16.11.2018       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกต้องเป็นผู้นำทางทางจิตและไปในการจาริกแสวงบุญนี้ และสามารถทำให้ผู้อื่นไปในการจาริกแสวงบุญนี้ด้วย การจดจำระลึกถึงนี้คือการจาริกแสวงบุญของลูก เฝ้าแต่มีการจดจำระลึกถึงแล้วปรอทของความสุขของลูกจะสูงขึ้น

คำถาม:
สันสการ์ใดที่หายไป และสันสการ์ใดที่คงอยู่ ทันทีที่ลูกไปยังโลกที่ไม่มีตัวตน?

คำตอบ:
ที่นั่น สันสการ์ของความรู้จะหายไป และเพียงสันสการ์ของผลรางวัลเท่านั้นที่จะคงอยู่ บนพื้นฐานของสันสการ์เหล่านี้ที่ลูกมีประสบการณ์ของผลรางวัลของลูกในยุคทอง สันสการ์ของการศึกษาเล่าเรียนและการเพียรพยายามไม่ได้คงอยู่ที่นั่น เมื่อลูกได้รับผลรางวัลของลูกแล้ว ความรู้นี้ก็จบสิ้น

เพลง:
โอ นักเดินทางของเวลากลางคืน อย่าได้เหนื่อยล้า จุดหมายปลายทางของรุ่งอรุณนั้นอยู่ไม่ไกล

โอมชานติ
ที่นี่ พระเจ้าชีวาพูดกับลูกเป็นการส่วนตัว ในกีตะได้มีการอ้างอิงว่า พระเจ้าศรีกฤษณะพูด อย่างไรก็ตาม กฤษณะไม่สามารถที่จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัวด้วยรูปและนามเดียวกัน เป็นพระเจ้าที่ไม่มีตัวตนที่พูดและท่านพูดกับลูกเป็นการส่วนตัว หากพวกเขาพูดว่า พระเจ้ากฤษณะพูด ก็ราวกับว่า พวกเขากำลังอ้างผู้ที่มีตัวตน ผู้ที่ถ่ายทอดพระเวทย์และคัมภีร์จะไม่มีวันพูดว่า พระเจ้าพูด เพราะผู้รู้ ผู้เคร่งศาสนา มหาตมะ และ ฯลฯ ทั้งหมดนั้นมีตัวตน พ่อพูดว่า: โอ นักเดินทางทางจิต พ่อทางจิตนั้นจะพูดกับดวงวิญญาณอย่างแน่นอน ลูกๆ อย่าได้เหนื่อยอ่อน บางคนเหนื่อยระหว่างการจาริกแสวงบุญจึงกลับไป เหล่านั้นเป็นการจาริกแสวงบุญทางร่าง พวกเขานั้นไปเที่ยวชมวัดต่างๆ มากมาย ขณะที่ไปในการจาริกแสวงบุญทางร่าง บ้างก็ไปที่วัดของชีวา ที่ซึ่งมีการเก็บสัญลักษณ์ที่เป็นวัตถุทั้งหมดของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเอาไว้ ผู้เป็นจิตวิญญาณสูงสุด พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดนั้นให้ความรู้นี้แก่ลูก และพูดกับลูกๆ ดวงวิญญาณ โอ ลูกๆ เชื่อมโยคะของสติปัญญาของลูกกับพ่อผู้เดียวเท่านั้นและท่านก็ให้ความรู้ด้วย เมื่อผู้คนไปในการจาริกแสวงบุญเหล่านั้นก็มีพระบราห์มินที่นั่งอยู่ที่นั่น ผู้ที่ร้องเพลงและถ่ายทอดเรื่องราวจากคัมภีร์ให้กับพวกเขา อย่างไรก็ตาม ของลูกคือเรื่องราวที่แท้จริงเดียวของการกลายเป็นนารายณ์ นั่นคือของการกลายเป็นนารายณ์จากนายธรรมดา ลูกเข้าใจว่า ก่อนอื่น ลูกจะไปยังบ้านที่แสนหวาน และภายหลัง ลูกจะลงมาสู่ดินแดนของวิษณุ ในเวลานี้ลูกอยู่ในดินแดนของบราห์มา นี่เรียกได้ว่าเป็นบ้านของพ่อ-แม่ของลูก ลูกไม่ได้มีเพชรพลอยใดๆ และ ฯลฯ เพราะลูกอยู่ในบ้านของพ่อ-แม่ของลูก ลูกเข้าใจว่า ลูกกำลังจะได้รับความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดในบ้านของฝ่ายสามีของลูกที่นี่ ในบ้านของฝ่ายสามียุคเหล็กของลูกมีความทุกข์ที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกต้องข้ามไปสู่ดินแดนแห่งความสุขนั้น ลูกต้องได้รับการโยกย้ายไปจากที่นี่ พ่อจะทำให้ลูกทั้งหมดนั่งในดวงตาของท่านและพาลูกกลับบ้าน ได้มีการแสดงว่า พ่อของกฤษณะได้นำเขาข้ามแม่น้ำไปในตะกร้า ที่นี่พ่อที่ไม่มีขีดจำกัด นำลูกข้ามฟากไปสู่บ้านของฝ่ายสามีของลูก ก่อนอื่น ท่านจะพาลูกไปสู่บ้านที่ไม่มีตัวตนของลูก และภายหลังจะส่งลูกไปยังบ้านของฝ่ายสามีของลูก ลูกจะลืมประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดของบ้านของฝ่ายสามีและบ้านของพ่อ-แม่ นั่นเป็นบ้านของพ่อแม่ที่ไม่มีตัวตนของลูก ที่นั่นลูกจะลืมความรู้นี้ สันสการ์ของความรู้จะหลุดหายไป และเพียงสันสการ์ของผลรางวัลของลูกเท่านั้นที่จะหลงเหลืออยู่ และแล้ว สำนึกรู้เดียวเท่านั้นที่ลูกๆ มี จะเป็นสำนึกในผลรางวัลของลูก ลูกจะไปและถือกำเนิดในความสุขตามผลรางวัลของลูก ลูกต้องไปสู่ดินแดนแห่งความสุข เมื่อลูกได้รับผลรางวัลของลูกแล้ว ความรู้นี้ก็จะจบสิ้น ลูกเข้าใจว่า การกระทำเดียวกันของผลรางวัลจะเกิดขึ้นอีกครั้ง สันสการ์ของลูก จะกลายเป็นสันสการ์ของผลรางวัล สันสการ์ของลูกในเวลานี้เป็นของการทำความเพียรพยายาม ไม่ใช่สันสการ์ของทั้งความเพียรพยายามและผลรางวัลจะคงอยู่ที่นั่น ไม่เลย ความรู้นี้ไม่ได้คงอยู่ที่นั่น นี่คือการจาริกแสวงบุญทางจิตของลูก และพ่อเป็นหัวหน้าผู้นำทางของลูก ในความเป็นจริง ลูกได้กลายเป็นผู้นำทางทางจิตด้วยและพาทุกคนไปพร้อมกันกับลูก ผู้นำทางเหล่านั้นเป็นทางร่าง ในขณะที่ลูกๆ เป็นผู้นำทางทางจิต พวกเขาไปที่อมานารถ ด้วยความโอฬารตระการตาอย่างมาก กลุ่มใหญ่นั้นไปยังอมานารถด้วยความโอฬารตระการตาเป็นพิเศษ บาบาเคยเห็นผู้รู้ และผู้เคร่งศาสนา ฯลฯ มากมาย ได้นำเครื่องดนตรีไปที่นั่น พวกเขานั้นได้พาหมอไปพร้อมกันกับพวกเขาด้วย เพราะภูมิอากาศนั้นหนาวเย็นและบ้างก็ล้มป่วย การจาริกแสวงบุญของลูกนั้นง่ายมาก พ่อพูดว่า: การจาริกแสวงบุญของลูกเป็นการจาริกแสวงบุญของการจดจำระลึกถึง สิ่งหลักคือการจดจำระลึกถึง ปรอทของความสุขของลูกจะคงอยู่สูงหากลูกๆ เฝ้าแต่มีการจดจำระลึกถึง ลูกต้องนำผู้อื่นไปพร้อมกันกับลูกในการจาริกแสวงบุญนี้ด้วย การจาริกแสวงบุญนี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น การจาริกแสวงบุญทางร่างเหล่านั้น เริ่มเกิดขึ้นในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา แต่พวกเขาไม่ได้เริ่มต้นทันทีในตอนแรก ไม่ใช่ว่าวัดและสัญลักษณ์ต่างๆ นั้นถูกสร้างขึ้นมาในทันที สิ่งเหล่านั้นค่อยๆถูกทำขึ้นมาทีละน้อยภายหลัง ก่อนอื่นจะมีการสร้างวัดของชีวา แล้วพวกเขาสร้างวัดโสมนาถ(สัญลักษณ์ของชีวา)ในบ้านของเขา ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปที่ใด วัดเหล่านั้นทั้งหมดฯลฯถูกสร้างขึ้นภายหลังเพราะต้อง ใช้เวลาอย่างมาก คัมภีร์ใหม่ รูปภาพใหม่ วัดใหม่ๆ เฝ้าแต่ถูกทำขึ้นมาเรื่อยๆอย่างช้าๆ ทุกอย่างใช้เวลาเพราะต้องการผู้ที่ศึกษาคัมภีร์ด้วยเช่นกัน เมื่อมีลัทธิเพิ่มขึ้นก็มีความคิดที่จะสร้างคัมภีร์ มีการสร้างสถานที่การจาริกแสวงบุญมากมาย วัดและรูปภาพต่างๆ มากมายซึ่งล้วนใช้เวลา ถึงแม้ว่ามีคำกล่าวว่าหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเริ่มต้นในยุคทองแดงก็ยังคงใช้เวลา องศาเฝ้าแต่จะลดลงไป ความเลื่อมใสศรัทธาในตอนเริ่มแรกไม่มีสิ่งเจือปน และแล้วภายหลังนั้นก็มีสิ่งเจือปน หลักฐานของประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดได้มีการแสดงไว้อย่างชัดเจนมากในรูปภาพ ควรจะอยู่ในสติปัญญาของผู้ที่จะอธิบายว่าพวกเขาควรที่จะสร้างรูปภาพนั้นอย่างไรเพื่อที่จะอธิบาย ความคิดเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสติปัญญาของทุกคน ทั้งหมดนั้นตามลำดับกันไป บ้างนั้นก็ไม่สามารถใช้สติปัญญาของพวกเขาเลยสำหรับสิ่งนี้ และดังนั้น พวกเขาจึงได้รับสถานภาพตามนั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่าพวกเขานั้นจะกลายเป็นอะไร เมื่อลูกก้าวต่อไป ลูกจะเข้าใจสิ่งนี้มากขึ้น เมื่อสงครามเกิดขึ้นลูกจะเห็นทุกสิ่งในทางปฏิบัติ และแล้ว ลูกก็จะเสียใจภายหลังอย่างมากมาย ลูกจะไม่สามารถศึกษาได้ในเวลานั้น ในเวลาของสงคราม จะเป็นเสียงร้องของความทุกข์ระทม ลูกจะไม่สามารถรับฟังพวกเขาได้ ลูกไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อมีการแบ่งแยกดินแดน อะไรเกิดขึ้น ลูกเคยเห็นแล้วใช่ไหม เวลาของการทำลายล้างนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง ใช่ ลูกจะได้รับนิมิตมากมายที่จะทำให้ลูกมาเพื่อที่จะรู้ว่าแต่ละคนได้ศึกษามากเพียงไร จะเป็นการเสียใจอย่างใหญ่หลวง และลูกจะได้รับนิมิตด้วยเช่นกัน ลูกหยุดศึกษาเล่าเรียน และเหตุนี้เอง สภาพของลูกจึงได้กลายเป็นเช่นนั้น ดรามราชจะสามารถลงโทษลูกโดยที่ไม่ให้นิมิตแก่ลูกก่อนได้อย่างไร? ท่านจะให้นิมิตของทุกสิ่งแก่ลูก ลูกจะไม่สามารถทำสิ่งใดได้ในเวลานั้น ลูกจะพูดว่า โอ้ ความอับโชคของฉัน! เวลาของการทำความเพียรพยายามจะจบสิ้นลง ดังนั้น พ่อพูดว่า: ทำไมจึงไม่ทำความเพียรพยายามในเวลานี้ เป็นไปด้วยงานรับใช้ ที่ลูกจะประกาศสิทธิ์ในบัลลังก์หัวใจของพ่อ พ่อจะพูดว่า: ลูกคนนี้กำลังทำงานรับใช้ที่ดี หากบุคคลในกองทหารตาย เพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง ญาติมิตร ของเขานั้น ก็ได้รับรางวัลด้วยเช่นกัน พ่อก็ได้ให้รางวัลด้วยเช่นกันที่นี่ เป็นพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดที่ได้ให้รางวัลแก่ลูก ลูกได้รับรางวัลสำหรับอนาคตถึง 21ชาติเกิดของลูกจากพ่อ ลูกแต่ละคนควรที่จะวางมือของลูกไว้ที่หัวใจของลูกและถามตัวลูกเองว่า ลูกศึกษามากเพียงไร หากลูกไม่สามารถเข้าถึงความรู้ได้ ก็จะกล่าวได้ว่าไม่อยู่ในโชคของลูก จะกล่าวได้ว่าคาร์มา (ชะตากรรม) ของลูกนั้นไม่ค่อยดีนัก ผู้ที่ทำการกระทำที่เลวร้ายมามากมายไม่สามารถที่จะรับความรู้ใดๆ นี้เข้าไปได้ พ่ออธิบาย ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกต้องนำมิตรร่วมทางของลูกไปกับลูกในการจาริกแสวงบุญทางจิตนี้ด้วย เป็นหน้าที่ของลูกที่จะบอกทุกคนเกี่ยวกับการจาริกแสวงบุญนี้ บอกพวกเขาว่า การจาริกแสวงบุญนี้ของเรานั้นเป็นทางจิต ในขณะที่การจาริกแสวงบุญอื่นนั้นเป็นทางร่าง พวกเขาได้แสดงทะเลสาบมหัศจรรย์ใกล้กับร่างกุ้ง มีคำกล่าวว่า ด้วยการอาบลงไปในทะเลสาบนั้น ลูกจะสามารถกลายเป็นเทพธิดา อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกลายเป็นเทพธิดา เป็นเรื่องของการอาบในความรู้ที่จะทำให้ลูกกลายเป็นจักรพรรดินีแห่งดินแดนสุขาวดี เป็นสิ่งที่ธรรมดาสำหรับลูกที่จะไปและมาจากดินแดนสุขาวดีด้วยพลังของความรู้และโยคะ ในความเป็นจริง มีการหยุดลูกจากการเข้าญาณครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะนั่นจะกลายเป็นนิสัย ดังนั้น นี่คือมานสโรว่าของความรู้ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด มาและให้ความรู้นี้แก่ลูกผ่านร่างมนุษย์นี้ เหตุนี้เองจึงเรียกว่าเป็นมานสโรว่า ความหมายของคำว่า “มานสโรว่า” มาจากมหาสมุทร เป็นสิ่งที่ดีมากที่จะอาบในมหาสมุทรแห่งความรู้ ภรรยา(ของจักรพรรดิ) ในดินแดนสุขาวดีจะเรียกว่าเป็นจักรพรรดินี พ่อพูดว่า: ลูกเองก็ได้กลายเป็นนายของดินแดนสุขาวดี มีความรักสำหรับลูกๆ มีความเมตตาสำหรับทุกคน มีความเมตตาสำหรับผู้เคร่งศาสนาด้วย มีการเขียนไว้ในกีตะว่า พระเจ้ายกระดับผู้เคร่งศาสนาด้วยเช่นกัน การยกระดับเกิดขึ้นด้วยความรู้และโยคะ ลูกๆ จำเป็นต้องตื่นตัวและกระฉับกระเฉงอย่างยิ่ง เพื่อที่จะอธิบายแก่ผู้อื่น บอกพวกเขาว่า ทุกสิ่งที่ท่านรู้เป็นเหมือนกับหางนม เธอไม่ได้รู้จักผู้เดียวที่ให้เนย พ่ออธิบายทุกสิ่งแก่ลูกอย่างชัดเจนมาก แต่ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับว่าได้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกมากเพียงไร ด้วยการตระหนักรู้จักพ่อ มนุษย์ได้กลายเป็นเช่นเพชร ด้วยการไม่รู้จักท่าน มนุษย์กลายเป็นเช่นเปลือกหอยและไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ ด้วยการรู้จักพ่อ พวกเขากลับมาบริสุทธิ์ ไม่มีใครบริสุทธิ์ในโลกที่ไม่บริสุทธิ์ ลูกๆผู้ที่เป็นมหาระตีจะสามารถอธิบายประเด็นเหล่านี้ได้อย่างดีมาก มีบราห์มากุมารและบราห์มากุมารี มากมาย ชื่อประชาบิดาบราห์มานั้น เป็นที่รู้จัก ลูกคือลูกๆที่เกิดจากปากของประชาบิดาบราห์มา บราห์มาได้มีการแสดงไว้พร้อมกับ 100 มือ และ 1000 มือ ได้เคยมีการอธิบายด้วยเช่นกันว่า บราห์มาไม่สามารถมีมือมากมายเช่นนั้น บราห์มามีลูกๆมากมาย บราห์มาเป็นลูกๆของใคร? ท่านมีพ่อด้วย บราห์มาเป็นลูกของชีพบาบา ใครอื่นเล่าที่จะสามารถเป็นพ่อของท่านได้ ไม่สามารถจะเป็นมนุษย์ บราห์มาวิษณุและชางก้าได้รับการจดจำว่า เป็นผู้อาศัยของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน พวกเขาไม่สามารถมาที่นี่ บราห์มาพ่อของปวงประชาจะอยู่ที่นี่ อย่างแน่นอน ท่านไม่สามารถสร้างปวงประชาในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดมา และสร้างกองทัพชีพชัคตีผ่านปากของบราห์มา ก่อนอื่น ลูกต้องแนะนำตนเองว่าเป็นลูกๆที่เกิดจากปากของบราห์มา บอกพวกเขาว่า พวกเขาเองนั้นก็เป็นลูกๆ ของบราห์มาด้วย ประชาบิดา บราห์มาเป็นพ่อของทุกคน ภายหลังรุ่นอื่นๆ นั้นก็ปรากฏออกมาจากท่าน และแล้ว ชื่อก็เฝ้าแต่เปลี่ยนไป ลูกสามารถที่จะเห็นว่า มีลูกๆ ของประชาบิดาบราห์มามากมายเพียงไรในทางปฏิบัติ แน่นอนที่ลูกๆ ต้องได้รับมรดก บราห์มาไม่ได้มีทรัพย์สมบัติใดๆ เป็นชีพบาบาที่มีทรัพย์สมบัติทั้งหมด บราห์มาเป็นบุตรของชีวา ลูกได้รับมรดกของลูกจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ชีพบาบานั่งที่นี่และสอนลูกผ่านบราห์มา ลูกได้รับมรดกของลูกจากปู่ บาบาอธิบายอย่างมากมาย แต่ลูกก็ไม่มีโยคะ พ่อจะสามารถทำอะไรได้ หากลูกไม่ทำสิ่งใดตามกฎ พ่อพูดว่า: นี่เป็นโชคของลูก หากลูกจะถามบาบา บาบาจะสามารถบอกลูกได้จากสภาพปัจจุบันของลูกว่า ลูกจะได้รับสถานภาพใด หัวใจของลูกนั้นเป็นพยานที่จะบอกลูกว่า ลูกทำงานรับใช้มากเพียงไร และลูกทำตามศรีมัทมากเพียงไร ศรีมัทพูดว่ามานมานะภาฟ เฝ้าแต่ให้คำแนะนำของพ่อ และมรดกแก่ทุกคน เฝ้าแต่รัวกลองเหล่านี้ บาบาเฝ้าแต่ให้สัญญาณแก่ลูกที่ลูกต้องอธิบายแก่รัฐบาล เพื่อที่พวกเขาเองจะสามารถเข้าใจว่าพละกำลังของบารัตนั้นได้สูญสิ้นไปอย่างแน่นอน ที่นั่นไม่มีโยคะกับพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดผู้ทรงอำนาจ เมื่อลูกมีโยคะกับท่าน ลูกจะสามารถเอาชนะมายา และเหตุนั้นเองจึงกลายเป็นนายของโลก จงเอาชนะมายาขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก พ่อเป็นผู้ช่วยของเรา ได้มีการอธิบายแก่ลูกอย่างมากมายแล้ว แต่ลูกต้องเข้าถึงสิ่งนั้น บาบาอธิบายแล้วว่า ทรัพย์สมบัติจะไม่ลดน้อยลงไปด้วยการให้ทาน เพียงเมื่อลูกทำงานรับใช้เท่านั้นที่ลูกจะไต่ขึ้นไปยังบัลลังก์หัวใจของบาบา ไม่เช่นนั้น นั่นก็เป็นไปไม่ได้ สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า บาบาไม่รักลูก บาบารักลูกๆ ที่เห็นค่าต่องานรับใช้ ลูกต้องทำความเพียรพยายามเพื่อทำให้ทุกคนมีค่าควรแก่การไปในการจาริกแสวงบุญ มานมานะภาฟนี่คือการจาริกแสวงบุญทางจิต จดจำพ่อและลูกจะมาหาพ่อ หลังจากที่ไปสู่ดินแดนของชีวา ลูกจะไปสู่ดินแดนของวิษณุ เพียงลูกเท่านั้นที่จะรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาศึกษาอย่างมากมายก็ไม่มีใครในพวกเขาเข้าใจความหมายของ”มานมานะภาฟ” พ่อให้มันตราที่ยิ่งใหญ่นี้แก่ลูก จดจำพ่อ และลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะบาป อัจชะ

ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. อาบในความรู้ รับใช้ผู้อื่นด้วยความรักและไต่ขึ้นไปบนบัลลังก์หัวใจของพ่อ อย่าได้อยู่อย่างไม่ระมัดระวังในเวลาของการทำความเพียรพยายามนี้

2. ลูกต้องข้ามดินแดนของความทุกข์ของยุคเหล็กนี้ไปสู่ดินแดนแห่งความสุข ด้วยการนั่งบนเปลือกตาของพ่อดังนั้น โยกย้ายทุกสิ่งที่ลูกมี

พร:
ขอให้ลูกหลอมรวมตนเองในมหาสมุทรแห่งความรักและขจัดความสกปรกของจิตสำนึกของ "ฉัน" ออกไป และกลายเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์

ผู้ที่อยู่อย่างหลอมรวมในมหาสมุทรแห่งความรักอย่างสม่ำเสมอจะไม่มีจิตสำนึกใดๆของโลกนี้ เพราะการหลอมรวมในความรัก พวกเขาจึงอยู่เหนือทุกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย มีการกล่าวถึงผู้เลื่อมใสศรัทธาว่าพวกเขาหลุดหายไปในพระเจ้า แต่ลูกก็จมน้ำ(หลอมรวม)อยู่ในความรักอย่างสม่ำเสมอ ลูกไม่มีสำนึกรู้ของโลกเลยและจิตสำนึกของ "ของฉัน" ได้จบสิ้น "ของฉัน"มากมายทุกประเภททำให้ลูกสกปรก แต่เมื่อพ่อเพียงผู้เดียวคือ"ของฉัน" ความสกปรกก็ถูกขจัดออกไปและดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์

คติพจน์:
การปลูกฝังและทำให้ผู้อื่นปลูกฝังเพชรพลอยแห่งความรู้ในสติปัญญาคือการเป็นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์