19/10/18       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน จ§ΑΥความสัมพันธ์ทั้งหมดกับพ่อและบ่วงพันธะของลูกจะสิ้นสุดลง มายาผูกลูกไว้ในบ่วงพันธะขณะที่พ่อปลดปล่อยลูกจากบ่วงพันธะ

คำถาม:
ผู้ใดได้รับการกล่าวว่าเป็นอิสระจากบ่วงพันธะ? อะไรคือวิธีการที่จะเป็นอิสระจากบ่วงพันธะ?

คำตอบ:
การเป็นอิสระจากบ่วงพันธะหมายถึงปราศจากร่าง ร่างกายหรือความสัมพันธ์ทางร่างไม่ควรดึงสติปัญญาของลูกเข้าไปหาสิ่งเหล่านั้น มีบ่วงพันธะในสำนึกที่เป็นร่าง ให้กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและบ่วงพันธะทั้งหมดจะสิ้นสุดลง การตายขณะที่มีชีวิตคือการเป็นอิสระจากบ่วงพันธะ สิ่งนั้นควรอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าในเวลานี้เป็นระยะเวลาสุดท้ายและการละเล่นจะสิ้นสุดลง เรากำลังจะไปบ้านของพ่อของเรา และดังนั้นเรา΅ιΝ§เป็นอิสระจากบ่วงพันธะ

เพลง:
พายุและพายุเฮอริเคนไม่สามารถทำสิ่งใดกับผู้ที่เพื่อนร่วมมิตรของเขาคือพระเจ้า

โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก มีลูกมากมายที่นี่และดังนั้นอย่างแน่นอนที่พ่อนั้นไม่มีขีดจำกัด พ่ออธิบายแก่ลูกว่า: มีคำกล่าวว่า: ชีพบาบาที่ไม่มีตัวตน บราห์มาเรียกว่าบาบาด้วยเช่นกัน วิษณุและชางก้าจะไม่ถูกเรียกว่าบาบา ชีวาเรียกว่าบาบาเสมอ ภาพลักษณ์ของชีวาแยกจากภาพลักษณ์ของชางก้า เพลงร้องว่า: ขอคารวะต่อชีวา แล้วก็มีคำกล่าวว่า: ท่านคือแม่และพ่อ เป็นสิ่งที่ง่ายดายที่จะอธิบายว่าชีวาที่ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่สามารถเรียกว่าพ่ออย่างแท้จริง ท่านคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด ชางก้าและวิษณุไม่ใช่ไม่มีตัวตน ชีวาเรียกว่าไม่มีตัวตน มีภาพลักษณ์ของเขาทั้งหมดในวัด มีภาพลักษณ์มากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ภาพลักษณ์ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดคือภาพลักษณ์ของชีพบาบา แล้วก็มีภาพลักษณ์ของบราห์มา วิษณุและชางก้า พวกเขามีรูป จากัดอัมบาและจากัดบิดามีรูปด้วยเช่นกัน ลักษมีและนารายณ์มีรูปที่มีตัวตนเช่นกัน ในขณะที่พระเจ้าผู้เดียวไม่มีตัวตน อย่างไรก็ตามด้วยการเรียกท่านเพียง ‘พระเจ้า’ ผู้คนได้กลับมาสับสน เมื่อลูกถามพวกเขาว่าความสัมพันธ์ของเขากับพระเจ้าคืออะไร พวกเขาจะพูดว่าท่านคือพ่อ ดังนั้นลูกต้องพิสูจน์ว่าท่านคือพระเจ้า ผู้เป็นพ่อ พ่อคือผู้สร้างα΅θแม่นั้นจำเป็นด้วยเช่นกัน พ่อจะสร้างโลกโดยปราศจากแม่ได้อย่างไร? พ่อจะมาเมื่อใด? ทุกคนเรียกหา: โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ของผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! ในเวลานี้ทั้งโลกไม่บริสุทธิ์ เป็นไปเมื่อโลกไม่บริสุทธิ์เท่านั้นที่พ่อจะมาและชำระให้บริสุทธิ์ อย่างแน่นอนสิ่งนี้พิสูจน์ว่าพ่อต้องเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์ แต่ตามละครไม่มีผู้ใดเข้าใจสิ่งนี้ นี่เป็นไปเมื่อพวกเขาไม่เข้าใจว่าพ่อมาและอธิบาย พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก ความรู้และความเลื่อมใสศรัทธาได้รับการจดจำในบารัตเท่านั้น แล้วพวกเขาพูดถึงกลางวันของบราห์มาและกลางคืนของบราห์มาด้วยเช่นกัน มีความมืดมิดที่สุดในเวลากลางคืน สิ่งนี้ได้รับการจดจำว่าเมื่อสัทกูรูให้น้ำมันของความรู้ ความมืดของความไม่รู้ทั้งหมดก็ถูกขจัดออกไป มนุษย์มีความไม่รู้อย่างมากที่พวกเขาไม่รู้จักพ่อ ไม่มีความไม่รู้อื่นใดเช่นนี้ แม้กระทั่งหลังจากพูดว่า “พ่อสูงสุด! โอ้พระเจ้า ผู้เป็นพ่อ!” หากพวกเขาไม่รู้จักท่านก็ไม่มีความไม่รู้ใดที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งนี้ เมื่อลูกพูดว่า “บาบา” แล้วพูดว่าพวกเขาไม่รู้จักอาชีพ ชื่อหรือรูปของท่าน พวกเขาเรียกว่าเป็นผู้ที่โง่เขลา ไม่รู้คิด ความผิดพลาดของชาวบารัตคือพวกเขาเรียกท่านว่าพ่อ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่รู้จักท่าน พวกเขาร้องเพลงว่า: โอ้พระเจ้า ผู้เป็นพ่อ โปรดมาและชำระผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์เถิด! ปลดปล่อยเราจากความทุกข์เถิด! ขจัดความทุกข์ของเราและให้ความสุขแก่เรา! พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ลูกรู้สิ่งนี้ต่างลำดับกันไป บางคนไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะประกาศสิทธิ์ในมรดกที่สมบรูณ์ของเขาจากพ่อ พวกเขาไม่มีการแนะนำที่สมบรูณ์ของพ่อ และดังนั้นพวกเขาจึงถามว่า: ฉันจะทำอะไรได้? ฉันมีบ่วงพันธะ หากลูกรู้วิธีที่จะตายในขณะที่มีชีวิต บ่วงพันธะของลูกจะสิ้นสุดลง เมื่อบุคคลหนึ่งตายในทันที เขาก็ได้รับการปลดปล่อยจากบ่วงพันธะของเขา ในเวลานี้บ่วงพันธะของทุกคนกำลังจะสิ้นสุดลง ลูกต้องเป็นอิสระจากบ่วงพันธะ นั้นคือปราศจากร่างในขณะที่มีชีวิต พ่อพูดว่า: ให้ลืมบ่วงพันธะของร่างกายฯลฯ ของลูก ให้คิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ พ่อของลูก อย่างไรก็ตามลูกรู้สึกว่าสิ่งนั้นเป็นบ่วงพันธะเมื่อลูกมีสำนึกที่เป็นร่าง แล้วลูกก็พูดว่า: ฉันจะเป็นอิสระได้อย่างไร? พ่อพูดว่า: ลูกอาจจะมีชีวิตอยู่ที่บ้าน แต่สิ่งนั้นควรอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าลูกต้องกลับบ้าน เมื่อการละเล่นสิ้นสุดลง นักแสดงก็ละวางจากการละเล่น ขณะที่เล่นบทบาทของเขา สติปัญญาของเขาก็สำนึกรู้ว่าเวลาอันสั้นนั้นหลงเหลืออยู่และหลังจากการเล่นบทบาทของเขาพวกเขาจะกลับบ้าน ลูกต้องเก็บสิ่งนั้นในสติปัญญาของลูกเช่นกันว่าในเวลานี้เป็นเวลาสุดท้าย เวลานี้เราจะเข้าไปสู่ความสัมพันธ์ที่สูงส่ง ขณะที่อาศัยอยู่ในโลกเก่านี้ สิ่งนี้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าลูกกำลังไปหาพ่อ ลูกร้องเพลงว่า: เราจะอุทิศตนเองแก่ท่าน เราจะเป็นของท่านขณะที่เรามีชีวิต เราจะลืมร่างกายของเราและความสัมพันธ์ทางร่างทั้งหมดและมีความสัมพันธ์กับท่านเพียงผู้เดียว เมื่อลูกมีความสัมพันธ์นั้น จดจำท่านและรักท่าน ให้เชื่อมโยงโยคะของสติปัญญากับพ่อ ผู้เป็นที่รักของลูก และสนิมที่»‘คลุมอยู่จะถูกขจัดออกไป โยคะได้รับการจดจำสิ่งอื่นคือโยคะกับร่างกาย ลูกมีโยคะกับลุง ป้า น้า อา กูรู ฯลฯ ของลูก พ่อพูดว่า: เอาโยคะของลูกออกจากพวกเขาทั้งหมดและจดจำพ่อผู้เดียว ให้มีโยคะกับพ่อผู้เดียว อย่าได้มีสำนึกที่เป็นร่าง ขณะที่‘ΓΠทำผ่านร่างกายของลูก ให้มีศรัทธาว่าลูกกำลังเล่นบทบาท ในเวลานี้เป็นตอนสิ้นสุดของโลกเก่านี้และเวลานี้เราต้องกลับบ้าน ลูกต้องไปอยู่เหนือร่างและความสัมพันธ์ทางร่างทั้งหมด ให้พูดคุยกับตนเองในวิธีนี้ ในเวลานี้ลูกต้องไปหาพ่อ บางคนมีบ่วงพันธะของภรรยาของเขา บางคนมีบ่วงพันธะของสามีและบางคนมีบ่วงพันธะ‘ΡΊคนอื่น บาบาแสดงวิธีการมากมายแก่ลูก ให้บอกพวกเขาว่า: เราต้องกลับมาบริสุทธิ์และอย่างแน่นอนทำให้บารัตบริสุทธิ์ เรากลับมาบริสุทธิ์และรับใช้ผ่านร่างกายจิตใจและสมบัติของเรา อย่างไรก็ตามก่อนอื่นใดเราต้องกลายเป็นผู้ทำลายความผูกพันยึดมั่น หากลูกคือผู้ทำลายความผูกพันยึดมั่น ให้เขียนจดหมายΆΦ§รัฐบาลและพวกเขาจะช่วยเหลือลูกด้วยเช่นกัน ให้บอกพวกเขาว่าพระเจ้าพูด: ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราต้องการเอาชนะสิ่งนั้นและกลับมาบริสุทธิ์ คำสั่งของพ่อคือ: ให้กลับมาบริสุทธิ์และลูกจะกลายมาเป็นนายแห่งสวรรค์ เราได้นิมิตของการทำลายล้างและการก่อตั้ง ในเวลานี้พวกเขากำลังเป็นเหตุของอุปสรรค์ต่อการกลับมาบริสุทธิ์ของเราและกำลังทุบตีเรา เรากำลังทำงานรับใช้ที่แท้จริงของบารัต ในเวลานี้ให้ที่ลี้ภัยแก่เรา อย่างไรก็ตามลูกต้องเป็นผู้ทำลายความผูกพันยึดมั่นที่แท้จริง ซันยาสซีจากบ้านและครอบครัวของเขา ที่นี่ลูกต้องมีชีวิตอยู่กับครอบครัวและกลายเป็นผู้ทำลายความผูกพันยึดมั่น หนทางของซันยาสซีนั้นแยกไป มนุษย์พูดว่า: ขณะที่มีชีวิตอยู่ที่บ้านกับครอบครัว ให้ความรู้แก่เราเช่นที่ว่าเราสามารถได้มาซึ่งการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตเช่นที่กษัตริย์จานากเคยทำ เวลานี้ลูกกำลังได้รับสิ่งนั้น บาบาพูดว่า: ผู้นี้คือภรรยาของพ่อและพ่อสร้างผู้คนผ่านปากของเขา ท่านพูดสิ่งนี้ผ่านปากของประชาบิดาบราห์มา ชีพบาบาพูดกับลูกว่า: ลูกคือหลานของพ่อ แล้วผู้นี้พูดว่า: ลูกกลายเป็นลูกของฉันแล้วกลายเป็นหลานของชีพบาบา ลูกได้รับมรดกจากท่าน ไม่มีมนุษย์ใดสามารถให้มรดกแห่งสวรรค์แก่ลูก เพียงผู้ที่ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่ให้สิ่งนั้นแก่ลูก ดังนั้นความเลื่อมใสศรัทธาแยกจากความรู้ ในความเลื่อมใสศรัทธา พวกเขาอ่านพระเวทย์และคัมภีร์ ทำไฟบูชายัญ ทำทาปาเซีย ให้ทานและทำบุญ นั้นมีค่าใช้จ่ายอย่างมากในสิ่งนั้น ทั้งหมดนั้นคือเครื่องประกอบของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ความเลื่อมใสศรัทธาเริ่มขึ้นในยุคทองแดง ·Υθเหล่าเทพไปสู่หนทางบาปและกลับมาไม่บริสุทธิ์ พวกเขาไม่สามารถมีชื่อว่า ‘เทพ’ อีกต่อไป เพราะเหล่าเทพปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาไปสู่หนทางบาป พวกเขาก็มีกิเลส ดังนั้นก็จะกล่าวว่า: ผู้ที่เป็นของศาสนาเทพนั้นไม่บริสุทธิ์ด้วยการเข้าไปสู่หนทางบาป ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ไม่สามารถเรียกว่าเป็นเทพ และเหตุนี้เองพวกเขาจึงถูกเรียกว่าฮินดู ชาวฮินดูเคยได้ชื่อว่า ‘อารยะ’ (ผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง) ในพระเวทย์และคัมภีร์ ชื่ออารยาอ้างอิงถึงดินแดนของบารัต ในเวลานี้คำพูดนั้นมาจากที่ใด? คำว่าอารยาไม่ได้คงอยู่ในยุคทอง พวกเขาพูดว่า 3000 ปีก่อนพระคริสต์ เหล่าเทพในบารัตเคยรู้คิดอย่างยิ่ง แล้วเมื่อเทพเดียวกันนั้นมีกิเลสในยุคทองแดง พวกเขาก็ถูกเรียกว่าไม่มีอารยะ (ผู้ที่ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแก้ไข) บางคนพูดว่า ‘อารยะ’ และชื่อนั้นก็ดำเนินต่อไป เช่นที่บุคคลหนึ่งพูดหรือเขียนว่า “พระเจ้าศรีกฤษณะพูด” และทุกคนเริ่มที่จะเชื่อสิ่งนั้น แม้ว่าพวกเขาร้องเพลงว่า “ขอคารวะต่อชีวา” แล้ว “ท่านคือแม่และพ่อ” พวกเขาไม่รู้ว่าท่านกลายเป็นแม่และพ่ออย่างไร หรือท่านสร้างสิ่งสร้างเมื่อใด อย่างแน่นอนท่านต้องสร้างสิ่งนั้นในตอนเริ่มต้นของโลก อะไรจะเป็นตอนเริ่มต้นของโลก? ยุคทองหรือยุคแห่งการบรรจบพบกัน? พ่อไม่ได้มาในยุคทอง ลักษมีและนารายณ์มาในตอนเริ่มต้นของยุคทอง ผู้ใดทำให้พวกเขากลายเป็นนายของยุคทอง? ท่านไม่แม้กระทั่งมาในยุคเหล็ก นี้คือยุคแห่งการบรรจบพบกันของวงจร พ่อพูดว่า: พ่อมาในตอนบรรจบΎΊกันในทุกๆ วงจร เมื่อดวงวิญญาณทั้งหมดไม่บริสุทธิ์และโลกกลับมาเก่า พ่อมาเมื่อวงจรของละครมาถึงจุดสิ้นสุด ลูกต้องฉลาดอย่างยิ่งและต้องสร้างสมคุณธรรมด้วยเช่นกัน เวลานี้พวกเขากำลังจัดการประชุมเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการศึกษาพระเวทย์และเหตุใดบุคคลจึงควรศึกษาพระเวทย์ พวกเขาจะไม่สามารถได้รับคำตอบใดแล้วพวกเขาก็จะมีการประชุมประเภทเดียวกันในปีถัดไป พวกเขานั่งลงเพื่อแก้ไขบางสิ่ง แต่ไม่มีสิ่งใดได้รับการแก้ไข เฝ้าแต่มีการตระเตรียมสำหรับการทำลายล้างต่อไป พวกเขาเฝ้าแต่ผลิตระเบิดด้วยเช่นกัน ในเวลานี้เป็นยุคเหล็ก เพียงลูกเท่านั้นที่รู้สิ่งเหล่านี้ สิ่งต่างๆ ที่ลูกพูดพิเศษสุด ลูกรู้ว่ามนุษย์ไม่สามารถประทานการหลุดพ้นหรือชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสแก่มนุษย์ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้รับการจดจำ ดังนั้นเหตุใดพวกเขาจึงไม่คิดว่าตนเองไม่บริสุทธิ์? นี่คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์ มหาสมุทรแห่งยาพิษ ไม่ใช่ทุกคนกลายเป็นคนพายเรือ ถึงกระนั้นลูกยังไม่ได้รับพลังที่จะสามารถอธิบายได้อย่างสมบรูณ์ ถึงกระนั้นลูกยังไม่ได้กลับมาฉลาดเช่นนั้น ลูกไม่แม้กระทั่งมีโยคะแม้กระทั่งเวลานี้ ลูกเฝ้าแต่ร้องไห้เช่นเด็กเล็กๆ ลูกไม่สามารถอดทนต่อพายุของมายา มีสำนึกที่เป็นร่างมากมาย ลูกไม่ได้กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ บาบาบอกลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า: ให้คิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ในเวลานี้เราต้องกลับบ้าน นักแสดงทั้งหมดกำลังเล่นบทบาทของตนเอง พวกเขาจะละร่างและกลับบ้าน ลูกเพียงแต่ต้องสังเกตการณ์อย่างเป็นผู้สังเกตการณ์อย่างละวาง เหตุใดลูกจึงมีความผูกพันยึดมั่นต่อความสัมพันธ์ทางร่างและร่างกายของลูก? ลูกไม่ได้กลับมาปราศจากร่าง ดังนั้นบาปของลูกไม่ได้รับการปลดเปลื้อง หากลูกจดจำพ่อ ปรอทของความสุขจะสูงขึ้น ชีพบาบากำลังสอนเราแล้วเราจะกลายเป็นเทพและดังนั้นควรมีความสุขที่ไร้ขีดจำกัด ลูกรู้ว่าเมื่อชาวบารัตเคยอยู่ในความสุข ที่เหลือทั้งหมดอยู่ในดินแดนของนิพพาน ดินแดนของความสงบ ในเวลานี้มีมนุษย์หลายล้านคน ในเวลานี้ลูกกำลังเพียรพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งการหลุดพ้นในชีวิต ที่เหลือทั้งหมดจะกลับบ้าน โลกเก่าต้องถูกทำให้ใหม่ เพียงพ่อเท่านั้นที่จะทำให้โลกใหม่ ต้นอ่อนกำลังได้รับการเพาะหว่าน นี่คือต้นอ่อนของดอกไม้เทพ ลูกกำลังกลายเป็นดอกไม้จากหนาม เมื่อสวนนั้นพร้อมอย่างสมบรูณ์ ป่าของหนามก็จะถูกทำลาย ป่าต้องถูกจุดให้ลุกเป็นไฟ แล้วเราจะไปสู่สวนดอกไม้ เหตุใดลูกจึงไม่ควรทำตามมาม่าและบาบา? นั้นได้รับการจดจำว่า: ให้ทำตามแม่และพ่อ ลูกรู้ว่ามาม่าและบาบาจะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ พวกเขาคือผู้ที่ได้ใช้ 84 ชาติเกิด สิ่งเดียวกันนี้ใช้กับลูก ของเขาคือบทบาทหลัก สิ่งนั้นถูกเขียนไว้ว่าพ่อได้มาและกำลังก่อตั้งอำนาจการปกครองของสุริยวงศ์และจันทราวงศ์อีกครั้ง สิ่งนั้นได้มีการอธิบายแก่ลูกอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นสำนึกที่เป็นร่างของลูกก็ไม่ได้ตัดขาด “สามีของฉัน ลูกของฉัน” แต่พวกเขาคือความสัมพันธ์เก่าของโลกเก่า “ของฉันคือชีพบาบาผู้เดียวและไม่มีใครอื่น” นี่เป็นสิ่งที่ยากลำบากอย่างยิ่งที่จะจบสิ้นความผูกพันยึดมั่นของลูกกับผู้ที่มีร่างกายทั้งหมด พ่อเข้าใจว่าเมื่อใดที่สิ่งนั้นปรากฏว่ายากลำบากอย่างยิ่งสำหรับความผูกพันยึดมั่นของบางคนที่จะตัดขาด ใบหน้าของเขาหรือเธอได้รับการมองเห็นว่าเป็นเช่นนั้น กุมารีกลายเป็นผู้ช่วยที่ดีมาก อัจชะ

ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. ขจัดความผูกพันยึดมั่นของลูกจากทุกสิ่งรวมถึงร่างกายของลูก และทำความเพียรพยายามที่สมบรูณ์ที่จะกลับมาปราศจากร่าง ให้เป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง΅θΝบทบาทของนักแสดงทุกคน ให้เป็นอิสระจากบ่วงพันธะ

2. ให้อยู่เหนือโลกเก่านี้ ให้พูดคุยกับตนเองว่า: เวลานี้ฉันต้องกลับบ้าน เวลานี้เป็นตอนสิ้นสุดของโลกเก่า ในเวลานี้บทบาทของฉันได้มาถึงจุดสิ้นสุด

พร:
ขอให้ลูกเป็นอิสระจากบ่วงพันธะทั้งหมดและมีประสบการณ์กับสภาพที่โบยบินด้วยสำนึกรู้ของการเป็นแสงที่เบาสบาย

ในขณะที่เดินเหินและเคลื่อนไหวไปมารอบๆ จงมีสำนึกรู้ว่า: ฉันเป็นเทวดา-นางฟ้าที่มั่นคงในสภาพที่เป็นแสงและเบาสบาย เทวดา-นางฟ้าหมายถึงผู้ที่บินได้ สิ่งที่เบาจะอยู่ข้างบนอย่างสม่ำเสมอจะไม่ลงมาข้างล่าง เป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกอยู่ข้างล่างและเวลานี้ก็ถึงเวลาที่จะโบยบิน และดังนั้นตรวจสอบดูว่า: ฉันมีภาระหรือบ่วงพันธะใดๆ หรือไม่? หากบ่วงพันธะหรือภาระของสันสการ์ที่อ่อนแอ ความคิดที่ไร้ประโยชน์ และจิตสำนึกที่เป็นร่างของลูกคงอยู่ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานสิ่งนั้นก็จะนำลูกลงมาในเวลาสุดท้าย ดังนั้นกลับมาเป็นอิสระจากบ่วงและฝึกฝนที่จะอยู่ในสภาพที่เป็นแสงที่เบาสบาย

คติพจน์:
เพียงผู้ที่สะสมพลังของความคิดที่บริสุทธิ์ไว้เท่านั้นที่สามารถรับใช้ด้วยจิตใจของพวกเขาได้