10.11.2018       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกธนูของความจริงที่ลูกพูดจะยิงถูกเป้าเมื่อมีความสะอาดและซื่อสัตย์ในหัวใจของลูกเท่านั้น ลูกได้รับความเป็นเพื่อนจากพ่อที่แท้จริงแล้ว ดังนั้นจงซื่อสัตย์และมีสัจจะ

คำถาม:
ลูกคือนักเรียน ดังนั้นลูกจึงจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังเรื่องใด

คำตอบ:
เมื่อใดก็ตามที่ลูกทำความผิด ลูกต้องบอกความจริง ด้วยการพูดความจริงเท่านั้น ลูกจึงจะมีความก้าวหน้า ลูกต้องไม่รับการรับใช้ส่วนตัวจากผู้อื่น หากลูกรับการรับใช้ที่นี่ ลูกจะต้องรับใช้ที่นั่น ลูกๆนักเรียนต้องศึกษาอย่างดีและสอนผู้อื่น เพราะเพียงเท่านั้นที่พ่อจะพึงพอใจ พ่อคือมหาสมุทรแห่งความรักและความรักของท่านคือ ท่านให้การศึกษาและสถานภาพที่สูงแก่ลูกๆ

เพลง:
ใครสร้างการแสดงนี้และหลบไปซ่อนตัว

โอมชานติ
ทุกวันนี้ เราได้รับข่าวว่าผู้คนกำลังฉลองกีตะชยันติ หัวข้อคือ ใครให้กำเนิดกีตะ เมื่อถูกเรียกว่า ชยันติ แน่นอนว่าจะต้องหมายถึงการเกิด ในเมื่อมีการพูด “ศรีมัท ภัควัทกีตะ ชยันติ” แน่นอนว่าต้องมีผู้ให้กำเนิดสิ่งนั้น ทุกคนพูดว่า พระเจ้าศรีกฤษณะพูด ในกรณีนั้น ศรีกฤษณะมาก่อนแล้วกีตะจึงตามมา ผู้สร้างกีตะนั้นมีความจำเป็นอย่างแน่นอน หากศรีกฤษณะถูกเรียกเช่นนั้นแล้ว ศรีกฤษณะก็ควรมาก่อนแล้วจึงเป็นกีตะ อย่างไรก็ตาม ศรีกฤษณะเป็นเด็กเล็กๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจพูดกีตะได้ ลูกต้องพิสูจน์ว่า ใครคือผู้ให้กำเนิดกีตะ นี่คือเรื่องที่ลึกล้ำ กฤษณะกำเนิดจากครรภ์มารดา เขาเป็นเจ้าชายในยุคทอง เขาได้รับสถานภาพเจ้าชายจากการศึกษาราชาโยคะผ่านกีตะ แล้วใครคือผู้ให้กำเนิดกีตะ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา หรือศรีกฤษณะเล่า จริงๆแล้ว แม้แต่ตรีโลกนาถหรือตรีกาลดาร์ชิ ศรีกฤษณะก็ไม่อาจถูกเรียกเช่นนั้นได้ ผู้เดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกได้ว่าเป็นตรีโลกนาถและตรีกาลดาร์ชิ ตรีโลกนาถหมายถึงผู้ที่ปกครองสามโลก โลกที่ไร้ตัวตน อาณาเขตละเอียดอ่อนและโลกที่มีตัวตนเรียกว่าตรีโลก และผู้ที่รู้จักสามโลกนี้คือ ตรีโลกนาถ ตรีกาลดาร์ชิ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา นี่คือคำสรรเสริญของท่าน ไม่ใช่ของศรีกฤษณะ คำสรรเสริญของกฤษณะคือ 16 องศาสมบูรณ์เต็มเปี่ยมด้วยทุกคุณธรรม ท่านถูกเปรียบได้กับพระจันทร์ ลูกจะไม่เปรียบดวงวิญญาณสูงสุดกับพระจันทร์ งานของท่านนั้นแตกต่าง ท่านคือผู้สร้างที่ให้กำเนิดกีตะ เหล่าเทพถูกสร้างขึ้นมาจากความรู้ของกีตะและราชาโยคะ พ่อต้องมาและให้ความรู้เพื่อที่จะเปลี่ยนมนุษย์เป็นเทพ บราห์มากุมารและบราห์มากุมารีที่ฉลาดมากที่ให้คำอธิบายนี้ได้นั้นเป็นที่ต้องการ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะอธิบายได้ด้วยวิธีเดียวกัน ลูกสาวทุกคนก็ยังต่างลำดับกันไปด้วย หัวข้อควรที่จะเป็นว่า ใครให้กำเนิดศรีมัท ภัควัติ กีตะ สำหรับสิ่งนี้ ลูกต้องอธิบายถึงความแตกต่าง พระเจ้าคือหนึ่งเดียวเท่านั้น พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา กฤษณะได้รับสถานภาพนั้นด้วยการฟังความรู้จากมหาสมุทรแห่งความรู้ ลูกต้องอธิบายว่ากฤษณะได้รับสถานภาพนั้นอย่างไรจากการศึกษาราชาโยคะที่ง่ายดาย ก่อนอื่น พ่อสร้างบราห์มินผ่านบราห์มา ท่านพูดสาระของพระเวทย์และของทุกคัมภีร์ พร้อมกับบราห์มาแล้ว สิ่งสร้างที่เกิดจากปากของบราห์มาก็ยังเป็นที่ต้องการด้วย บราห์มาเท่านั้นได้รับความรู้เกี่ยวกับตรีกาลดาร์ชิ ตรีโลกหมายถึงเขายังได้รับความรู้เกี่ยวกับสามโลกอีกด้วย ประเด็นทั้งสามของเวลาคือ ตอนต้น ตอนกลางและตอนจบ และสามโลกคือ โลกที่ไร้ตัวตน อาณาเขตละเอียดอ่อนและโลกที่มีตัวตน ลูกต้องจดจำสิ่งต่างๆเหล่านี้ ลูกจำนวนมากลืมสิ่งเหล่านี้ มายาในรูปของความหยิ่งยโสของร่างกายทำให้ลูกลืม ดังนั้นผู้สร้างกีตะคือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา ไม่ใช่ศรีกฤษณะ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้นที่เป็นตรีกาลดาร์ชิและตรีโลกนาถ กฤษณะ หรือลักษมีและนารายณ์ต่างก็ไม่มีความรู้นี้เลย ใช่ ผู้ที่ได้รับความรู้นี้จากพ่อได้กลายเป็นนายของโลก เมื่อลูกได้รับการหลุดพ้นในชีวิต ความรู้นี้จะหายไปจากสติปัญญาของลูก ผู้ประทานการหลุดพ้นในชีวิตสำหรับทุกคนคือ ผู้เดียวนั้น ท่านไม่ใช่ผู้ที่ใช้ชาติเกิด การใช้ชาติเกิดเริ่มตั้งแต่ต้นยุคทอง นับจากนั้นจนถึงปลายยุคเหล็ก ลูกใช้ 84 ชาติเกิด ต้องมีการอธิบายสิ่งนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนใช้ 84 ชาติเกิด ผู้ที่เขียนกีตะนั้นไม่ใช่ตรีกาลดาร์ชิ ก่อนอื่น เป็นเรื่องที่ผิดอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขียนไว้ว่า “พระเจ้าศรีกฤษณะพูด” แน่นอนว่าสิ่งนี้ต้องผิด เมื่อคัมภีร์ทั้งหลายผิดพลาดเท่านั้น พ่อจึงมาและพูดสิ่งที่ถูกต้องได้ แท้จริงแล้ว ท่านพูดสาระของพระเวทย์และคัมภีร์ผ่านบราห์มาและด้วยเหตุนี้ ท่านจึงถูกเรียกว่าสัจจะ เวลานี้ลูกเป็นเพื่อนกับสัจจะผู้ที่ทำให้ลูกเป็นผู้ที่มีสัจจะ มีประชาบิดาบราห์มาและสิ่งสร้างที่เกิดจากปากของเขาคือ จากัดอัมบา สรัสวตี ลูกทุกคนของประชาบิดาบราห์มาเป็นพี่น้องชายหญิงกัน ลูกควรจะไปวัดตามที่ต่างๆ และให้การบรรยาย ผู้คนจำนวนมากไปเที่ยวชมที่นั่น เมื่อลูกอธิบายให้แก่คนหนึ่งฟัง ทั้งการชุมนุมทางจิตก็จะมารวมตัวกันที่นั่น ลูกควรไปที่ลานเผาศพด้วย ผู้คนมีการวางเฉยที่นั่น อย่างไรก็ตาม บาบาพูดว่า เมื่อลูกอธิบายให้แก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาของพ่อ พวกเขาจะเข้าใจอย่างรวดเร็ว ดังนั้นลูกจึงต้องไปที่วัดของชีพบาบาและลักษมีและนารายณ์ ลักษมีและนารายณ์ไม่ได้ถูกเรียกว่ามาม่าและ บาบา ชีวาถูกเรียกว่าบาบา และแน่นอนว่ายังต้องมีมาม่าด้วย เธอแฝงตัว ไม่มีใครล่วงรู้ความลับที่แฝงตัวว่าชีพบาบา ผู้สร้าง ถูกเรียกว่าแม่และพ่อได้อย่างไร ลักษมีและนารายณ์จะมีบุตรชายคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชื่อของผู้นี้คือประชาบิดาบราห์มา วิษณุและชางก้าไม่ได้ถูกวางไว้ในตำแหน่งที่สูง ตรีมูรติบราห์มาได้รับการพิจารณาว่าสูงกว่า เหมือนที่พระเจ้าชีวาถูกเรียกว่าผู้สร้าง ดังนั้นบราห์มาก็ยังถูกเรียกว่าผู้สร้างด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไร ผู้นั้นก็ไม่สูญสลาย หากลูกใช้คำว่า “ผู้สร้าง” พวกเขาจะถามว่า ท่านสร้างอย่างไร ถึงอย่างไร ท่านก็เป็นผู้สร้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งสร้างเกิดขึ้นผ่านบราห์มา เวลานี้พระเจ้ากำลังให้ความรู้เกี่ยวกับตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบของโลกแก่ทุกดวงวิญญาณโดยผ่านบราห์มา พระเวทย์และคัมภีร์ ฯลฯ ทั้งหมดนั้นเป็นเครื่องประกอบของหนทางแห่งความเลื่อมใสศรัทธา หนทางแห่งความเลื่อมใสศรัทธาดำเนินมาถึงครึ่งวงจร นี่คือกิจกรรมของความรู้ เมื่อหนทางของความรู้สิ้นสุดลงและทุกคนไม่บริสุทธิ์และตโมประธาน จากนั้น ฉัน ผู้เป็นพ่อจึงมา เริ่มแรก ลูกสโตประธานแล้วก็เข้าไปสู่สภาพสโต รโชและตโม ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ที่มาจากเบื้องบนยังไม่ได้แสดงการกระทำที่ทำให้พวกเขาจะต้องประสบกับความทุกข์ พวกเขาพูดถึงพระคริสต์ว่าเขาถูกตรึงบนกางเขนแต่นั่นเป็นไปไม่ได้ ดวงวิญญาณใหม่ที่ลงมาเพื่อก่อตั้งศาสนาจะไม่ได้รับความทุกข์ เพราะดวงวิญญาณนั้นเป็นผู้นำสาสน์ที่อยู่ในสภาพเหนือบ่วงกรรมที่มาเพื่อก่อตั้งศาสนา เมื่อผู้นำสาสน์ถูกส่งมายังสนามรบ เขาจะถือธงสีขาวที่จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าเขามาพร้อมกับสาสน์ พวกเขาจะไม่สร้างความยุ่งยากให้แก่เขาในเวลานั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครตรึงกางเขนผู้นำสาสน์ ดวงวิญญาณคือผู้ที่ประสบกับความทุกข์ ลูกควรจะเขียนว่าดวงวิญญาณไม่มีภูมิคุ้มกันต่อผลของการกระทำ เป็นเรื่องผิดที่พูดว่าดวงวิญญาณมีภูมิคุ้มกันต่อผลของการกระทำ ใครพูดสิ่งนี้ เหล่านี้เป็นคำพูดของพระเจ้าชีวา ลูกควรจดประเด็นนี้ไว้ ลูกจำเป็นต้องมีสติปัญญาที่กว้างมากและไร้ขีดจำกัดเพื่อเขียนสิ่งนี้ เมื่อชาวคริสเตียนมาที่นิทรรศการ ลูกบอกพวกเขาได้ว่าไม่ใช่ดวงวิญญาณของพระคริสต์ที่ถูกตรึงกางเขนแต่นั่นเป็นดวงวิญญาณของร่างกายที่ดวงวิญญาณพระคริสต์เข้าไปนั้นคือผู้ที่ประสบกับความทุกข์ เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งต่างๆ เช่นนั้น พวกเขาก็จะรู้สึกแปลกใจ ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์มาและก่อตั้งศาสนาตามคำสั่งของพระเจ้า ผู้เป็นพ่อ นี่ก็ยังเป็นละครเช่นกัน บางคนเข้าใจละครแต่พวกเขาไม่รู้จักตอนต้น ตอนกลางหรือตอนจบของมัน เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งต่างๆ เช่นนั้น พวกเขาจะพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้บ้าง ไม่มีใครดูหมิ่นกฤษณะได้ จริงๆแล้ว เวลานี้ใครได้รับการดูหมิ่น ไม่ใช่ชีพบาบา แต่เป็นผู้ที่มีตัวตนผู้นี้ บาบา ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์คือครูในขณะที่ผู้นี้ไม่บริสุทธิ์และกำลังจะกลับมาบริสุทธิ์ ผู้ที่เข้าใจอย่างชัดเจนจะพูดโดยไม่มีความลังเล มิเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะเข้าใจว่าลูกเพียงแค่ท่องจำสิ่งนั้น แล้วพวกเขาก็จะไม่ยอมรับสิ่งนั้น ลูกธนูก็จะยิงไม่ถูกเป้า ความซื่อสัตย์และความสะอาดมากมายนั้นเป็นที่ต้องการ หากผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับกิเลสบอกผู้อื่นว่าตัณหาคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ลูกธนูก็จะยิงไม่ถูกเป้า มีตัวอย่างของบัณฑิตที่พูดว่า จงสวดชื่อของรามแล้วเธอจะข้ามแม่น้ำหรือมหาสมุทรได้ สิ่งนี้อ้างถึงเวลานี้ ชีพบาบาพูดว่า ด้วยการจดจำพ่อ ลูกจะข้ามมหาสมุทรยาพิษนี้ บัณฑิตไม่รู้ว่ามหาสมุทรแห่งใด ลูกจะออกจากโรงโสเภณีไปสู่ชีวาลายา ลูกต้องทำตามศรีมัทอย่างดีมาก ลูกพูดว่า บาบา ไม่ว่าท่านจะรักลูกหรือปฏิเสธลูก... คำอธิบายนั้นถูกให้ไว้ที่นี่เท่านั้นและบางคนก็ยังคงเป็นเหมือนซากศพ ลูกๆต้องศึกษาอย่างดี พ่อคือมหาสมุทรแห่งความรัก นั่นคือท่านให้การศึกษาแก่ลูกและทำให้ลูกได้รับสถานภาพที่สูง นี่คือความรักของท่าน ในเมื่อพ่อกำลังสอนลูก ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนและสอนผู้อื่นด้วย ลูกต้องเอาใจพ่อ ลูกต้องยุ่งอยู่ในงานรับใช้ของพ่อ งานรับใช้ของพ่อสำหรับลูกๆนั้นคือ การทำงานรับใช้ที่แท้จริงด้วยร่างกาย จิตใจและทรัพย์ของลูกเพื่อบารัต ลูกต้องอธิบายด้วยเสียงที่ดังและชัดเจน ทุกคนต่างลำดับกันไป ในอาณาจักรพวกเขาก็ยังต่างลำดับกันอีกด้วย ครูเข้าใจว่าลูกจะได้รับอันดับใดในอาณาจักรที่สูงส่ง ท่านเข้าใจได้จากงานรับใช้ของลูกที่จะกลายเป็นคนหลักๆ ลูกเองยังเข้าใจได้ว่า หากลูกไม่ทำงานรับใช้มากเท่ากับมาม่าและบาบา ลูกจะต้องกลายเป็นสาวใช้หรือคนรับใช้ เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ลูกทุกคนจะได้รู้ทุกสิ่ง ทุกสิ่งจะชัดเจนว่าลูกไม่ได้ทำตามศรีมัท เวลานี้ลูกทุกคนเป็นนักเรียน หากลูกทำให้ใครเป็นคนรับใช้ของลูกเวลานี้ ลูกเองก็จะต้องกลายเป็นคนใช้ ที่นี่การกลายเป็นจักรพรรดินีคือ สำนึกที่เป็นร่าง ลูกควรพูดความจริงว่า บาบา ลูกทำความผิดนี้ ยังไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม เมื่อบางคนสอบตก เขาก็จะรู้สึกอับอาย บาบาเคยคิดตอนกลางคืนว่าผู้คนพูดถึง 21 ชาติเกิดและสิ่งนี้ก็ได้รับการจดจำด้วย แต่เวลานี้ หนึ่งชาติเกิดของพระเจ้านั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มี 8 ชาติเกิดในยุคทอง 12 ชาติเกิดในยุคเงิน 21 ชาติเกิดในยุคทองแดงและ 42 ชาติเกิดในยุคเหล็ก ชาติเกิดของพระเจ้าที่ลูกถูกอุปถัมภ์เลี้ยงดูนี้เป็นชาติเกิดที่สูงส่งที่สุด นี่คือชาติเกิดที่มีโชคที่สุดของลูกๆ บราห์มินเท่านั้น อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. จงตอบแทนสำหรับความรักของพ่อ มหาสมุทรแห่งความรัก ศึกษาอย่างดีและสอนผู้อื่น ลูกต้องทำตามศรีมัท

2. ก่อนอื่น จงซึมซับความรู้ด้วยความซื่อสัตย์และด้วยหัวใจที่สะอาด และดลใจผู้อื่นให้ซึมซับความรู้ จงเป็นเพื่อนกับพ่อผู้เดียว

พร:
ขอให้ลูกเป็นภาพลักษณ์ของประสบการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งโดยการอยู่เหนือสิ่งที่มีขีดจำกัดทั้งหลาย

เช่นที่ “บาบาของฉัน” ปรากฏออกมาจากจิตใจของแต่ละคน ดังนั้นขอให้ “ผู้นี้เป็นของฉัน” ปรากฏออกมาจากจิตใจของแต่ละคนสำหรับบราเธอร์หรือซิสเตอร์ ดีดี้หรือดาดี้ที่ไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ใด ลูกคือเครื่องมือสำหรับงานรับใช้ที่ไร้ขีดจำกัด การอยู่เหนือสิ่งที่มีขีดจำกัดทั้งหลายและการมีความรู้สึกที่ไร้ขีดจำกัดและมีความปรารถนาดีที่ไร้ขีดจำกัดคือ การทำตามพ่อ เวลานี้จงมีประสบการณ์กับสิ่งนี้ในทางปฏิบัติและทำให้ผู้อื่นมีประสบการณ์เช่นเดียวกันด้วย อย่างไรก็ดี ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์นั้นถูกเรียกว่า “ปิตาจี” (พ่อ) หรือ “กากาจี” (ลุง) จงเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในลักษณะนี้ ในแบบที่ไร้ขีดจำกัด นั่นคือ ขอให้ทุกคนมีประสบการณ์ของการเป็นส่วนหนึ่ง

คติพจน์:
จงโบยบินอยู่ในสภาพของการอยู่เหนืออย่างต่อเนื่อง แล้วลูกจะไม่ติดกับอยู่ในบ่วงพันธะของกิ่งก้าน


คำพูดที่สูงส่งของมาเตชวารี

มนุษย์ใช้ 84 ชาติเกิด พวกเขาจะไม่เข้ามาสู่ 8.4 ล้านสายพันธุ์

เมื่อเราขอให้พระเจ้าพาเราข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง “อีกฝั่งหนึ่ง” หมายความว่าอย่างไร ผู้คนคิดว่าการข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งนั้นหมายถึงการไม่เข้ามาสู่วงจรของการเกิดและการตาย นั่นคือ การได้รับการหลุดพ้น นี่คือสิ่งที่ผู้คนพูดกัน แต่ผู้เดียวพูดว่า ลูกๆ สถานที่ที่มีความสุขและความสงบอย่างแท้จริงซึ่งอยู่ห่างไกลจากความทุกข์และความวุ่นวายนั้นไม่ใช่โลก เมื่อผู้คนต้องการความสุขสิ่งนั้นจะต้องเกิดขึ้นในชีวิตนี้ นั่นเคยเป็นสวรรค์แห่งยุคทอง โลกของเหล่าเทพ สถานที่ที่เคยมีชีวิตของความสุขอย่างสมบูรณ์ เทพเหล่านั้นเคยถูกพูดถึงว่าเป็นอมตะ ไม่มีความหมายของการเป็นอมตะ ไม่ใช่ว่าอายุขัยของเหล่าเทพนั้นจะยืนยาวจนกระทั่งพวกเขาไม่มีวันตาย การพูดถึงพวกเขาเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ผิด เพราะไม่ได้เป็นเช่นนั้น อายุขัยของพวกเขาไม่ได้กินเวลาตั้งแต่ยุคทองเรื่อยไปจนถึงยุคเงิน อย่างไรก็ตาม เหล่าเทพมีจำนวนชาติเกิดมากมายในยุคทองและยุคเงิน พวกเขาปกครองอาณาจักรเป็นอย่างดีถึง 21 ชาติเกิด จากนั้นพวกเขาใช้ 63 ชาติเกิดจากยุคทองแดงจนถึงปลายยุคเหล็ก รวมแล้วพวกเขาใช้ 21 ชาติเกิดในสภาพของความรุ่งเรือง และ 63 ชาติเกิดในสภาพของความตกต่ำ รวมทั้งหมดแล้วมนุษย์ใช้ 84 ชาติเกิด อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้คนคิดว่ามนุษย์เข้าไปสู่ 8.4 ล้านสายพันธุ์ นั่นเป็นเรื่องที่ผิด หากมนุษย์ผ่านบทบาทของความสุขและความทุกข์ในชาติเกิดที่เป็นมนุษย์เพียงอย่างเดียวไปได้ แล้วมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปผ่านความทุกข์ทรมานในอาณาจักรของสัตว์ด้วยเล่า อย่างไรก็ตาม ผู้คนไม่มีความรู้นี้ มนุษย์ใช้ 84 ชาติเกิด แต่โดยรวม แน่นอนว่ามีสัตว์ต่างๆ มีนก ฯลฯ อยู่บนโลก 8.4 ล้านสายพันธุ์อย่างแน่นอน มีสิ่งสร้างทุกประเภท และในสิ่งสร้างเหล่านั้น มนุษย์ก็มีประสบการณ์กับบาปและบุญของตนในสายพันธุ์มนุษย์ และสัตว์ประสบกับทุกสิ่งในอาณาจักรสัตว์ของพวกมัน มนุษย์ไม่ได้เกิดเป็นสัตว์และสัตว์ก็ไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์ต้องผ่านความทุกข์ทรมานในสายพันธุ์ของตนเอง ดังนั้นจึงมีความรู้สึกสุขและทุกข์ ในทำนองเดียวกัน สัตว์ก็ต้องผ่านประสบการณ์ของความสุขและความทุกข์ในอาณาจักรของพวกมัน อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่มีสติปัญญาที่จะเข้าใจว่าพวกมันกำลังทุกข์ทรมานกับการกระทำใด มนุษย์รู้สึกถึงความทุกข์ทรมาน เพราะพวกเขามีสติปัญญา แต่ไม่ใช่ว่ามนุษย์เข้าไปสู่ 8.4 ล้านสายพันธุ์ ต้นไม้ที่ไร้ชีวิตก็ยังเป็นของสายพันธุ์ของมันเองด้วย นี่เป็นเรื่องที่ง่ายดายและเป็นเรื่องที่จะเข้าใจด้วยสติปัญญา ต้นไม้ที่ไร้ชีวิตแสดงการกระทำหรือการกระทำที่เป็นกลางอันใดจนสร้างบัญชีกรรมขึ้นมาเล่า ตัวอย่างเช่น กูรูนานักได้กล่าวถ้อยคำอันสูงส่งไว้ว่า ผู้ที่จดจำลูกชายของตนในวาระสุดท้าย ผู้ที่ตายด้วยความกังวลเช่นนั้นจะเกิดเป็นหมูป่า อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์จะเข้าไปสู่สายพันธุ์หมูป่า แต่หมายความว่าการกระทำของพวกเขาจะเป็นเหมือนกับการกระทำของสัตว์เหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ามนุษย์จะกลายเป็นสัตว์ คำสอนเหล่านี้ให้ไว้เพื่อทำให้คนเกรงกลัว ดังนั้นลูกจึงต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตในยุคบรรจบพบกันนี้ และมาเป็นดวงวิญญาณบุญจากที่เป็นดวงวิญญาณบาป อัจชะ