29.11.2018       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ความรู้คือเนยและความเลื่อมใสศรัทธาคือหางนม (นมส่วนที่เหลือจากการทำเนย) พ่อให้เนยแก่ลูกในรูปของความรู้และทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก เหตุนี้เองพวกเขาจึงแสดงให้เห็นเนยในปากของศรีกฤษณะ

คำถาม:
ลูกตระหนักรู้จักใครบางคนที่มีศรัทธาในสติปัญญาได้อย่างไร? มีการได้มาซึ่งการบรรลุผลใดบนพื้นฐานของศรัทธา?

คำตอบ:
ลูกๆ ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาเป็นแมลงเม่าที่แท้จริงที่อุทิศตนเองให้กับเปลวไฟ ไม่ใช่ผู้ที่เพียงแค่บินวนไปรอบๆ เพียงผู้ที่อุทิศตนเองต่อเปลวไฟเท่านั้นที่เข้ามาในอาณาจักร ผู้ที่เพียงแค่บินวนไปรอบๆ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชา คำสัญญาของลูกๆ ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาคือ “แม้ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดฉันก็จะไม่ปล่อยศาสนาของฉันไป” พวกเขามีความรักที่แท้จริงในสติปัญญาของพวกเขา และดังนั้นพวกเขาจึงลืมศาสนาทางร่างของพวกเขาและร่างกายของพวกเขา และอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ

เพลง:
ละจากบัลลังก์ของท่านในท้องฟ้าและลงมายังผืนดิน

โอมชานติ
พระเจ้าพูด พ่อสูงสุดที่ไม่มีตัวตนเรียกว่าเป็นพระเจ้า ใครพูด: พระเจ้าพูด? พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดที่ไม่มีตัวตนนั้น พ่อที่ไม่มีตัวตนนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตน ลูกๆ ดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตนรับฟังด้วยอวัยวะทางร่างกายของลูก ดวงวิญญาณจะไม่เรียกว่าเป็นชายหรือเป็นหญิง ดวงวิญญาณเรียกว่าดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณเองนั้นพูดด้วยอวัยวะเหล่านั้น ฉันทิ้งร่างหนึ่งแล้วใช้อีกร่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหมดเป็นพี่น้อง ในฐานะลูกๆ ของพ่อสูงสุดดวงวิญญาณสูงสุดที่ไม่มีตัวตน ลูกคือพี่น้องชาย และเมื่อลูกกลายเป็นลูกๆ ของประชาบิดาบราห์มา ลูกคือพี่น้องหญิง-ชาย ให้เฝ้าแต่อธิบายสิ่งนี้แก่ทุกคนเสมอ พระเจ้าคือผู้ปกป้อง ผู้เดียวที่ให้ผลของความเลื่อมใสศรัทธาของผู้เลื่อมใสศรัทธาแก่พวกเขา พ่ออธิบาย พ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสสำหรับทั้งหมด พ่อกลายเป็นครูของลูกทั้งหมดและให้ศรีมัทแก่ลูกและแล้วพ่อก็เป็นสัทกูรูของทุกคนด้วย ท่านไม่ได้มีพ่อ ครูหรือกูรู พ่อคือผู้ที่สอนราชาโยคะโบราณของบารัต ไม่ใช่กฤษณะ กฤษณะไม่สามารถเรียกว่าเป็นพ่อ เขานั้นกล่าวได้ว่าเป็นเจ้าชายของสวรรค์ผู้ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์และเป็นผู้ประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส เวลานี้ ทุกดวงวิญญาณไม่มีความสุข ไม่บริสุทธิ์และคดโกง บารัตเองนั้นศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งในยุคทอง เมื่อบารัตนั้นได้กลายเป็นอาณาจักรที่เป็นเช่นปีศาจที่คดโกง ทุกคนก็พูดว่า: โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! มาและก่อตั้งอาณาจักรของรามเถิด ดังนั้น เวลานี้คืออาณาจักรของราวัน ผู้คนเผาราวัน แต่ไม่มีนักปราชญ์ ครูหรือบัณฑิตใดรู้ว่าราวันคืออะไร ยุคทองและยุคเงินคืออาณาจักรของราม ยุคทองแดงและยุคเหล็กคืออาณาจักรของราวัน กลางวันของบราห์มาคือกลางวันของบราห์มากุมารและกุมารี กลางคืนของบราห์มาคือกลางคืนของบราห์มากุมารและกุมารี เวลานี้กลางคืนกำลังจะจบสิ้นและกลางวันกำลังจะมาถึง ได้มีการจดจำว่า: มีผู้ที่มีสติปัญญาที่ไม่มีความรักในเวลาของการทำลายล้าง มี 3 กองทัพด้วยเช่นกัน พ่อสูงสุดนั้นเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้าผู้เป็นที่รักที่สุด ผู้เป็นพ่อ มหาสมุทรแห่งความรู้ ดังนั้นแน่นอนที่ท่านต้องให้ความรู้แก่ลูก ท่านคือเมล็ดที่มีชีวิตของโลก ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด นั่นคือ ท่านคือพระเจ้า ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ใช่ว่าท่านนั้นอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน การพูดว่าท่านนั้นอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันคือการประณามพ่อ พ่อพูดว่า: ด้วยการที่พ่อถูกประณาม จึงได้มีการประณามศาสนาและบารัตได้อยู่อย่างยากจนข้นแค้นและคดโกง พ่อต้องมาในเวลาเช่นนั้น บารัตเองนั้นคือสถานที่เกิดของพ่อ วัดโสมนารถและวัดของชีวานั้นอยู่ที่นี่ พ่อทำให้สถานที่เกิดของพ่อกลายเป็นสวรรค์ และแล้วราวันก็ทำให้กลายเป็นนรก นั่นคือด้วยการทำตามการกำหนดของราวัน ผู้คนได้กลายเป็นชาวนรก ชุมนุมที่เป็นเช่นปีศาจ และแล้วพ่อก็เปลี่ยนพวกเขาและทำให้พวกเขานั้นสูงส่งและกลายเป็นของชุมนุมที่สูงส่ง นี่คือมหาสมุทรแห่งยาพิษและนั่นเป็นมหาสมุทรแห่งน้ำนม แม่น้ำของเนยไหลรินที่นั่น ในยุคทองและยุคเงิน บารัตมีความสุขและมีอำนาจ และมีพระราชวังของเพชรพลอย เวลานี้บารัตนั้นไร้อำนาจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ พ่อผู้เดียวเท่านั้นที่มาและทำให้บารัตนั้นมีอำนาจและสูงส่งหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลานี้ผู้คนได้อยู่อย่างคดโกงอย่างยิ่งที่พวกเขาได้หลงลืมศาสนาที่สูงส่งของตน พ่อนั่งที่นี่และอธิบาย: หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาคือหางนมและหนทางของความรู้คือเนย พวกเขาแสดงเนยในปากของกฤษณะ นั่นหมายความว่าเขาได้เคยมีอาณาจักรของโลก ลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายของโลก พ่อเองนั้นมาและให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูก นั่นคือท่านทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก พ่อพูดว่า: พ่อไม่ได้กลายเป็นนายของโลก หากพ่อกลายเป็นนายของโลกและแล้วพ่อก็จะพ่ายแพ้มายาด้วยเช่นกัน ลูกคือผู้ที่พ่ายแพ้มายา ดังนั้นลูกต้องได้มาซึ่งชัยชนะ ลูกนั้นติดกับในกิเลสทั้งห้า เวลานี้พ่อกำลังทำให้ลูกมีค่าควรแก่การอยู่ในวัด ยุคทองนั้นเป็นวัดที่ใหญ่โตและนั่นเรียกว่าชีวาลายาซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยชีวา ยุคเหล็กนั้นเรียกว่าโรงค้าประเวณี ทั้งหมดนั้นมีกิเลส เวลานี้พ่อพูดว่า: ละทิ้งศาสนาของร่างกาย คิดว่าตนเป็นดวงวิญญาณและจดจำฉัน พ่อของลูก เวลานี้ลูกๆ มีความรักต่อพ่อ ลูกไม่ได้จดจำใครอื่น ลูกคือผู้ที่มีสติปัญญาที่มีความรักในเวลาของการทำลายล้าง ลูกรู้ว่าเพียงพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด เท่านั้นที่เรียกว่าศรีศรี 108 พวกเขาหมุนลูกปัดของประคำของ 108 เบื้องบนนั้นคือชีพบาบา และแล้วก็แม่และพ่อ บราห์มาและสรัสวตี และแล้วก็ลูกๆ ของพวกเขาผู้ที่ทำให้บารัตบริสุทธิ์ ลูกประคำของรูดรัค (Rudraksh)นั้นได้เป็นที่จดจำด้วยเช่นกัน นี่เรียกว่าไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้า นี่เป็นไฟบูชายัญของความรู้ที่ไม่สูญสลายที่ใหญ่โตอย่างยิ่งซึ่งมีการสังเวยม้าเพื่อได้รับอำนาจในการปกครองตนเอง สิ่งนั้นคงอยู่มาเป็นเวลาหลายต่อหลายปีอย่างยิ่ง ศาสนานับไม่ถ้วนทั้งหมดกำลังจะถูกสังเวยลงไปในไฟบูชายัญนี้เพราะเพียงเท่านั้นเองที่ไฟบูชายัญนี้จะจบลง นี่คือไฟบูชายัญที่ไม่สูญสลายของบาบาที่ไม่สูญสลาย วัตถุทั้งหมดกำลังถูกสังเวยลงไปในใฟนี้ ลูกๆ ถาม: เมื่อใดที่การทำลายล้างจะเกิดขึ้น? โอ แต่ผู้ที่ก่อตั้งบางสิ่ง และแล้วต้องหล่อเลี้ยงสิ่งนั้น นี่คือพาหนะของชีพบาบา ชีพบาบาคือสารถีในพาหนะนี้ แต่ไม่ได้มีพาหนะที่เป็นม้าใดๆ ฯลฯ ที่นี่ พวกเขาเพียงแต่นั่งลงและแต่งเครื่องประกอบของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา บาบาพูดว่า: พ่อรับการค้ำจุนของวัตถุนี้ พ่ออธิบาย: เริ่มแรกเป็นความเลื่อมใสศรัทธาที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน และแล้วในเวลาสิ้นสุดของยุคเหล็กได้มีสิ่งเจือปนอย่างแท้จริง และแล้วพ่อก็มาและให้เนยแก่บารัต ลูกกำลังศึกษาเพื่อกลายเป็นนายของโลก พ่อมาและป้อนเนยแก่ลูก หางนมเริ่มต้นในอาณาจักรราวัน ประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดต้องเป็นที่เข้าใจ เวลานี้ลูกๆ ไม่สามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ เพียงพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้น ที่เรียกได้ว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ พ่อพูดว่า: ไม่มีใครในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธานี้สามารถพบพ่อได้ เพียงเมื่อพ่อมาเท่านั้นที่พ่อให้ผลของความเลื่อมใสศรัทธาของผู้เลื่อมใสศรัทธาแก่พวกเขา พ่อกลายเป็นผู้ปลดปล่อย และขจัดความทุกข์ของพวกเขาและพาพวกเขาไปสู่ดินแดนของความสงบและดินแดนแห่งความสุข ศรัทธาในสติปัญญานำไปสู่ชัยชนะและความสงสัยในสติปัญญานำไปสู่การทำลายล้าง พ่อคือเปลวไฟ แมลงเม่าบางตัวนั้นก็สังเวยตนเองอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ผู้อื่นนั้นเพียงแต่บินวนรอบๆ แล้วก็จากไป พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด ลูกๆ ผู้ที่อุทิศตนเองรู้ว่าอย่างแท้จริงที่พวกเขาได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ผู้ที่เพียงแต่บินวนรอบๆ และจากไป และแล้วก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชาตามลำดับกันไป ผู้ที่สังเวยตนเองประกาศสิทธิ์ในมรดกของพวกเขา ตามลำดับกันไป ตามความเพียรพยายามที่พวกเขาทำ ผลรางวัลที่ลูกได้รับนั้นเป็นไปตามความเพียรพยายามที่ทำ เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้ และแล้วความรู้นี้ก็หายไป และแล้วลูกจะได้รับการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส ไม่มีกูรู ฯลฯ ในยุคทองและยุคเงิน เวลานี้ทุกคนจดจำพ่อนั้น เพราะท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคน เสียงร้องของความทุกข์ระทมจบสิ้นและเป็นความยินดีของชัยชนะ ลูกรู้ถึงตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลก เวลานี้ลูกกลายเป็นตรีกาลดาร์ชิ และตรีเนตร เวลานี้ ลูกกำลังได้รับความรู้ทั้งหมดของผู้สร้างและตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง นี่ไม่ใช่เรื่องเล่า กีตะพูดโดยพระเจ้า แต่พวกเขาทำให้ผิดผลาดไปด้วยการใส่ชื่อของกฤษณะ เวลานี้ลูกๆ ต้องให้ประโยชน์แก่ทุกคน ลูกคือกองทัพชีพชัคตี ได้มีการจดจำว่า ขอคารวะต่อผู้เป็นแม่! ผู้คนให้การคารวะแก่ผู้ที่บริสุทธิ์ เมื่อกุมารีบริสุทธิ์ ทุกคนก็ก้มลงให้กับเธอ ทันทีที่เธอเข้าไปสู่บ้านของฝ่ายสามีของเธอและอยู่อย่างไม่บริสุทธิ์ เธอเฝ้าแต่ก้มลงให้กับทุกคน ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ บารัตเคยมีศาสนาของการครองเรือนที่บริสุทธิ์ เวลานี้เป็นศาสนาของการครองเรือนที่ไม่บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดนอกจากความทุกข์ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นในยุคทอง พ่อได้นำสวรรค์มาในอุ้งมือของท่านเพื่อลูกๆ ขณะที่อยู่ที่บ้าน ลูกสามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกของการหลุดพ้นในชีวิตของลูกจากพ่อ ไม่มีเรื่องของการจากบ้านและครอบครัวของลูก หนทางสันโดษของซันยาสซีนั้นแยกออกไป เวลานี้ลูกสัญญากับพ่อ: บาบา แน่นอนที่ฉันจะกลับมาบริสุทธิ์และกลายเป็นนายของโลกที่บริสุทธิ์และแล้ว“ไม่ว่าอะไรก็ตามเกิดขึ้นฉันไม่มีวันทิ้งศาสนาของฉัน” ให้ทานกิเลสทั้งห้าเพื่อที่ลูกนั้นจะได้รับการปลดปล่อยจากเงามืดของมายา และแล้วลูกจะกลับมาเต็ม 16 องศา ในยุคทอง พวกเขานั้นเต็ม 16 องศา ปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ เวลานี้ลูกต้องทำตามศรีมัทและกลับมาเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง พระเจ้าคือพระผู้เป็นเจ้าของคนจน ผู้ที่มั่งคั่งไม่สามารถรับความรู้นี้เพราะพวกเขาคิดว่าเวลานี้พวกเขากำลังนั่งในสวรรค์เพราะพวกเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย ฯลฯ เหตุนี้เอง เพียงผู้ที่ไร้เดียงสา อ่อนแอและผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหินเท่านั้นที่รับความรู้นี้ บารัตนั้นยากจน ในบรรดาพวกเขาด้วย พ่อทำให้ผู้ที่ธรรมดาและยากจนเท่านั้นเป็นของท่าน ได้อยู่ในโชคของพวกเขาเท่านั้น ตัวอย่างของสุดามาเป็นที่จดจำ ผู้ที่มั่งคั่งไม่มีเวลาที่จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลูกสาวบางคนเคยไปหาราเจนดราปราสาด(อดีตประธานาธิบดีของอินเดีย) พวกเธอบอกกับเขาว่า: มารู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดแล้วท่านจะกลับมามีค่าเช่นเพชร เรียนหลักสูตร 7 วันนี้ เขาเคยพูดว่า: ใช่ อะไรก็ตามที่ท่านพูดนั้นดีมาก ฉันจะเรียนหลักสูตรหลังจากที่ฉันปลดเกษียณ เมื่อเขาปลดเกษียณ เขาก็พูดว่า: เวลานี้ฉันป่วย บุคคลสำคัญไม่มีเวลา เพียงเมื่อพวกเขาจบหลักสูตร 7 วันก่อนเท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถมีความซาบซึ้งของการกลายเป็นนารายณ์ พวกเขาจะไม่สามารถได้รับการแต่งแต้มสีสันได้เองเพียงเช่นนั้น เป็นเพียงหลังจาก7วันเท่านั้นที่ลูกสามารถบอกได้ว่าใครบางคนนั้นมีค่าหรือไม่ หากเขามีค่า เขาก็จะอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการทำความเพียรพยายามเพื่อศึกษาเล่าเรียน หากใครบางคนไม่ได้รับการแต่งแต้มสีสันอย่างสมบูรณ์อย่างยิ่งในเตาอบ(บัตตี)ทันทีที่พวกเขาออกไปข้างนอกสีนั้นก็จะจางลง และเหตุนี้เองก่อนอื่นลูกต้องแต่งแต้มสีสันให้กับพวกเขาอย่างมั่นคงอย่างยิ่ง อัจชะ

ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. กลายเป็นชีพชัคตีและให้คุณประโยชน์ต่อโลก บนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ จงเปลี่ยนมนุษย์ผู้ที่มีค่าเช่นเปลือกหอยและทำให้พวกเขามีค่าเช่นเพชร

2. ทำตามศรีมัท ให้ทานกิเลสและกลับมาปราศจากกิเลสอย่างเต็มที่ และ 16 องศาเต็มอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นแมลงเม่าที่สังเวยตนเองให้กับเปลวไฟ

พร:
ขอให้ลูกอยู่อย่างโยกยุกต์และอยู่เหนือสำนึกของร่างกายโดยการพิจารณาว่าตนเองเป็นสารถีร่วมอยู่เสมอและเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง

วิธีที่ง่ายที่จะอยู่อย่างโยกยุกต์เสมอคือการเคลื่อนไหวไปรอบๆในขณะที่พิจารณาตนเองว่าเป็นสารถีร่วมและผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง “ฉันดวงวิญญาณ เป็นสารถีร่วมที่ทำให้พาหนะนี้เคลื่อนไหว” สำนึกรู้นี้ทำให้ลูกละวางจากพาหนะโดยอัตโนมัติ นั่นคือร่างกายและสำนึกรู้ของร่างกายประเภทใดๆ เมื่อไม่มีสำนึกรู้ของร่างกายใดๆ ลูกก็จะกลับมาโยกยุกต์อย่างง่ายดายและทุกการกระทำคือยุกตียุกต์ จากการพิจารณาตนเองว่าเป็นสารถีร่วมแล้วประสาทสัมผัสทั้งหมดของลูกจะอยู่ภายใต้การควบคุมของลูก ดวงวิญญาณเช่นนั้นไม่สามารถได้รับอิทธิพลจากประสาทสัมผัสทางร่างกายใดๆได้

คติพจน์:
เพื่อที่จะกลายเป็นดวงวิญญาณที่มีชัยชนะ จงให้ความใส่ใจและฝึกฝนสันสการ์ที่เป็นธรรมชาติของลูก


คำพูดที่สูงส่งแสนหวานจากมาเตชวารี

ไม่มีคุณประโยชน์ใดในเพียง การพร่ำมนตรา ของ “โอม”

การพร่ำ”โอม”หมายถึงการร้องสิ่งนี้เป็นเพลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเราพูดคำว่า “โอม” ไม่ได้หมายความว่าเราต้องออกเสียงพูดคำนี้ ไม่มีคุณประโยชน์ใดในชีวิตโดยการเพียงพูด”โอม” อย่างไรก็ตาม โดยการอยู่อย่างมั่นคงในความหมายของ ”โอม” และโดยการรู้ถึงความหมายของคำว่า “โอม”นั้น มนุษย์สามารถมีความสงบในชีวิตของพวกเขาได้ ผู้คนต้องการมีความสงบอย่างแน่นอนและพวกเขามีการประชุมมากมายเพื่อก่อตั้งความสงบนั้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่เห็นคือมีความไม่สงบ และสาเหตุของความทุกข์มากขึ้น เหตุผลหลักคือไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะมีความสงบบนโลกจนกระทั่งมนุษย์ได้ทำลายกิเลสทั้งห้าไปแล้ว ดังนั้นอันดับแรกมนุษย์ทุกคนต้องควบคุมกิเลสทั้งห้าของพวกเขาและเชื่อมสายใยของดวงวิญญาณของพวกเขากับดวงวิญญาณสูงสุด เพียงเมื่อนั้นจึงจะสามารถมีความสงบได้ ดังนั้นขอให้แต่ละคนถามตนเอง: ฉันได้ทำลายกิเลสทั้งห้าในฉันแล้วหรือยัง? ฉันได้ทำความเพียรพยายามที่จะเอาชนะกิเลสเหล่านั้นแล้วหรือยัง? ถ้าพวกเขาถามว่า “ฉันจะสามารถควบคุมกิเลสทั้งห้าในฉันได้อย่างไร? จงแสดงวิธีนี้ให้แก่พวกเขา ก่อนอื่นใดจงให้ควันธูป(dhoop) ของความรู้และโยคะ และแล้วพร้อมกันกับสิ่งนั้น จงบอกพวกเขาซึ่งคำพูดที่สูงส่งของดวงวิญญาณสูงสุดว่า: เชื่อมโยคะของสติปัญญาของลูกกับพ่อ รับพลังจากพ่อ และโดยการจดจำระลึกถึงพ่อ พระเจ้าผู้ทรงอำนาจ กิเลสต่างๆจะเฝ้าจะถูกขจัดออกไป เวลานี้เราต้องทำความเพียรพยายามทางจิตมากเท่านี้ เพื่อที่ว่าพระเจ้าตัวท่านเองมาและสอนพวกเรา อัจชะ