเรียกได้ว่าเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจที่มีพลังในการควบคุมและพลังในการปกครอง
คติพจน์:
วิธีที่ง่ายดายที่จะเอาชนะสถานการณ์ใดๆได้อย่างง่ายดายคือการมีพละกำลังเดียวและการค้ำจุนเดียว