09.11.2018 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวานในการที่จะได้มาซึ่งการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาทีให้อยู่อย่างมีมานมานะภาฟและมาเดียจิภาฟ
รู้จักพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำ จดจำพ่อและให้คำแนะนำของท่านแก่ทุกคน
คำถาม:
บนพื้นฐานของความซาบซึ้งใดที่ลูกจะสามารถอวด (เปิดเผย) พ่อ?
คำตอบ:
เมื่อลูกมีความซาบซึ้งในการเป็นลูกๆของพระเจ้าในเวลานี้และท่านนั้นกำลังสอนลูก
เราต้องแสดงหนทางที่แท้จริงแก่มนุษย์ทั้งหมด
เวลานี้เราอยู่ในยุคแห่งการบรรจบพบกันเราต้องประกาศชื่อเสียงของพ่อผ่านพฤติกรรมที่สูงส่งของเรา
ถ่ายทอดคำยกย่องของพ่อและคำยกย่องของกฤษณะแก่ทุกคน
เพลง:
ท่านคือโชคของวันพรุ่งนี้…
โอมชานติ
เพลงนี้แต่งขึ้นโดยนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ อย่างไรก็ตามชาวบารัตไม่ได้รู้ว่าคำว่า “โชคของโลก”
นั้นหมายความว่าอย่างไร เป็นปัญหาของทั้งโลก
ไม่สามารถมีมนุษย์ใดสามารถเปลี่ยนโชคของทั้งโลกหรือเปลี่ยนโลกจากนรกให้เป็นสวรรค์
คำยกย่องนี้ไม่ได้เป็นของมนุษย์
หากสิ่งนี้จะกล่าวถึงกฤษณะจะไม่มีใครสามารถประณามเขาได้
มนุษย์ไม่เข้าใจว่ากฤษณะได้เห็นพระจันทร์ที่ถูกเงามืดในคืนที่สี่และดังนั้นเขาถูกประณามได้อย่างไร
ในความเป็นจริงไม่ใช่ทั้งกฤษณะและพระเจ้าแห่งกีตะที่จะสามารถถูกประณามได้แต่เป็นบราห์มาที่ถูกประณาม
กฤษณะนั้นเคยถูกประณามแต่เป็นเพียงด้วยการพูดว่าเขาได้ลักพาตัวผู้หญิงไปเท่านั้น
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับชีพบาบา
แน่นอนที่ทุกคนวิ่งตามหาพระเจ้าแต่พระเจ้าไม่มีวันถูกประณาม
ไม่ใช่ทั้งพระเจ้าและกฤษณะจะสามารถถูกประณามได้
คำยกย่องของทั้งสองนั้นมีพลังอย่างยิ่ง คำยกย่องของกฤษณะเป็นอันดับหนึ่ง
ไม่ได้มีคำยกย่องของลักษมีและนารายณ์มากนักเพราะพวกเขานั้นแต่งงานแล้ว
กฤษณะเป็นกุมารเหตุนี้เองเขาจึงได้รับคำยกย่องมากกว่า
พวกเขาร้องยกย่องลักษมีเหมือนกันกับนารายณ์ว่าพวกเขานั้นเต็ม 16
องศาสมบูรณ์และปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์อย่างไร
แต่พวกเขาได้นำกฤษณะไปไว้ในยุคทองแดง
พวกเขาคิดว่าคำยกย่องนั้นได้ดำเนินมาตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของเวลา ลูกๆ
เข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดนี่คือความรู้ของพระเจ้าและเป็นพระเจ้าที่ก่อตั้งอาณาจักรของราม
(พระเจ้า) มนุษย์ไม่เข้าใจว่าอาณาจักรของราม (พระเจ้า) คืออะไร
พ่อมาและให้คำอธิบายของสิ่งนี้ ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับกีตะ สิ่งต่างๆ ที่ผิดๆ
นั้นถูกเขียนไว้ในกีตะ
สงครามไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างฆราวาสและพันดาวาสและดังนั้นปัญหาของอรชุนจึงไม่เกิดขึ้น
พ่อนั่งที่นี่และสอนลูกในโรงเรียนนี้ไม่ได้มีโรงเรียนในสนามรบ ใช่
มีการรบรานี้กับมายาราวันที่ลูกต้องได้รับชัยชนะเหนือสิ่งเหล่านั้น
ลูกต้องกลายเป็นผู้เอาชนะมายาและเป็นผู้เอาชนะโลก อย่างไรก็ตาม
ผู้คนไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้แม้เพียงเล็กน้อย
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครสำหรับพวกเขาที่จะมาภายหลังและเข้าใจ เพียงลูกๆ
เท่านั้นที่สามารถอธิบายประเด็นเหล่านี้แก่พวกเขาได้
ไม่มีเรื่องของการยิงธนูของความก้าวร้าวรุนแรงไปยังบิชัมปิตาเม ฯลฯ
สิ่งต่างๆเช่นนั้นมากมายได้ถูกเขียนไว้ในคัมภีร์
ผู้เป็นแม่ควรจะไปและใช้เวลาชั่วขณะกับผู้คนเหล่านั้น
บอกพวกเขาเราต้องการพูดกับท่านในสิ่งที่เชื่อมโยงกับสิ่งนี้ เป็นพระเจ้าที่พูดกีตะ
นั่นเป็นคำยกย่องของพระเจ้า กฤษณะนั้นแตกต่างไป เราไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งนี้ รูดร้า
พระเจ้าชีวาพูดว่า “นี่เป็นไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้าของท่าน”
นี่เป็นไฟบูชายัญของความรู้ของพ่อสูงสุดดวงวิญญาณสูงสุดที่ไม่มีตัวตน
และมนุษย์ก็พูดว่าพระเจ้ากฤษณะพูด
แต่ในความเป็นจริงเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะเรียกว่าเป็นพระเจ้า
ลูกควรจะเขียนคำยกย่องของท่านแล้วเขียนว่าคำยกย่องของกฤษณะคืออะไร
เวลานี้ในบรรดาทั้งสองใครเป็นพระเจ้าของกีตะ? “ราชาโยคะที่ง่ายดาย”
นั้นได้อ้างอิงไว้ในกีตะ พ่อพูดว่า: มีการสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด
ละทิ้งสำนึกของร่างกายของลูกและความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมดของลูกและคิดว่าตนเองนั้นเป็นดวงวิญญาณ
มานมานะภาฟ! มาเดียจิภาฟ! พ่ออธิบายทุกสิ่งอย่างชัดเจนมาก
กีตะที่บรรจุศรีมัทนั้นพูดโดยพระเจ้า
ศรีหมายถึงสูงส่งที่สุดและดังนั้นสิ่งนี้ใช้กับชีวา พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้น กฤษณะเป็นมนุษย์ที่มีคุณสมบัติที่สูงส่ง
ชีวาเป็นพระเจ้าแห่งกีตะผู้เดียวที่สอนราชาโยคะในเวลาสุดท้าย แน่นอนที่ศาสนาอื่นๆ
ทั้งหมดนั้นถูกทำลายและมีการก่อตั้งศาสนาเดียวนี้
ในยุคทองมีเพียงศาสนาเทพดั้งเดิมเดียวเท่านั้น
ไม่ใช่กฤษณะแต่เป็นพระเจ้าที่ก่อตั้งศาสนานั้น คำยกย่องนี้เป็นของพระเจ้า
ท่านนั้นเรียกว่าแม่และพ่อ กฤษณะไม่สามารถเรียกเช่นนี้
ลูกต้องให้คำแนะนำพ่ออย่างแท้จริง
ลูกสามารถอธิบายว่าพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ปลดปล่อยและเป็นผู้นำทางที่นำพาทุกคนกลับบ้าน
เป็นงานของชีพบาบาที่จะนำพาทุกคนกลับบ้านเหมือนกับฝูงยุง คำว่า “สูงสุด”
นั้นดีอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้นลูกต้องอธิบายคำยกย่องของชีวา พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุด นั้นแยกจากคำยกย่องของกฤษณะ
ลูกต้องพิสูจน์สิ่งนี้และอธิบายความแตกต่างระหว่างทั้งสอง
ชีวาไม่ได้เข้ามาสู่วงจรของการเกิดและการกลับมาใช้ชาติเกิด
ท่านเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ในขณะที่กฤษณะใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม เวลานี้
ใครจะเรียกได้ว่าเป็นดวงวิญญาณสูงสุด? ลูกควรจะเขียนสิ่งนี้ด้วย:
ด้วยการไม่รู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
พวกท่านได้อยู่อย่างเป็นลูกกำพร้าที่ไม่มีความสุข
ในยุคทองเมื่อพวกท่านเป็นของผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนาย
พวกท่านจะมีความสุขอย่างแน่นอน และคำที่เขียนควรชัดเจนมาก พ่อพูดว่า:
จดจำฉันและประกาศสิทธิ์ในมรดกของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาทีของลูก
แม้กระทั่งเวลานี้ ชีพบาบากำลังพูดเช่นนี้
คำยกย่องที่สมบูรณ์ของท่านควรที่จะมีการเขียนไว้ ขอคารวะต่อชีวา
เป็นไปจากท่านที่ลูกได้รับมรดกแห่งสวรรค์ของลูก
ด้วยการเข้าใจวงจรโลกลูกจะกลายเป็นชาวสวรรค์ เวลานี้ตัดสินว่าอะไรถูกต้อง ลูกๆ
ควรที่จะไปยังอาศรมของซันยาสซีและพบปะกับพวกเขาเป็นการส่วนตัว
เพราะเมื่อพวกเขาอยู่ในชุมนุมพวกเขานั้นมีความหยิ่งยโสมากมาย
ควรจะคงอยู่ในสติปัญญาของลูกๆว่าลูกนั้นจะสามารถแสดงหนทางที่แท้จริงแก่ผู้คนได้อย่างไร
พระเจ้าพูด: พ่อแม้กระทั่งยกระดับผู้รู้และผู้เคร่งศาสนาเหล่านี้ มีคำว่า “ผู้ปลดปล่อย”
ด้วยเช่นกัน พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดว่า: เป็นของพ่อ “พ่ออวดลูก!” ลูกอวดพ่อ
ศรีกฤษณะไม่สามารถเรียกว่าเป็นพ่อ ทั้งหมดสามารถเป็นลูกๆ ของพระเจ้าผู้เป็นพ่อ
พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถเป็นลูกๆ ของมนุษย์หนึ่งคนได้ ดังนั้นลูกๆ
ควรมีความซาบซึ้งอย่างมากขณะอธิบายแก่ผู้อื่นว่าเราเป็นลูกๆ ของพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
เพียงแต่มองดูพฤติกรรมของบุตรพระราชา เจ้าชาย! พฤติกรรมนั้นสูงศักดิ์อย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามชาวบารัตได้ประณามผู้ที่น่าสงสารนี้(ศรีกฤษณะ) พวกเขาพูดว่า:
พวกท่านเป็นชาวบารัตด้วย พูดกับพวกเขา ใช่ เราเป็น
แต่เราอยู่ในยุคแห่งการบรรจบพบกัน เราได้กลายเป็นลูกๆ
ของพระเจ้าและเรากำลังศึกษากับท่าน พระเจ้าพูด: พ่อสอนราชาโยคะแก่ลูก
กฤษณะไม่อาจพูดเช่นนี้ได้ พวกเขาจะมาเพื่อเข้าใจสิ่งนี้ภายหลัง
กษัตริย์จานาคเองก็เข้าใจทุกสิ่งจากสัญญาณด้วยเช่นกัน เขาจดจำพ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดแล้วเข้าฌาณ หลายต่อหลายคนก็เฝ้าแต่เข้าฌาณ
ในฌาณพวกเขาได้เห็นโลกที่ไม่มีตัวตนและดินแดนสุขาวดี
ลูกเข้าใจว่าลูกเป็นผู้อาศัยของโลกที่ไม่มีตัวตน
ลูกลงมาจากอาณาเขตสูงสุดเพื่อเล่นบทบาทของลูก การทำลายล้างกำลังยืนอยู่เบื้องหน้า
นักวิทยาศาสตร์เฝ้าแต่เพียรพยายามอย่างหนักมากที่จะไปยังดวงจันทร์
เป็นไปด้วยความหยิ่งยโสที่สุดของวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาจะนำมาซึ่งการทำลายล้างพวกเขาเอง
ในความเป็นจริงไม่มีสิ่งใดบนดวงจันทร์ สิ่งต่างๆ
เหล่านี้ดีมากแต่ลูกต้องอธิบายแก่พวกเขาในวิธีที่ชาญฉลาด
เป็นพ่อผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดที่ได้ให้คำสอนเหล่านี้แก่พวกเรา
ท่านเป็นพ่อของพวกท่านด้วยเช่นกัน คำยกย่องของท่านนั้นแตกต่างจากคำยกย่องของกฤษณะ
นี่เป็นไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้าที่ไม่สูญสลายที่ซึ่งทุกสิ่งนั้นกำลังจะถูกสังเวย
ประเด็นเหล่านี้ดีมากแต่ยังคงต้องใช้เวลา ประเด็นนี้ดีมากด้วยเช่นกัน:
หนึ่งนั้นคือการจาริกแสวงบุญทางจิตและอีกหนึ่งนั้นคือการจาริกแสวงบุญทางร่าง
พ่อพูดว่า: จดจำพ่อแล้วความคิดสุดท้ายของลูกจะนำลูกไปสู่จุดหมายปลายทางของลูก
ไม่มีใครนอกจากพ่อทางจิตสามารถสอนสิ่งต่างๆ เหล่านี้แก่ลูกได้
ลูกควรจะเขียนประเด็นเช่นนั้น: มานมานะภาฟ! มาเดียจิภาฟ!
การจาริกแสวงบุญนี้เป็นไปเพื่อการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
เพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถพาลูกไปในการจาริกแสวงบุญนี้ กฤษณะไม่สามารถทำเช่นนี้
ลูกต้องปลูกฝังนิสัยของการจดจำระลึกถึง
ยิ่งลูกมีการจดจำระลึกถึงมากเพียงไรความสุขของลูกจะยิ่งมากขึ้นตามนั้น อย่างไรก็ตาม
มายาไม่ได้ปล่อยให้ลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึง อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน และเวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา ลูกทั้งหมดกำลังทำงานรับใช้
อย่างไรก็ตาม มีงานรับใช้ที่สูงส่ง และงานรับใช้ที่ต่ำ
เป็นเรื่องง่ายมากที่จะให้คำแนะนำของพ่อแก่ใครบางคน อัจชะ พ่อทางจิต
พูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
ชั้นเรียนในเวลากลางคืน
ในการที่จะอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสผู้คนไปที่ภูเขาเพื่อได้รับอากาศสดชื่น
ขณะที่อยู่ที่บ้านหรือในสำนักงานพวกเขาก็จดจำหน้าที่ของพวกเขา
ด้วยการออกไปข้างนอกพวกเขาเป็นอิสระจากความคิดเกี่ยวกับสำนักงานของพวกเขา ลูกๆ
เองนั้นก็มาที่นี่เพื่อที่จะอยู่อย่างสดชื่นด้วยเช่นกัน
ลูกอยู่อย่างเหน็ดเหนื่อยจากการทำความเลื่อมใสศรัทธามาถึงครึ่งหนึ่งของวงจร
ลูกได้รับความรู้ในยุคแห่งการบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลนี้ลูกอยู่อย่างสดชื่นด้วยความรู้และโยคะ
ลูกเข้าใจว่าเวลานี้โลกเก่ากำลังจะถูกทำลายและโลกใหม่กำลังมีการสร้างขึ้น
ไม่มีการทำลายล้างอย่างสิ้นซากใดๆ
ผู้คนเหล่านั้นคิดว่าโลกนั้นจะถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
โลกนั้นเพียงแต่เปลี่ยนไป นี่เป็นนรก โลกเก่า
ลูกเข้าใจว่าโลกเก่าคืออะไรและโลกใหม่คืออะไร มีการอธิบายสิ่งนี้แก่ลูกในรายละเอียด
รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสติปัญญาของลูก
แต่นั่นตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำด้วยเช่นกัน
ลูกจำเป็นต้องมีปราณีตอย่างมากในการอธิบาย
อธิบายแก่ผู้อื่นเช่นที่ว่าสิ่งนั้นจะนั่งอยู่ในสติปัญญาของพวกเขาได้ในทันที
ลูกบางคนนั้นก็อ่อนแอและดังนั้นพวกเขานั้นจึงล้มลงขณะที่กำลังเคลื่อนไป
มีคำพูดของพระเจ้าด้วยเช่นกันว่า: พวกเขาอยู่อย่างตะลึงงัน
พวกเขารับฟังความรู้และบอกผู้อื่นเกี่ยวกับความรู้นี้ ที่นี่มีการรบรากับมายา
พวกเขาตายจากมายาและเป็นของพระเจ้าและแล้วพวกเขาก็ตายจากพระเจ้าและเป็นของมายา
พวกเขานั้นได้รับการนำมาเลี้ยงดูแล้วพวกเขาก็หย่าขาดจากท่าน
มายานั้นเต็มไปด้วยพลังอย่างยิ่ง เธอนำพายุให้แก่ผู้คนมากมาย ลูกๆ
เข้าใจด้วยเช่นกันว่ามีชัยชนะและความพ่ายแพ้
การแสดงนี้เป็นการแสดงของชัยชนะและการพ่ายแพ้ เราเคยพ่ายแพ้กิเลสทั้งห้า
เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามที่จะได้รับชัยชนะเหนือสิ่งเหล่านั้น
ในที่สุดแล้วชัยชนะจะเป็นของลูก ในเมื่อลูกเป็นของพ่อลูกต้องอยู่อย่างมั่นคง
ลูกสามารถที่จะเห็นว่ามายาได้ล่อใจมากเพียงไรแก่ลูกแม้กระทั่งโดยการเข้าฌาน
เกมส์นั้นก็จบสิ้นอยู่บ่อยๆ เวลานี้ได้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆ ว่า
เวลานี้ลูกได้จบสิ้นวงจรของ 84 ชาติเกิดแล้ว ลูกกลายเป็นเทพ นักรบ พ่อค้า
และเวลานี้ลูกได้กลายเป็นบราห์มินจากศูทร
ลูกกลายเป็นบราห์มินแล้วกลายเป็นเทพลูกไม่ควรจะลืมสิ่งนี้
หากลูกลืมสิ่งนี้ลูกก็ก้าวถอยหลังและสติปัญญาของลูกก็ข้องแวะอยู่ในเรื่องราวทางโลก
ลูกนั้นไม่สามารถจดจำแม้มุรลี ฯลฯ
ลูกมีประสบการณ์ของการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงว่ายากลำบาก
นี่เป็นความอัศจรรย์! ลูกบางคนละอายที่จะติดเข็ม
นี่ก็เป็นสำนึกที่เป็นร่างด้วยเช่นกัน ลูกต้องรับการดูถูกดูหมิ่น
กฤษณะถูกดูหมิ่นมากมาย
เป็นชีพบาบาที่ถูกดูหมิ่นมากที่สุดและจึงเป็นกฤษณะและแล้วก็เป็นรามผู้ที่ถูกดูหมิ่นมากที่สุด
เป็นสิ่งที่ตามลำดับกันไป บารัตนั้นถูกประณามอย่างมากมายด้วยการดูหมิ่นเหล่านี้
ลูกไม่ควรที่จะหวาดกลัวสิ่งนั้น อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และราตรีสวัสดิ์
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำให้สติปัญญาของลูกมีการสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัดและคงอยู่ในการจาริกแสวงบุญทางจิตนี้เสมอ
ปลูกฝังนิสัย การอยู่ในการจดจำระลึกถึง
2. “พ่ออวดลูก” “ลูกอวดพ่อ” ให้คำแนะนำที่แท้จริงของพ่อแก่ทุกคน
ชี้หนทางที่จะได้มาซึ่งการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาทีแก่ทุกคน
พร:
ขอให้ลูกเป็นนักแสดงเอกที่กลายเป็นนกที่โบยบินแทนที่จะห้อยจากกิ่งก้านของการกระทำที่สูงส่ง
การกระทำที่สูงส่งที่ทำในยุคบรรจบพบกันคือกิ่งก้านเพชร
ไม่ว่าการกระทำที่สูงส่งของยุคบรรจบพบกันจะเป็นอย่างไร
การกลับมาติดกับด้วยบ่วงของการกระทำที่สูงส่งนั่นคือการมีความปรารถนาที่มีขีดจำกัดคือโซ่ทองด้วยเช่นกัน
ลูกต้องไม่มีโซ่ทองนี้หรือห้อยจากกิ่งก้านเพชร เพราะบ่วงก็คือบ่วง
ดังนั้นบัพดาดาจึงเตือนสตินกที่โบยบินทั้งหมดให้ไปอยู่เหนือบ่วงทั้งหมดซึ่งเป็นสิ่งที่มีขีดจำกัดทั้งหมดและกลายเป็นนักแสดงเอก
คติพจน์:
ใบหน้าของลูกเป็นกระจกสะท้อนของสภาพภายในของลูก
และดังนั้นอย่าได้ปล่อยให้ใบหน้าของลูกดูแห้งเหี่ยว แต่ให้เป็นใบหน้าที่มีความสุข
คำพูดที่สูงส่งที่แสนหวานของมาเตชวารี
เป็นหน้าที่ของใครที่จะไปจากโลกยุคเหล็กที่ไร้รสชาติ
ไปสู่โลกยุคทองที่เต็มไปด้วยสาระ?
ทำไมโลกยุคเหล็กนี้ถึงเรียกว่าโลกที่ไม่มีรสชาติ? เพราะไม่มีสาระในโลกนี้
นั่นคือไม่มีพละกำลังเหลืออยู่ ไม่มีความสุข ความสงบ หรือความบริสุทธิ์
ครั้งหนึ่งเคยมีความสุข ความสงบ และความบริสุทธิ์ในโลกนี้
ไม่มีพละกำลังนั้นอีกต่อไปเพราะกิเลสทั้งห้าคงอยู่ในโลกนี้
ดังนั้นจึงมีมหาสมุทรแห่งความกลัวอยู่ในโลกนี้ นั่นคือ
สิ่งนี้เรียกว่ามหาสมุทรของบ่วงกรรม
และเหตุนี้เองผู้คนจึงไม่มีความสุขและเรียกหาพระเจ้าว่า
พระเจ้าพาเราข้ามมหาสมุทรนี้
สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าจะต้องมีโลกที่ไม่มีความกลัวอย่างแน่นอน
นั่นคือโลกที่ปราศจากความกลัวที่พวกเขาต้องการจะไป
เหตุนี้เองโลกนี้จึงเรียกว่ามหาสมุทรแห่งบาป
พวกเขาปรารถนาที่จะข้ามไปสู่โลกของดวงวิญญาณบุญ มีสองโลกด้วยกัน
หนึ่งคือโลกยุคทองที่เต็มไปด้วยสาระ และอีกหนึ่งคือโลกยุคเหล็กที่ไร้รสชาติ
ทั้งสองโลกคงอยู่บนโลกนี้ อัจชะ