15.12.18 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน
ลูกต้องรับใช้ผ่านพฤติกรรมที่สูงศักดิ์
และทำให้สติปัญญาของลูกละเอียดอ่อนด้วยการทำตามศรีมัท
ลูกต้องให้ความเคารพต่อผู้เป็นแม่ด้วยเช่นกัน
คำถาม:
งานใดที่เป็นของพ่อผู้เดียวเท่านั้น และไม่ใช่งานของมนุษย์ใด?
คำตอบ:
การสร้างความสงบให้กับทั้งโลกคืองานของพ่อ ไม่ว่าผู้คนมีการประชุมเกี่ยวกับความสงบ
ฯลฯ มากมายเพียงใดก็ไม่สามารถมีความสงบได้ เมื่อพ่อ มหาสมุทรแห่งความสงบ
ได้ทำให้ลูกสัญญาที่จะอยู่อย่างบริสุทธิ์แล้ว ความสงบจึงถูกสร้างขึ้นมา
ความสงบมีอยู่ในโลกที่บริสุทธิ์เท่านั้น
เมื่อลูกอธิบายประเด็นนี้อย่างมีไหวพริบเป็นอย่างมากและด้วยความโอฬารเป็นอย่างยิ่ง
ชื่อของพ่อก็จะได้รับการประกาศเกียรติคุณ
เพลง:
ฉันเป็นเด็กเล็กๆ
และท่านเป็นผู้ทรงพลังอำนาจ!
โอมชานติ
เพลงนี้ถูกร้องในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
เพราะด้านหนึ่งนั้นมีอิทธิพลของความเลื่อมใสศรัทธาและอีกด้านหนึ่งมีอิทธิพลของความรู้
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืนระหว่างความเลื่อมใสศรัทธาและความรู้
อะไรคือความแตกต่างนั้น เรื่องนี้ง่ายมาก ความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืน
และความรู้คือกลางวัน ในความเลื่อมใสศรัทธามีความทุกข์
เมื่อผู้เลื่อมใสศรัทธาไม่มีความสุข พวกเขาจึงเรียกหาพระเจ้า
จากนั้นพระเจ้าจึงต้องมาเพื่อขจัดความทุกข์ให้กับผู้ที่ไร้ความสุข ดังนั้น
ลูกจึงถามพ่อว่า ในละคร มีความผิดพลาดหรือไม่ พ่อพูดว่า มี
ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่คือ ลูกลืมพ่อ ใครทำให้ลูกลืม มายา ราวัน
พ่อนั่งอยู่ที่นี่และอธิบายว่า ลูกๆ การละเล่นนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
สวรรค์และนรกอยู่ในบารัต ในบารัตเท่านั้นที่เมื่อบางคนตาย
ผู้คนจะพูดว่าเขากลายเป็นผู้อาศัยในดินแดนสุขาวดีแล้ว
พวกเขาไม่รู้ว่าสวรรค์หรือดินแดนสุขาวดีปรากฏเมื่อใด เมื่อเป็นสวรรค์
แน่นอนว่ามนุษย์จะใช้ชาติเกิดในสวรรค์ เวลานี้เป็นนรก ดังนั้น
แน่นอนว่าพวกเขาจะใช้ชาติเกิดในนรกจนกว่าสวรรค์จะถูกก่อตั้งขึ้นมา
ผู้คนไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ชุมนุมหนึ่งนั้นเป็นของพระเจ้า นั่นคือชุมนุมของราม
และอีกชุมนุมหนึ่งเป็นของราวัน ในยุคทองและยุคเงินมีชุมนุมของราม
พวกเขาไม่มีความทุกข์ใดๆ พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมที่ไร้ความทุกข์
ต่อมาหลังจากครึ่งวงจร อาณาจักรของราวันก็เริ่มต้น
เวลานี้พ่อกำลังก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมอันเป็นนิรันดรอีกครั้ง
นั่นคือศาสนาที่สูงส่งที่สุด มีทุกศาสนา พวกเขากำลังจัดการประชุมเกี่ยวกับศาสนา
ผู้คนจากทุกศาสนาจำนวนนับไม่ถ้วนมายังบารัตและจัดการประชุม อย่างไรก็ตาม
ผู้คนของบารัตที่ไม่เชื่อในศาสนาจะมีการประชุมอะไรเล่า จริงๆแล้ว
ศาสนาโบราณของบารัตคือ ศาสนาเทพดั้งเดิมอันเป็นนิรันดร ไม่มีสิ่งใดเหมือนศาสนาฮินดู
ศาสนาที่สูงสุดคือศาสนาเทพ
กฎกล่าวว่าผู้ที่เป็นของศาสนาที่สูงส่งที่สุดควรถูกทำให้นั่งอยู่บนกัดดี
ใครควรถูกทำให้นั่งอยู่ข้างหน้าเล่า บางครั้งพวกเขาทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ (ที่นั่งนี้)
ครั้งหนึ่งที่กุมภ์เมล่าเคยมีการทะเลาะกันเรื่องนี้ กลุ่มหนึ่งพูดว่า
พวกเขาควรไปก่อนและอีกกลุ่มหนึ่งก็พูดว่า พวกเขาควรไปก่อน พวกเขาทะเลาะกันเรื่องนี้
เวลานี้ลูกควรอธิบายที่การประชุมนี้ว่าศาสนาใดสูงสุด พวกเขาไม่รู้เรื่องนั้น
พ่อบอกลูกว่า ศาสนาดั้งเดิมอันเป็นนิรันดรนั้นคือ
ศาสนาเทพที่หายไปและดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มเรียกตนเองว่าฮินดู
ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนจะไม่พูดว่าศาสนาของตนคือศาสนาจีน
พวกเขาจะทำให้ผู้ที่ตนนับถือกลายเป็นบุคคลสำคัญที่สุดเป็นบุคคลหลักและทำให้เขานั่งอยู่บนกัดดี
ตามกฎแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้คนจำนวนมากจะมาที่การประชุมได้
ผู้นำศาสนาเท่านั้นที่ได้รับการเชื้อเชิญ
แล้วหลายคนก็โต้เถียงกันเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไม่มีใครให้คำแนะนำแก่พวกเขา
ลูกคือผู้ที่เป็นของศาสนาเทพที่สูงสุด เวลานี้ลูกกำลังก่อตั้งศาสนาเทพ
ลูกเท่านั้นที่พูดได้ว่า
หัวหน้าของศาสนาหลักของบารัตซึ่งเป็นแม่และพ่อของทุกศาสนาควรถูกทำให้เป็นคนหลักสำหรับการประชุมนี้
ท่านควรเป็นผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลัก ผู้ที่เหลือทั้งหมดนั้นจะนั่งถัดลงไป
ดังนั้นสติปัญญาของลูกที่เป็นคนหลักควรทำงานเกี่ยวกับสิ่งนี้
พระเจ้านั่งและอธิบายให้แก่อรชุน ผู้นั้นคือสันเจ อรชุนคือสารถี
พ่อคือผู้ที่ขับขี่อยู่ในพาหนะนี้
แต่ผู้คนคิดว่าท่านเปลี่ยนรูปแบบและเข้ามาในร่างของกฤษณะแล้วให้ความรู้
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เวลานี้ยังมีประชาบิดาอีกด้วย
สิ่งนี้อธิบายได้อย่างชัดเจนมากด้วยการใช้รูปภาพตรีมูรติ
แน่นอนว่าลูกต้องการภาพลักษณ์ของชีพบาบาอยู่เหนือตรีมูรติ
นั่นคือสิ่งสร้างของอาณาเขตละเอียดอ่อน ลูกเข้าใจว่าวิษณุคือผู้หล่อเลี้ยง
ประชาบิดาบราห์มาคือผู้สร้าง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีรูปภาพของเขาด้วย
นี่คือสิ่งที่ลูกต้องเข้าใจ ในสติปัญญาของลูกรู้ว่า มีประชาบิดา บราห์มาอย่างแน่นอน
วิษณุก็ยังจำเป็นด้วย
ผู้ที่ท่านทำการก่อตั้งผ่านนั้นจะเป็นผู้ที่ท่านยังให้การหล่อเลี้ยงผ่านเขาอีกด้วย
ท่านทำงานของการก่อตั้งผ่านบราห์มา พร้อมกับบราห์มาก็ยังมีสรัสวตีและลูกๆ
จำนวนมากด้วย จริงๆแล้ว ผู้นี้ก็ยังกำลังจะกลับมาบริสุทธิ์จากที่ไม่บริสุทธิ์
ดังนั้น หัวหน้าของการประชุมควรเป็นจากัดอัมบ้า
หัวหน้าของศาสนาเทพดั้งเดิมอันเป็นนิรันดร เพราะมีความนับถืออย่างมากต่อผู้เป็นแม่
เมล่าที่ใหญ่โตมากจะเกิดขึ้นเพื่อจากัดอัมบ้า เธอคือลูกสาวของจักกัดปิตา
ศาสนาเทพดั้งเดิมที่เป็นนิรันดรกำลังถูกก่อตั้งขึ้นมาในเวลานี้
ฉากของกีตะกำลังซ้ำรอย นั่นคือ สงครามมหาภารตะอันเดิมนี้อยู่เบื้องหน้าเรา
พ่อพูดว่า พ่อมาทุกวงจรในยุคบรรจบพบกันของวงจรเพื่อทำให้โลกที่คดโกงนั้นสูงส่ง
จากัดตัมบ้าได้รับการจดจำว่าเป็นเทวีแห่งความรู้
พร้อมกับจากัดตัมบ้าแล้วก็ยังมีคงคาแห่งความรู้ด้วย ลูกถามพวกเขาได้ว่า
คุณได้รับความรู้นี้จากใคร พระเจ้า ผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้
ผู้เป็นพ่อคือผู้เดียวเท่านั้น ท่านให้ความรู้แก่ลูกได้อย่างไร
แน่นอนว่าท่านต้องใช้ร่างกาย ดังนั้นท่านจึงพูดผ่านปากดอกบัวของบราห์มา
ผู้เป็นแม่เหล่านี้จะนั่งอยู่ที่นั่นและอธิบาย ในการประชุม
พวกเขาควรรู้ว่าศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือศาสนาใด
ไม่มีใครเชื่อว่าเราเป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมอันเป็นนิรันดร พ่อพูดว่า
เมื่อศาสนานี้หายไป พ่อจึงมาก่อตั้งศาสนานี้อีกครั้ง เวลานี้ไม่มีศาสนาเทพ
อีกสามศาสนานั้นกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น
แน่นอนว่าศาสนาเทพต้องถูกก่อตั้งขึ้นมาอีกครั้ง แล้วศาสนาเหล่านั้นก็จะหายไป
พ่อมาเพื่อก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมอันเป็นนิรันดร
ลูกสาวเท่านั้นที่จะบอกพวกเขาได้ว่า ความสงบถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างไร พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดคือมหาสมุทรแห่งความสงบ ดังนั้น แน่นอนว่าท่านจะก่อตั้งความสงบ
ท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้และมหาสมุทรแห่งความสุข ผู้คนร้องเพลงว่า โอ้
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! จงมาและทำให้บารัตกลายเป็นอาณาจักรรามที่บริสุทธิ์
ท่านผู้เดียวจะทำให้บารัตเต็มไปด้วยความสงบ นี่คืองานของพ่อผู้เดียว
ลูกรับสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงส่งด้วยการทำตามคำสั่งของท่าน พ่อพูดว่า
ผู้ที่เป็นของพ่อ ศึกษาราชาโยคะและทำสัญญาเพื่อความบริสุทธิ์ด้วยการพูดว่า บาบา
ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์และรับสิทธิ์ในมรดก 21 ชาติเกิดนั้นจะมาเป็นนาย
พวกเขาจะกลับมาบริสุทธิ์จากที่ไม่บริสุทธิ์ ลักษมีและนารายณ์คือผู้ที่บริสุทธิ์
สูงส่งที่สุด เวลานี้โลกที่บริสุทธิ์กำลังถูกก่อตั้งขึ้นมาอีกครั้ง
ลูกกำลังจัดการประชุมเพื่อความสงบ แต่มนุษย์ไม่อาจนำมาซึ่งความสงบได้
นั่นคืองานของพ่อมหาสมุทรแห่งความสงบ บุคคลสำคัญเข้าร่วมประชุม
หลายคนจะเป็นคณะผู้แทน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องได้รับคำปรึกษา พ่ออวดลูก
หลานของชีพบาบาและลูกของบราห์มาคือ เทวีแห่งความรู้ พระเจ้าให้ความรู้นี้แก่พวกเขา
มนุษย์ศึกษาความรู้ของคัมภีร์ ถ้าลูกอธิบายด้วยความโอ่อ่าตระการตาเช่นนั้น
พวกเขาจะสนุกสนานมาก แน่นอนว่าลูกต้องสร้างวิธีการขึ้นมา
ด้านหนึ่งนั้นคือการประชุมของพวกเขา
และอีกด้านหนึ่งคือการประชุมของลูกที่มีความโอ่อ่าตระการตามาก
รูปภาพเหล่านั้นก็ยังชัดเจนมากด้วย ผู้คนจะเข้าใจรวดเร็วมากจากรูปภาพเหล่านั้น
อาชีพของพวกเขานั้นแตกต่างกันและอาชีพของผู้เดียวนั้นก็แตกต่าง
ไม่ใช่ว่าทุกคนเป็นเหมือนกัน ไม่เลย บทบาทของทุกศาสนาแตกต่างกันไป
พวกเขารวมตัวกันและทำงานเพื่อความสงบ พวกเขาพูดว่า ศาสนาคือพลัง อย่างไรก็ตาม
ใครคือผู้ที่มีพลังมากที่สุด ท่านคือผู้ที่มาก่อตั้งศาสนาเทพอันดับแรกสุด
ลูกเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ลูกได้รับประเด็นต่างๆอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน
ลูกควรมีพลังที่จะอธิบายประเด็นเหล่านั้นด้วย โยคีจะมีพลังที่ดีมาก บาบาพูดว่า
พ่อรักดวงวิญญาณที่มีความรู้เท่านั้น สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า
ท่านไม่รักดวงวิญญาณโยคี แน่นอนว่าผู้ที่มีความรู้จะเป็นโยคีด้วย
ลูกมีโยคะอยู่กับพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด จะไม่มีคุณธรรมหากไม่มีโยคะ
ผู้ที่ไม่มีโยคะจะไม่มีคุณธรรมเช่นกัน เพราะพวกเขามีสำนึกที่เป็นร่างอย่างมาก
พ่ออธิบายว่า ลูกต้องเปลี่ยนสติปัญญาปีศาจของลูกให้เป็นเทพปัญญา พระเจ้า ผู้เป็นพ่อ
คือผู้ที่ทำให้ผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหินกลายเป็นผู้ที่มีเทพปัญญา
ราวันมาทำให้ลูกๆกลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหิน ชื่อของพวกเขาคือชุมนุมปีศาจ
พวกเขาพูดต่อหน้ารูปปั้นเทพว่า ฉันไม่มีคุณธรรม ฉันคดโกงเต็มไปด้วยตัณหา
ลูกๆผู้เป็นแม่อธิบายได้ดีมาก
ลูกต้องมีความกระตือรือร้นและความกล้าหาญมากเท่านั้นเพื่อที่จะแบ่งปันความรู้
ลูกต้องอธิบายสิ่ง เช่นนั้นในชุมนุมใหญ่ๆ มามาคือเทวีแห่งความรู้
บราห์มาไม่เคยถูกเรียกว่าพระเจ้าแห่งความรู้ ชื่อของสรัสวตีได้รับการจดจำ
ไม่ว่าชื่อใครจะเป็นอะไรก็ตาม ชื่อนั้นก็จะถูกเก็บไว้
ชื่อของผู้เป็นแม่ต้องได้รับการสรรเสริญ พี่น้องชายบางคนมีสำนึกที่เป็นร่างอย่างมาก
พวกเขาคิดว่า เราบราห์มากุมารไม่ใช่เทวาแห่งความรู้หรอกหรือ โอ้!
แต่บราห์มาเองก็ไม่ได้เรียกตนเองว่าพระเจ้าแห่งความรู้
ผู้เป็นแม่ต้องได้รับความนับถืออย่างมาก
ผู้เป็นแม่เหล่านี้คือผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูก
พวกเขาคือผู้ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นเทพ มีผู้เป็นแม่และยังมีกุมารีอีกด้วย
ไม่มีใครเข้าใจความลับของ “กึ่งกุมารี” แม้ว่าพวกเขาแต่งงานแต่ก็เป็นบราห์มากุมารี
สิ่งเหลานี้น่าอัศจรรย์มาก! ผู้ที่จะรับสิทธิ์ในมรดกจากพ่อนั้นจะเข้าใจสิ่งนี้
แต่ผู้ที่ไม่ได้มีสิ่งนั้นอยู่ในโชคของตนจะเข้าใจอะไรเล่า
สถานภาพจะต่างลำดับกันไปอย่างแน่นอน ที่นั่นบางคนจะเป็นสาวใช้และคนรับใช้
และผู้อื่นจะเป็นประชากร ประชากรก็ยังเป็นที่ต้องการด้วย
โลกมนุษย์จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นประชากรก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
ผู้ที่คิดว่าตนเองเป็นคนหลักก็ควรเตรียมพร้อมเมื่อการประชุมเช่นนั้นเกิดขึ้น
ผู้ที่ไม่มีความรู้ก็จะเหมือนเด็กๆ พวกเขาไม่มีสติปัญญา(ภูมิปัญญา)มากเช่นนั้น
แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะแก่กว่าแต่พวกเขากลับไม่มีสติปัญญามากนัก
พวกเขายังคงเป็นเด็กๆ สติปัญญาของบางคนดีมาก ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับสติปัญญา
แม้แต่ผู้ที่เยาว์วัยก็ยังไปล้ำหน้า บางคนมีวิธีการอธิบายที่อ่อนหวานมาก
พวกเขาพูดด้วยกิริยาที่สูงศักดิ์มาก
เป็นที่เข้าใจว่าผู้นั้นคือลูกที่ได้รับการขัดเกลาแล้ว
เรายังคงได้รับการเปิดเผยผ่านพฤติกรรมของเรา พฤติกรรมของลูกๆควรสูงศักดิ์มาก
ลูกไม่ควรทำงานที่ไม่สูงศักดิ์ ผู้ที่ประณามชื่อไม่อาจรับสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้
เมื่อลูกบางคนประณามชื่อของชีพบาบา พ่อก็มีสิทธิ์ที่จะบอกลูกๆด้วยเช่นกัน อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
ชั้นเรียนตอนกลางคืน
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่า
ลูกคือดวงวิญญาณที่มีตัวตนที่กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณสูงสุดเป็นการส่วนตัว
สิ่งนี้เรียกว่าการพบปะที่เป็นสิริมงคล มีการจดจำว่า “พระเจ้าวิษณุ
คือผู้ที่นำมาซึ่งลางอันเป็นสิริมงคล” เวลานี้มีลางอันเป็นสิริมงคลของการพบปะ
พระเจ้าให้มรดกแห่งสกุลวิษณุแก่ลูกๆ เหตุนี้เองท่านจึงถูกเรียกว่า พระเจ้าวิษณุ
ผู้ที่นำลางอันเป็นสิริมงคลมาให้
เมื่อพ่อได้พบกับลูกผู้เป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจึงเป็นการพบปะที่สวยงามมาก
ลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่าเวลานี้ลูกกลายเป็นลูกของพระเจ้า
เพื่อที่จะรับสิทธิ์ในมรดกจากพระเจ้า
ลูกรู้ว่าหลังจากได้รับมรดกจากพระเจ้าแล้วลูกจะได้รับมรดกของเหล่าเทพ นั่นคือ
ลูกจะใช้ชาติเกิดในสวรรค์ ดังนั้นปรอทแห่งความสุขของลูกควรจะขึ้นสูง
ไม่มีใครมีความสุขหรือมีโชคเท่ากับลูกๆ
ไม่มีใครในโลกนี้ที่มีโชคเท่ากับสกุลบราห์มิน สกุลวิษณุเป็นอันดับสอง
นั่นคือตักของเหล่าเทพ เวลานี้ลูกมีตักของพระเจ้าที่สูงกว่า
วัดดิลวาลาคือวัดแห่งตักของพระเจ้า ในทำนองเดียวกัน ยังมีวัดของอัมบาด้วยเช่นกัน
วัดนั้นไม่ได้ให้นิมิตของยุคบรรจบพบกันมากนัก วัดดิลวาลาให้นิมิตของยุคบรรจบพบกัน
มนุษย์คนอื่นไม่มีความเข้าใจมากเท่ากับที่ลูกเข้าใจ
แม้แต่เหล่าเทพก็ไม่มีความเข้าใจอย่างที่ลูกบราห์มินเข้าใจ
ลูกคือบราห์มินของยุคบรรจบพบกัน
ผู้คนเหล่านั้นร้องเพลงสรรเสริญบราห์มินของยุคบรรจบพบกัน มีคำกล่าวว่า
เป็นบราห์มินแล้วก็กลายเป็นเทพ ขอคารวะต่อบราห์มินเช่นนั้น!
บราห์มินเท่านั้นคือผู้ที่ทำงานรับใช้ของการเปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์
บาบาพูดนมัสเตกับลูกๆ(บราห์มิน)เช่นนั้น อัจชะ ราตรีสวัสดิ์
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะเป็นที่รักของพระเจ้า จงกลายเป็นโยคีและผู้ที่มีความรู้
อย่าได้มีสำนึกที่เป็นร่าง
2. มีความกระตือรือร้นและความกล้าหาญที่จะพูดความรู้ เปิดเผยพ่อผ่านพฤติกรรมของลูก
พูดด้วยความอ่อนหวานเป็นอย่างมาก
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้ที่เพียรพยายามอย่างจริงจังที่ใช้พลังของจิตใจและคำพูดได้อย่างถูกต้องแม่นยำและอย่างมีพลัง
ผู้ที่เพียรพยายามอย่างจริงจัง นั่นคือ
ลูกๆที่กำลังจะเข้าไปในกลุ่มแรกจะใช้พลังความคิดและพลังคำพูดได้อย่างถูกต้องแม่นยำและมีพลัง
พวกเขาไม่หละหลวมในสิ่งนี้ พวกเขาจดจำคติพจน์อยู่เสมอว่า พูดน้อย พูดสุภาพอ่อนโยน
พูดอ่อนหวาน ทุกคำพูดของพวกเขามีโยกยุกต์และยุกตียุกต์
พวกเขาจะพูดถ้อยคำที่จำเป็นเท่านั้นและไม่สูญเสียพลังงานไปกับคำพูดที่ไร้ประโยชน์หรือคำพูดของการขยายความ
พวกเขาอยู่ในสันโดษเสมอ
คติพจน์:
ผู้ที่ทำลายความผูกพันยึดมั่นอย่างสิ้นเชิง คือ
ผู้ที่ละทิ้งแม้กระทั่งสิทธิ์ใดๆในสำนึกของ “ของฉัน”