02.11.2018 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน จะมีอุปสรรคอย่างแน่นอนในงานรับใช้ของการเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นเทพ
ลูกต้องอดทนต่อความยากลำบากทั้งหมด และคงอยู่อย่างข้องแวะในงานรับใช้นี้
ลูกต้องมีเมตตา
คำถาม:
อะไรคือสิ่งบ่งชี้ของผู้ที่สำนึกรู้ในชาติเกิดสุดท้ายของเขา?
คำตอบ:
สติปัญญาของเขาสำนึกว่าพวกเขาจะไม่ใช้อีกชาติเกิดหนึ่งในโลกนี้และพวกเขาต้องไม่ให้กำเนิดแก่ผู้อื่น
นี่คือโลกของดวงวิญญาณบาปและเราไม่ต้องการให้โลกนี้เพิ่มขึ้นอีกต่อไป
โลกนี้ต้องถูกทำลาย เราจะละเสื้อผ้าเก่านี้และกลับบ้านของเรา ในเวลานี้
การละเล่นกำลังมาถึงจุดจบ
เพลง:
ดอกตูมของยุคใหม่ ...
โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกว่า ลูกต้องจุดแสงของแต่ละคน
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูก
พ่อมีความคิดที่ไม่มีขีดจำกัดเช่นกันที่จะชี้หนทางไปสู่การหลุดพ้นแก่มนุษย์ทั้งหมด
พ่อมาเพื่อรับใช้ลูกและเพื่อปลดปล่อยลูกจากความทุกข์
ผู้คนไม่เข้าใจว่านี่คือดินแดนของความทุกข์ แต่ต้องมีสถานที่ของความสุขด้วยเช่นกัน
พวกเขาไม่รู้สิ่งนี้ ในคัมภีร์
พวกเขาได้ทำให้สถานที่ของความสุขกลายเป็นสถานที่ของความทุกข์ พ่อนั้นมีเมตตา
ผู้คนไม่รู้แม้กระทั่งว่า พวกเขาไม่มีความสุข เพราะพวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับความสุข
และผู้ที่ให้ความสุข สิ่งนี้คือชะตากรรมของละครเช่นกัน
พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าความสุข และอะไรเรียกว่าความทุกข์
พวกเขาพูดถึงพระเจ้าว่า ท่านคือผู้ที่ให้ความสุขและความทุกข์ สิ่งนั้นหมายถึง
การประณามท่าน พวกเขาไม่รู้จักพระเจ้าผู้ที่พวกเขาเรียกว่าพ่อ พ่อพูดว่า:
พ่อให้ความสุขเท่านั้นแก่ลูก ลูกรู้ว่า
ในเวลานี้บาบามาเพื่อชำระผู้ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ ท่านพูดว่า:
พ่อจะพาทุกคนกลับไปบ้านที่แสนหวาน บ้านที่แสนหวานนั้นบริสุทธิ์เช่นกัน
ไม่มีดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์อาศัยอยู่ที่นั่น ไม่มีใครรู้จักสถานที่นั้น
พวกเขาพูดว่า: ผู้นั้นผู้นี้ขึ้นไปอยู่เหนือสู่ดินแดนนิพพาน แต่พวกเขาไม่เข้าใจ
หากพระพุทธเจ้าไปสู่ดินแดนนิพพาน อย่างแน่นอนเขาต้องเคยเป็นผู้อาศัยของสถานที่นั้น
และดังนั้น เขาจึงกลับไปที่นั่น อัจชะ เขาไปที่นั่น
แต่ผู้อื่นจะไปที่นั่นได้อย่างไร? เขาไม่ได้พาผู้ใดไปกับเขา ในความเป็นจริง
เขาไม่ได้ไปที่นั่น และเหตุนี้เอง ทุกคนจึงจดจำพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์
มีโลกที่บริสุทธิ์ 2 โลก: หนึ่งคือดินแดนแห่งการหลุดพ้น
และอีกหนึ่งคือดินแดนแห่งการหลุดพ้นในชีวิต มีดินแดนของชีวาและดินแดนของวิษณุ
และนี่คือดินแดนของราวัน พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดเรียกว่ารามด้วยเช่นกัน “เมื่ออาณาจักรของราม”
ถูกกล่าวถึง สติปัญญาของลูกก็ไปหาพระเจ้า ไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับว่ามนุษย์เป็นพระเจ้า
ดังนั้น ลูกต้องมีเมตตาต่อพวกเขา ลูกต้องอดทนต่อความยากลำบาก บาบาพูดว่า:
ลูกที่แสนหวานจะมีอุปสรรคมากมายในไฟบูชายัญของความรู้เพื่อเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นเทพนี้
พระเจ้าของกีตะต้องรับการดูถูกดูหมิ่นด้วยเช่นกัน
ผู้นี้และลูกถูกดูถูกดูหมิ่นเช่นกัน พวกเขาพูดว่า:
บางทีผู้นี้มองเห็นพระจันทร์ในคืนที่สี่ ทั้งหมดเหล่านั้นคือเรื่องเล่า
มีความสกปรกมากมายในโลก มองดูสิ่งที่ผู้คนรับประทาน พวกเขาแม้กระทั่งฆ่าสัตว์
มองดูสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาทำ พ่อมาและปลดปล่อยลูกจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
มีความก้าวร้าวรุนแรงมากมายในโลก พ่อทำให้ทุกสิ่งง่ายดายอย่างยิ่งสำหรับลูก
พ่อพูดว่า: เพียงแต่จดจำพ่อแล้วบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
อธิบายหนึ่งสิ่งแก่ทุกคน พ่อพูดว่า: จดจำดินแดนของความสงบและดินแดนของความสุขของลูก
ดั้งเดิมแล้วลูกคือผู้อาศัยของสถานที่นั้น
ซันยาสซีชี้หนทางไปสู่สถานที่นั้นแก่ลูกด้วยเช่นกัน หากบางคนไปสู่ดินแดนนิพพาน
เขาจะพาผู้อื่นไปกับเขาได้อย่างไร? ใครจะพาพวกเขาไปที่นั่น? ยกตัวอย่าง
หากพระพุทธเจ้าไปสู่ดินแดนนิพพาน สาวกของเขา, ชาวพุทธกำลังนั่งอยู่ที่นี่
เขาควรจะพาพวกเขากลับไปกับเขาด้วยเช่นกัน มีการจดจำว่าจิตวิญญาณ(ดวงวิญญาณ)
ของผู้นำสาสน์ทั้งหมดอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน นั่นคือ พวกเขาอยู่ในร่างหนึ่งร่างใด
และถึงกระนั้นผู้คนก็เฝ้าแต่ร้องสรรเสริญเขา อัจชะ
พวกเขาไปหลังจากได้ก่อตั้งศาสนาหนึ่ง ในกรณีนั้น สิ่งใดเกิดขึ้นหลังจากนั้น?
ผู้คนเพียรพยายามอย่างหนักเพื่อไปสู่การหลุดพ้น บาบาไม่ได้สอนลูกให้พร่ำสวด
ทำทาปาเซียหรือไปในการจาริกแสวงบุญ ฯลฯ พ่อพูดว่า:
พ่อมาเพื่อประทานการหลุดพ้นและชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่ทุกคน
พ่อพาทุกคนกลับไปกับพ่อ มีการหลุดพ้นในชีวิตในยุคทอง มีเพียงศาสนาเดียวที่นั่น
ท่านพาดวงวิญญาณทั้งหมดกลับบ้าน ลูกเฝ้าแต่มองเห็นว่าเมล็ดถูกเพาะหว่านอย่างไร
ลูกสาวทำความเพียรพยายามและเฝ้าแต่หว่านเมล็ด
มาม่าบาบาและลูกทั้งหมดเฝ้าแต่หว่านเมล็ด หัวหน้าคนสวนสอนลูกถึงวิธีที่จะหว่านเมล็ด
ท่านคือนายของสวนดอกไม้ ลูกหว่านเมล็ด ต้นอ่อนปรากฏขึ้นมา
แล้วพายุของมายาก็มีผลกระทบต่อต้นอ่อนเหล่านั้น
มีพายุหลายประเภทที่มีผลกระทบต่อต้นอ่อนเหล่านั้น สิ่งเหล่านั้นคืออุปสรรคของมายา
เมื่อมีพายุลูกควรถามว่า: บาบา ฉันควรทำอะไรเกี่ยวสิ่งนี้?
พ่อคือผู้ที่ให้ศรีมัทแก่ลูก จะมีพายุ อันดับหนึ่งคือสำนึกที่เป็นร่าง
พวกเขาไม่เข้าใจว่า: ฉันดวงวิญญาณไม่สูญสลายและร่างกายนั้นสูญสลาย ในเวลานี้
เราได้จบสิ้น 84 ชาติเกิดของเรา เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาใช้ชาติเกิด
เป็นงานของดวงวิญญาณที่จะละร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า
พ่อพูดว่า: ในเวลานี้ นี่คือชาติเกิดสุดท้ายของลูก
ลูกจะไม่ใช้อีกชาติเกิดหนึ่งในโลกนี้ และลูกไม่ต้องให้กำเนิดแก่ผู้ใด บางคนถามว่า:
ในกรณีนั้น โลกจะดำเนินไปอย่างไร? อ้า
แต่เราไม่ต้องการให้โลกนี้เพิ่มขึ้นอีกต่อไปในเวลานี้
นั่นเป็นเพียงการเพิ่มการคดโกง ระบบนี้ได้ดำเนินไปตั้งแต่ราวันมา
เป็นราวันที่ทำให้โลกคดโกง รามทำให้โลกสูงส่ง สำหรับสิ่งนั้นเช่นกัน
ลูกต้องเพียรพยายามอย่างมาก ลูกกลับมามีสำนึกที่เป็นร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หากลูกไม่กลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง ลูกจะคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ในยุคทองเช่นกัน
พวกเขาคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ พวกเขารู้ว่า
ร่างกายของพวกเขาได้กลับมาเก่าในเวลานี้ และพวกเขาจะละทิ้งร่างนั้นและรับร่างใหม่
ที่นี่พวกเขาไม่แม้กระทั่งมีความรู้ของดวงวิญญาณ
พวกเขาเพียงแต่คิดว่าตนเองเป็นร่างกาย ผู้ที่ไม่มีความสุขต้องการจากโลกนี้
ที่นั่นมีเพียงความสุข แต่พวกเขามีความรู้ของดวงวิญญาณ
ที่นั่นพวกเขาละร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง และเหตุนี้เอง
พวกเขาจึงไม่มีประสบการณ์ของความทุกข์ นั่นคือผลรางวัลของความสุข ที่นี่เช่นกัน
พวกเขาพูดถึงดวงวิญญาณ และบางคนแม้กระทั่งพูดว่าดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด
พวกเขามีความรู้ของการคงอยู่ของดวงวิญญาณ
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถทิ้งบทบาทของเขาและกลับไป อย่างแน่นอน
ลูกต้องละร่างหนึ่งแล้วรับอีกร่างหนึ่ง ทุกคนเชื่อในการกลับชาติมาเกิด
ทุกคนรู้สึกเสียใจต่อการกระทำของเขา ในอาณาจักรของมายา การกระทำนั้นเป็นบาปเสมอ
และดังนั้น พวกเขาเฝ้าแต่สำนึกเสียใจของการกระทำของเขา
ทีนั่นลูกจะไม่ทำการกระทำใดทีทำให้เสียใจต่อการกระทำในภายหลัง
ลูกเข้าใจว่าในเวลานี้ลูกต้องกลับบ้านและการทำลายล้างต้องเกิดขึ้น
พวกเขายังคงทดลองระเบิด จากความโกรธ พวกเขาจะจู่โจมด้วยระเบิด
สิ่งเหล่านั้นคือระเบิดที่ทรงพลัง ยาดาวาสของยุโรปได้รับการจดจำ
เราจะเรียกผู้คนของศาสนาทั้งหมดว่าเป็นชาวยุโรป ในอีกด้านหนึ่งคือบารัต
แล้วพวกเขาก็ได้ปะปนผู้อื่นทั้งหมดเข้าด้วยเช่นกัน
พวกเขามีความรักอย่างมากต่อประเทศของเขา อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมเป็นเช่นนั้น ดังนั้น
พวกเขาจะทำอะไรได้? บาบากำลังให้พละกำลังทั้งหมดแก่ลูก
ลูกประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรด้วยพลังของโยคะ บาบาไม่ได้ให้ความยากลำบากใดแก่ลูก
พ่อเพียงแต่พูดว่า: จดจำพ่อและละทิ้งสำนึกที่เป็นร่าง บางคนพูดว่า: ฉันจดจำราม
หรือศรีกฤษณะ พวกเขาไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณในเวลานั้น
หากพวกเขาเข้าใจว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เหตุใดพวกเขาจึงไม่จดจำพ่อของดวงวิญญาณเล่า?
พ่อพูดว่า: จดจำพ่อ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด เหตุใดลูกจึงจดจำมนุษย์เล่า?
ลูกต้องมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ฉันคือดวงวิญญาณ และฉันกำลังจดจำพ่อ
บาบาออกคำสั่งแก่ลูกว่า: ด้วยการจดจำพ่อ
บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องและมรดกจะเข้ามาสู่สติปัญญาของลูกด้วยเช่นกันว่า:
พ่อและสมบัติ นั่นคือ การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
ผู้คนเฝ้าแต่เร่ร่อนไปทั่วเพื่อสิ่งนี้ พวกเขาเฝ้าแต่ก่อไฟบูชายัญ ทำทาปาเซีย
และพร่ำสวด ฯลฯ พวกเขาไปเพื่อขอพรจากพระสันตปาปา
ที่นี่พ่อเพียงแต่บอกลูกให้ละทิ้งสำนึกที่เป็นร่าง และมีศรัทธาว่าลูกคือดวงวิญญาณ
การละเล่นได้สิ้นสุดลง 84 ชาติเกิดของเราได้สิ้นสุดลง แล้วเวลานี้เราต้องกลับบ้าน
บาบาได้อธิบายสิ่งนั้นอย่างง่ายดาย ขณะที่อาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัว
เก็บสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูก เมื่อการละเล่นจะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจว่ามีเพียง
15 นาทีเท่านั้นที่จะไป แล้วฉากนั้นจะสิ้นสุดลง
นักแสดงเข้าใจว่าพวกเขาจะละทิ้งเครื่องแต่งกายของเขาและกลับบ้าน ในเวลานี้
ทุกคนต้องกลับบ้าน ลูกควรพูดคุยกับตนเองเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
ลูกรู้ว่ายาวนานเพียงใดที่ลูกได้เล่นบทบาทของความสุขและความทุกข์ของลูก ในเวลานี้
พ่อพูดว่า: จดจำพ่อ ลืมสิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลก
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดจะถูกทำลาย ในเวลานี้ ลูกต้องกลับบ้าน
ผู้คนเหล่านั้นเชื่อว่ายุคเหล็กจะยังคงดำเนินไปอีกสี่หมื่นปี
นั่นเรียกว่าความมืดมิดอย่างที่สุด พวกเขาไม่ได้มีการคำแนะนำของพ่อ ความรู้หมายถึง
การมีคำแนะนำของพ่อ และความไม่รู้หมายถึงไม่มีการแนะนำ ดังนั้น
หมายถึงพวกเขาอยู่ในความมืดมิดอย่างที่สุด ในเวลานี้ลูกอยู่ในแสงสว่างอย่างที่สุด
ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ กลางคืนจะสิ้นสุดลงและเราจะกลับบ้าน
ในเวลานี้เป็นกลางคืนของบราห์มาและพรุ่งนี้จะเป็นกลางวันของบราห์มา
ใช้เวลาสำหรับสิ่งนั้นที่จะเปลี่ยนแปลง
ลูกรู้ว่าในเวลานี้เราอยู่ในดินแดนแห่งความตายและพรุ่งนี้เราจะอยู่ในดินแดนของความเป็นอมตะ
ก่อนอื่นใดเราจะต้องกลับบ้าน วงจรของ 84 ชาติเกิด เฝ้าแต่หมุนไปในวิธีนี้
วงจรไม่เคยหยุดหมุน บาบาพูดว่า: ลูกจะได้พบพ่อกี่ครั้ง? ลูกพูดว่า
พวกเขาจะได้พบพ่อหลายต่อหลายครั้ง วงจรของ 84 ชาติเกิดของลูกจะมาถึงจุดสิ้นสุด
ดังนั้น วงจรจะสิ้นสุดสำหรับคนอื่นด้วยเช่นกัน นี่เรียกเป็นความรู้
เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์เท่านั้นที่ให้ความรู้แก่ลูก ลูกสามารถถามว่า:
ใครเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์? ผู้ที่ไม่มีตัวตนเรียกว่าเป็นพระเจ้า ดังนั้น
เหตุใดลูกจึงพูดว่า: ผู้เป็นเจ้าของรากูคือราชาราม?
พ่อของดวงวิญญาณทั้งหมดคือผู้เดียวที่ไม่มีตัวตน
เพื่อที่จะอธิบายสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องมีกลวิธีที่ดีเยี่ยม แต่ละวันที่ผ่านไป
ลูกจะเฝ้าแต่ก้าวหน้าไป เพราะว่าลูกจะได้รับความรู้ที่ลึกล้ำ
เป็นเพียงเรื่องของอัลฟ่าที่ลูกต้องอธิบาย หากลูกลืมอัลฟ่า ลูกก็กลายเป็นเด็กกำพร้า
และลูกเฝ้าแต่ไม่มีความสุข ด้วยการมาเพื่อรู้จักผู้เดียวจากผู้เดียว
ลูกกลับมามีความสุขเป็นเวลา 21 ชาติเกิด นี่คือความรู้
ในขณะที่นั่นเป็นความไม่รู้เมื่อพวกเขาพูดว่าพระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
โอ! แต่ท่านคือพ่อ พ่อพูดว่า: วิญญาณปีศาจร้ายในลูกอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
ราวัน อยู่ในรูปของกิเลสทั้งห้าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
ลูกต้องอธิบายสิ่งเหล่านี้ ลูกควรมีความซาบซึ้งที่ยิ่งใหญ่ว่า
ลูกอยู่ในตักของพระเจ้า แล้วในอนาคต ลูกจะเข้าไปสู่ตักของเหล่าเทพ
มีความสุขที่สม่ำเสมอที่นั่น ชีพบาบาได้นำเรามาเลี้ยงดู เราต้องจดจำท่าน
ลูกต้องนำมาซึ่งคุณประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น และลูกจะได้รับอาณาจักร
สิ่งเหล่านี้คือประเด็นที่ดีมากที่ต้องเข้าใจ
ชีพบาบาไม่มีตัวตนและเราดวงวิญญาณก็ไม่มีตัวตนด้วยเช่นกัน
เราเคยอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างปราศจากร่าง เปลือยเปล่า บาบาปราศจากร่างเสมอ
บาบาไม่เคยใส่เครื่องแต่งกายของร่างกายหรือกลับมาใช้ชาติเกิด
บาบาจุติลงมาใหม่เพียงครั้งเดียว ก่อนอื่นใด ท่านสร้างบราห์มา ดังนั้น
ท่านทำให้ผู้นี้เป็นของท่านและให้ชื่อที่ต่างกันแก่เขา
หากไม่ได้เป็นไปสำหรับบราห์มา บราห์มินจะมาจากที่ใด? ดังนั้น
นี่คือผู้เดียวกันที่ได้ใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม
ท่านคือผู้ที่สวยงามแล้วกลับมาน่าเกลียด เขากลายเป็นชยัมจากซุนดร้า
และแล้วเขากลายเป็นซุนดร้าจากชยัม เราสามารถเรียกบารัตว่า “ชยัม-ซุนดร้า”
บารัตเองเรียกว่าเป็นชยัม และบารัตเองก็เรียกว่าเป็นยุคทอง ซุนดร้า (สวยงาม)
เป็นบารัตที่นั่งอยู่บนกองไฟของตัณหาราคะและกลับมาน่าเกลียด
เป็นบารัตเองที่นั่งบนกองไฟของความรู้และกลับมาสวยงาม
บาบาต้องทำความเพียรพยายามของท่านกับบารัต ชาวบารัตได้เฝ้าแต่เปลี่ยนไปสู่ศาสนาอื่น
ไม่มีความแตกต่างใดปรากฏให้เห็นระหว่างชาวยุโรปและชาวอินเดีย เมื่อพวกเขา (ชาวอินเดีย)
ไปต่างแดนและแต่งงานที่นั่น พวกเขาก็เรียกว่าเป็นชาวคริสต์
ลูกของเขาจะมีรูปลักษณ์เดียวกัน บางคนแม้กระทั่งไปที่แอฟริกาแล้วแต่งงาน ในเวลานี้
บาบาให้สติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัดแก่ลูกเพื่อที่เข้าใจวงจร
มีการเขียนไว้ว่า เคยมีผู้ที่มีสติปัญญาที่หย่าขาดในเวลาของการทำลายล้าง
ยาดาวาสและฆราวาสไม่ได้มีความรักใดๆ ผู้ที่มีความรักนั้นได้รับชัยชนะ
ศัตรูก็กล่าวได้ว่าเป็นผู้มีสติปัญญาที่หย่าขาด พ่อพูดว่า: เวลานี้
ทั้งหมดคือศัตรูของกันและกัน
พวกเขาเรียกพ่อว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันและดูถูกท่านในวิธีนี้
หรือพวกเขาพูดว่า ท่านอยู่เหนือการเกิดและการตาย และท่านไม่ได้มีรูปหรือนามใดๆ
พวกเขายังคงพูดว่า: โอ้ พระเจ้าผู้เป็นพ่อ!
พวกเขาแม้กระทั่งได้นิมิตของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด
ไม่มีความแตกต่างใดระหว่างดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด แต่มีพละกำลังตามลำดับกันไป
น้อยกว่าและมากกว่า แม้ว่ามนุษย์คือมนุษย์ มีสถานภาพของเขาด้วยเช่นกัน
มีความแตกต่างระหว่างสติปัญญาของเขา มหาสมุทรแห่งความรู้ให้ความรู้แก่ลูก
และเหตุนี้เอง ลูกจึงจดจำท่าน สภาพของลูกนั้นจะถูกสร้างขึ้นในเวลาสุดท้าย
ในเวลาอมฤต จดจำพ่อและมีประสบการณ์ของความสุข ลูกอาจจะนอนลงแต่ลูกต้องไม่นอนหลับ
ลูกควรนั่งด้วยความมุ่งมั่นของลูกเอง สิ่งนี้อาศัยความเพียรพยายาม
ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรให้ยาสำหรับอมฤตเวลา สิ่งนี้คือยาเช่นกัน พ่อ
ผู้สร้างได้สร้างบราห์มินผ่านบราห์มาและสอนความรู้นี้ อธิบายสิ่งนี้แก่ทุกคน อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. คงความซาบซึ้งทางจิตว่าลูกได้เข้ามาสู่ตักของพระเจ้า
แล้วลูกจะเข้าไปสู่ตักของเหล่าเทพ นำคุณประโยชน์มาให้แก่ตนเองและผู้อื่น
2. ตื่นในเวลาอมฤต และไตร่ตรองความรู้ของมหาสมุทรแห่งความรู้
อยู่ในการจดจำระลึกถึงผู้เดียวที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน ละทิ้งสำนึกที่เป็นร่าง
และมีศรัทธาว่าลูกคือดวงวิญญาณ
พร:
ขอให้ลูกมีความสุขในหัวใจของลูกอย่างสม่ำเสมอ
และอยู่เหนือทุกคำถามในขณะที่มีสายใยและความสัมพันธ์กับทุกดวงวิญญาณ
ในขณะมีสายใยและความสัมพันธ์กับทุกดวงวิญญาณ
อย่าให้มีคำถามใดๆในหัวใจของลูกว่าทำไมบางคนถึงทำอะไรเช่นนั้น หรือพูดอะไรบางอย่าง
หรือบางสิ่งไม่ควรจะเป็นเช่นนี้ แต่ควรเป็นเช่นนั้น
ผู้ที่ขจัดคำถามประเภทเหล่านั้นทั้งหมดออกไปจะอยู่อย่างมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตามผู้ที่สร้างคิวของคำถามก็สร้างสิ่งสร้างนั้นแล้วต้องหล่อเลี้ยงสิ่งนั้นไว้ด้วยเช่นกัน
พวกเขาต้องให้เวลาและพลังงานกับสิ่งนั้น
ดังนั้นเวลานี้จงมีการคุมกำเนิดกับสิ่งสร้างที่ไร้ประโยชน์นี้
คติพจน์:
หลอมรวมพ่อผู้เป็นจุดไว้ในดวงตาของลูก
และจะไม่มีใครอื่นสามารถหลอมรวมเข้ากับพวกเขาได้