22-04-2021 มอร์นิ่ง มูร์ลี โอม ชานติ บัพดาดา มธุบัน


ลูกๆ ที่แสนหวาน พ่อมาเพื่อกอบกู้บารัต ในเวลานี้ลูกๆ กลายเป็นผู้ช่วยของพ่อ เพียงบารัตเท่านั้นที่เป็นดินแดนเก่าแก่โบราณ

คำถาม:

สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อะไรที่ขัดขวางลูกจากการปีนขึ้นไปสู่จุดหมายปลายทางที่สูง

คำตอบ:

หากมีความสนใจในสิ่งใดแม้แต่น้อย หากลูกไม่มีทัศนคติที่เป็นอิสระจากแรงดึงดูด หากสติปัญญาของลูกยังคงหมกมุ่นอยู่กับการใส่เสื้อผ้าดีๆหรือรับประทานอาหารดีๆแล้วสิ่งเหล่านั้นจะขัดขวางลูกจากการไปถึงจุดหมายปลายทางที่สูง เหตุนี้เองบาบาพูดว่า ลูกๆจงมีความเรียบง่าย ลูกต้องลืมทุกสิ่ง แม้แต่ร่างกายของลูกก็ไม่ควรจดจำ

โอมชานติ ได้มีการอธิบายให้กับลูกแล้วว่าบารัตนี้เป็นดินแดนที่ไม่สูญสลาย และชื่อดั้งเดิมคือบารัต ชื่อฮินดูสถานได้รับในภายหลัง บารัตได้ชื่อว่าเป็นดินแดนทางจิตวิญญาณ เป็นดินแดนเก่าแก่โบราณ เมื่อมีแผ่นดินบารัตในโลกใหม่ ไม่มีแผ่นดินอื่นๆเลย ศาสนาหลักได้แก่ อิสลาม พุทธ และคริสต์ เวลานี้มีแผ่นดินมากมาย บารัตคือดินแดนที่ไม่สูญสลาย มันถูกเรียกว่าสวรรค์ ในโลกใหม่มีเพียงแผ่นดินบารัตเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ผู้สร้างโลกใหม่คือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้สร้างสวรรค์ พระเจ้าแห่งสวรรค์ ผู้เป็นพ่อ ผู้คนของบารัตรู้ว่าบารัตนี้คือดินแดนที่ไม่สูญสลาย บารัตคือสวรรค์ เมื่อมีใครตาย ผู้คนก็พูดว่าเขาไปสวรรค์แล้วราวกับว่าสวรรค์อยู่เบื้องบน พวกเขาได้แสดงภาพของสวรรค์ในวัดดิลวาลาบนเพดานด้านบน สิ่งนี้ไม่ได้เข้าไปอยู่ในสติปัญญาของใครเลยว่าบารัตเคยเป็นสวรรค์ อย่างไรก็ตามบารัตไม่ได้เป็นสวรรค์อีกต่อไปแล้ว เวลานี้คือนรก นี่คือความไม่รู้ มีสองสิ่งคือความรู้และความไม่รู้ ความรู้เรียกว่ากลางวันและความไม่รู้เรียกว่ากลางคืน กล่าวกันว่า "ความสว่างที่สุดและความมืดที่สุด” ความสว่างหมายถึงการขึ้นหรือความรุ่งเรือง(rise) และความมืดหมายถึงความตกต่ำ(fall) ผู้คนไปดูดวงอาทิตย์ตกแต่นั่นเป็นเรื่องที่มีขีดจำกัด สำหรับสิ่งนี้มีคำกล่าวว่า: กลางวันของบราห์มาและกลางคืนของบราห์มา บราห์มาคือพ่อของผู้คน ดังนั้นเขาจึงเป็นพ่อของทุกคนอย่างแน่นอน เมื่อสัตกูรูให้น้ำมันแห่งความรู้ ความมืดของความไม่รู้ก็ถูกขจัดออกไป ไม่มีใครในโลกเข้าใจสิ่งเหล่านี้ นี่คือความรู้ใหม่สำหรับโลกใหม่ สำหรับสวรรค์ลูกต้องการความรู้จากพระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เป็นพ่อ มีเพลงร้องไว้ว่า: พ่อคือผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ ดังนั้นท่านจึงเป็นครู พ่อเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์ไม่มีใครอื่นสามารถเรียกได้ว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์ แม้กระทั่งศรีกฤษณะก็ไม่สามารถเรียกเช่นนั้น พ่อของทุกคนคือหนึ่งเดียว ศรีกฤษณะไม่สามารถเป็นพ่อของทุกคน เมื่อเขาเติบโตขึ้นและแต่งงานเขาก็กลายเป็นพ่อของลูกหนึ่งหรือสองคน ราเด้และกฤษณะถูกเรียกว่าเจ้าหญิงและเจ้าชาย พอถึงจุดหนึ่งพวกเขาต้องแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานแล้วพวกเขาก็กลายเป็นพ่อแม่ พวกเขาไม่สามารถเรียกว่าพระเจ้า พ่อของโลก เพียงพ่อผู้ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่เรียกว่าพระเจ้า พ่อของโลก ชีพบาบาไม่สามารถเรียกว่าปู่ทวด ปู่ทวดคือประชาบิดาบราห์มา ต้นไม้เผ่าพันธุ์มนุษย์ปรากฏออกมาจากท่าน ผู้เดียวนั้นคือพระเจ้าผู้ไม่มีตัวตนผู้เป็นพ่อ ท่านคือพ่อของดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตนทั้งหมด บนหนทางความเลื่อมใสศรัทธาดวงวิญญาณไม่มีตัวตนที่นี่อยู่ในร่างกายร้องเรียกหาท่าน ลูกกำลังรับฟังสิ่งใหม่ทั้งหมดนี้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เขียนไว้อย่างถูกต้องในคัมภีร์ใดๆ พ่อพูดว่า: พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ เป็นการส่วนตัว แล้วความรู้ทั้งหมดนี้จะหายไป และแล้วเมื่อพ่อมา ท่านให้ความรู้ที่ถูกต้อง พ่ออธิบายเป็นการส่วนตัวและให้มรดกกับลูกๆเท่านั้น ต่อมาคัมภีร์ถูกสร้างขึ้นมา คัมภีร์ไม่สามารถถูกสร้างได้อย่างถูกต้องแม่นยำเพราะโลกแห่งสัจจะได้จบสิ้นลงและกลายเป็นดินแดนแห่งความหลอกลวง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่สิ่งที่ไม่จริงเพราะมีเพียงสภาพของการลงมาเท่านั้น ด้วยสัจจะจึงมีสภาพของการขึ้นไป ความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืน ผู้คนสะดุดล้มไปทั่วในความมืดของกลางคืน พวกเขาเฝ้าแต่ก้มศีรษะของเขา มีความมืดมิดเช่นนั้น ผู้คนไม่รู้สิ่งใดเลย พวกเขาเฝ้าแต่สะดุดล้มจากประตูหนึ่งไปอีกประตูหนึ่ง มีการขึ้น (rise) และการตก (fall) ของดวงอาทิตย์นี้ที่ลูกๆไปดู เวลานี้ลูกๆต้องเห็นการขึ้นของดวงอาทิตย์แห่งความรู้ มีการขึ้น (rise) ของบารัตและการตกต่ำ (downfall) ของบารัต บารัตจมลงเหมือนกับดวงอาทิตย์ ในเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง พวกเขาแสดงให้เห็นว่าเรือของบารัตจมลงได้อย่างไร และแล้วพ่อก็มาและกอบกู้เรือของบารัต ลูกกำลังกอบกู้บารัตนี้อีกครั้งหนึ่ง เพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้ ลูกส่งคำเชิญออกไปสำหรับนิทรรศการนี้และหัวข้อนั้นคือ "การสร้างโลกใหม่” นั้นถูกต้อง นั่นเป็นนิทรรศการที่แสดงว่าโลกใหม่ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร มีการให้คำอธิบายนี้โดยรูปภาพ ดังนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีถ้ายังใช้หัวข้อนี้ต่อไป ลูกแสดงให้เห็นว่าโลกใหม่ถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างไรและมีความเจริญรุ่งเรืองของโลกใหม่อย่างไร มีการล่มสลายของโลกเก่าแน่นอนและเหตุนี้เองลูกจึงแสดงให้เห็นว่ามีการเจริญรุ่งเรืองอย่างไร นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของลูกที่ได้อาณาจักรมาอย่างไรและลูกสูญเสียอาณาจักรไปอย่างไรเช่นกัน มีอะไรที่นั่นเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว นั่นกล่าวได้ว่ามีอาณาจักรของสุริยวงศ์ จากนั้นอาณาจักรจันทราวงศ์ก็ได้ก่อตั้งขึ้นมา ผู้คนเหล่านั้นได้รับอาณาจักรจากกันและกัน พวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้อาณาจักรจากผู้นั้นผู้นี้ พวกเขาไม่เข้าใจภาพบันได เพียงพ่อเท่านั้นที่อธิบายว่าลูกเข้าสู่ยุคเงินจากยุคทองอย่างไร ลูกลงบันไดมาเรื่อยๆได้อย่างไร นี่คือบันไดของ 84 ชาติ ลูกต้องลงบันไดมาแล้วขึ้นไป ต้องมีการอธิบายความลับของความล่มสลาย: มีความตกต่ำของบารัตนานแค่ไหนและมีความเจริญรุ่งเรืองของบารัตนานแค่ไหน ความตกต่ำและความเจริญรุ่งเรืองของผู้คนของบารัต ลูกต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้ที่ว่าจะทำให้ผู้คนสนใจอย่างไร จากนั้นลูกต้องส่งคำเชิญพวกเขาด้วยเช่นกัน "พี่น้องหญิงชายทั้งหลาย” ขอให้มาและทำความเข้าใจกัน!” ก่อนอื่น บอกพวกเขาถึงคำสรรเสริญของพ่อ ควรมีบอร์ดที่แสดงคำสรรเสริญของชีพบาบาบนบอร์ดนั้น: มาและประกาศสิทธิ์ในมรดกของสุริยวงศ์และจันทราวงศ์จากชีพบาบา ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ มหาสมุทรแห่งความรู้ มหาสมุทรแห่งความบริสุทธิ์ มหาสมุทรแห่งความสุข และความสงบ มหาสมุทรแห่งความเจริญรุ่งเรือง ผู้ประทานการหลุดพ้นสำหรับทุกคน พ่อของโลก ครูของโลกและกูรูของโลก แล้วผู้คนก็จะรู้จักพ่อ คำสรรเสริญพ่อนั้นแตกต่างจากการสรรเสริญของศรีกฤษณะ สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆ ลูกผู้ที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้เป็นอย่างดีจะวิ่งไปทั่วตลอดทั้งวัน พวกเขาเองแม้กระทั่งลางานทางโลกและข้องแวะอยู่ในงานรับใช้ทางจิต นี่คือรัฐบาลของพระเจ้า หากลูกสาวทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้องแวะอยู่ในงานรับใช้ทางจิตเช่นนั้น ลูกสามารถประกาศชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง ลูกผู้ที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้ได้รับการหล่อเลี้ยงเป็นอย่างดีเพราะคลังสมบัติของชีพบาบานั้นเปี่ยมล้น ลูกรับประทานจากคลังสมบัติที่เปี่ยมล้นเสมอและคลังสมบัตินั้นจะขจัดความทุกข์ทรมานของลูกออกไป ลูกเป็นของสกุลชีวา ท่านเป็นผู้สร้างและนี่คือสิ่งสร้างของท่าน ชื่อ "บาบูล” (พ่อ) อ่อนหวานมาก ชีวาคือเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน คำยกย่องของชีพบาบาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อลูกเขียนคำว่า "ไม่มีตัวตน” พวกเขาคิดว่าท่านไม่มีรูป ชีพบาบาคือผู้ที่เป็นที่รักที่สุด ลูกต้องเขียนคำว่า 'ผู้เป็นที่รักยิ่ง' อย่างแน่นอน เวลานี้พวกเขามีสนามรบและลูกก็มีสนามรบด้วยเช่นกัน "ชีพชักตีที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรง”ได้รับการจดจำกันมา อย่างไรก็ตามผู้คนได้วาดภาพเทพเจ้าพร้อมกับอาวุธและทำให้พวกเขามีความรุนแรง ในความเป็นจริงลูกประกาศสิทธิ์อำนาจในการปกครองโลกด้วยการจดจำระลึกถึงและพลังโยคะ ไม่มีเรื่องของอาวุธฯลฯ มีอิทธิพลของแม่น้ำคงคาอย่างมาก ผู้คนมากมายจะมีนิมิต บนหนทางความเลื่อมใสศรัทธาพวกเขาเชื่อว่าต่อเมื่อพวกเขารับน้ำจากแม่น้ำคงคาบางส่วนเท่านั้นที่พวกเขาสามารถได้รับการหลุดพ้นได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเฝ้าแต่พูดถึงแม่น้ำคงคาที่แฝงตัว พวกเขาพูดว่าแม่น้ำคงคาปรากฏออกมาจากตรงจุดที่ลูกศรตกลงมา พวกเขาแสดงให้เห็นแม้กระทั่งแม่น้ำคงคาที่ออกมาจากเกามุก (ปากของวัว) ถ้าหากลูกถามพวกเขา พวกเขาจะบอกว่าแม่น้ำคงคาที่แฝงตัวปรากฏออกมา พวกเขาแสดงให้เห็นแม่น้ำสรัสวตีที่แฝงตัวที่ตรีเวนี (ที่ซึ่งแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน) พวกเขาได้สร้างเรื่องราวมากมาย ที่นี่มีเพียงสิ่งเดียว แค่อัลฟ่าเท่านั้นเอง อัลล่าห์มาก่อตั้งบาฮิสต์ (สวรรค์) คูด้าก่อตั้งสวรรค์ อิศวรก่อตั้งสวรรค์ ในความเป็นจริงแล้วพระเจ้าคือหนึ่งเดียว พวกเขาตั้งชื่อให้กับท่านต่างๆ มากมายในภาษาของพวกเขาเอง อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าใจแน่นอนว่าพวกเขาได้รับอำนาจการปกครองสวรรค์จากอัลล่าห์ ที่นี่พ่อพูดว่า: มานมานะบาฟ! ด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อลูกจะจดจำมรดกของลูกอย่างแน่นอน สิ่งสร้างของผู้สร้างคือสวรรค์ ไม่สามารถกล่าวได้ว่าราม (พระเจ้า) สร้างนรก ผู้คนของบารัตไม่รู้ว่าผู้สร้างที่ไม่มีตัวตนเป็นใคร ลูกรู้ว่าผู้สร้างนรกคือราวันที่ผู้คนเผาหุ่นจำลอง ต้นอ่อนของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาเติบโตอย่างมากในอาณาจักรของราวัน พวกเขาได้สร้างรูปที่น่ากลัวของราวัน พวกเขาแม้กระทั่งพูดว่าราวันคือศัตรูของเขา พ่อได้อธิบายว่ามีการขยายตัวเช่นนั้นจึงเป็นเหตุให้พวกเขาสร้างราวันที่มีร่างกายที่ใหญ่โต ชีพบาบาเป็นเพียงจุดแต่พวกเขาทำภาพลักษณ์ที่ใหญ่โตเป็นตัวแทนของท่าน จุดจะได้รับการกราบไหว้บูชาได้อย่างไร พวกเขาต้องกลายเป็นผู้ที่กราบไหว้บูชา มีการกล่าวถึงดวงวิญญาณว่าเป็นดวงดาวที่แสนมหัศจรรย์ส่องประกายอยู่ตรงกลางหน้าผาก แล้วพวกเขาก็พูดว่าดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด ดังนั้นท่านจะสามารถส่องแสงสว่างมากว่าพระอาทิตย์พันดวงได้อย่างไร? พวกเขาพูดถึงดวงวิญญาณแต่พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ถ้าพระเจ้าสว่างกว่าพระอาทิตย์พันดวงแล้วท่านจะเข้ามาในทุกคนได้อย่างไร? พวกเขาพูดในสิ่งที่ผิดเช่นนั้นและดูสิว่าเวลานี้พวกเขากลายเป็นอะไรโดยการฟังเรื่องเหล่านั้น! พวกเขาพูดว่าแต่ละดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด ดังนั้นรูปของพ่อก็ควรจะเป็นเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้ทำรูปของท่านให้ใหญ่ขึ้นเพื่อที่เขาจะได้กราบไหว้บูชาท่านได้ พวกเขาทำภาพลักษณ์ด้วยหินก้อนขนาดใหญ่เช่นนั้นสูงเท่ากับพันดาฟที่ถูกสร้างขึ้นมาในถ้ำ พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย! นี่คือการศึกษาเล่าเรียน ธุรกิจแยกจากการศึกษา บาบาสอนลูกและก็สอนธุรกิจแก่ลูกด้วยเช่นกัน บนป้ายกระดานควรมีคำยกย่องของพ่อเป็นสิ่งแรก ลูกต้องเขียนคำยกย่องของพ่ออย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้เข้ามาในสติปัญญาของลูกๆตามลำดับกันไปตามความพยายามที่ลูกทำ เหตุนี้เองจึงกล่าวกันว่ามีผู้ขี่ช้างและผู้ขี่ม้า ไม่มีเรื่องของอาวุธ ฯลฯ พ่อเปิดล็อกบนสติปัญญาของลูก ไม่มีใครที่ไหนสามารถเปิดล็อก ก๊อดเร็จนี้ได้ เมื่อลูกคนไหนมาพบพ่อ บาบาถามพวกเขาว่า: เราเคยพบกันมาก่อนไหม? เราเคยพบกันในสถานที่นี้ในวันนี้มาก่อนไหม? ลูกๆ ตอบว่า: ใช่ บาบาเราเคยพบกันเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว ไม่มีใครอื่นสามารถถามสิ่งเหล่านี้ในลักษณะเดียวกันได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ลึกล้ำมากและต้องเข้าใจ บาบาอธิบายความรู้ในวิธีที่ชาญฉลาดมากมาย แต่ลูกก็ซึมซับความรู้ตามลำดับกันไป! การสรรเสริญชีพบาบาแยกจากการสรรเสริญบราห์มาวิษณุและชางก้า บทบาทของแต่ละบุคคลมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป บทบาทของคนหนึ่งไม่สามารถเหมือนกับของอีกคนหนึ่งได้ ละครนี้คงอยู่ตลอดไปเป็นนิจนิรันดร จากนั้นละครก็จะกลับมาซ้ำรอยอีก เวลานี้ละครอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าลูกจะไปสู่โลกที่ไม่มีตัวตนอย่างไรและลูกลงมาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของลูกอย่างไร ลูกไปโดยผ่านอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน เมื่อลูกกลับมาอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนก็ไม่คงอยู่ ไม่มีใครมีนิมิตของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ไม่มีใครที่นั่นทำทาปาเซียเพื่อที่จะได้นิมิตของอาณาเขตที่ละเอียดเพราะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ จะไม่มีผู้เลื่อมใสศรัทธาของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนสร้างขึ้นมาตอนนี้เพื่อที่ลูกสามารถกลับไปโดยผ่านอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนและจากนั้นไปยังโลกใหม่ ในเวลานี้ลูกยังคงไปและกลับจากที่นั่น เวลานี้ลูกได้หมั้นหมายและนี่คือบ้านแม่ของลูก วิษณุไม่เรียกว่าพ่อ นั่นคือบ้านฝ่ายสามีของลูก เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งไปที่บ้านของฝ่ายสามีของเธอ เธอทิ้งเสื้อผ้าเก่าทั้งหมดไว้ข้างหลัง ลูกทิ้งโลกเก่าไว้ข้างหลังโดยสิ้นเชิง มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างความเรียบง่ายของลูกและของพวกเขา! ลูกต้องอยู่อย่างเป็นอิสระจากแรงดึงดูดอย่างสมบูรณ์ ลูกต้องตัดสำนึกที่เป็นร่างออกไปด้วยเช่นกัน เมื่อลูกสวมใส่ส่าหรีราคาแพง ลูกจะกลับมามีสำนึกที่เป็นร่างในทันทีและลืมว่าลูกคือดวงวิญญาณ เวลานี้ลูกถูกเนรเทศ(มีความเรียบง่าย) ความเรียบง่ายและสภาพของการปลดเกษียณเป็นสิ่งเดียวกัน ลูกต้องสลัดร่างกายทิ้งไป ดังนั้นลูกจะไม่สละส่าหรีหรือ? บางครั้งเมื่อใครได้รับส่าหรีราคาถูกหัวใจของเธอก็ห่อเหี่ยว ลูกควรมีความสุขที่ลูกได้รับสิ่งที่ราคาถูก สิ่งของที่ดีๆก็ต้องดูแลอย่างระมัดระวัง สิ่งเล็กๆ น้อยๆของการสวมใส่เสื้อผ้าดีๆและการรับประทานอาหารดีๆจะขัดขวางลูกในการไปถึงจุดหมายปลายทางที่สูงของลูกเช่นกัน จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก พวกเขาได้เล่าเรื่องราวทางศาสนาเกี่ยวกับว่าภรรยาบอกกับสามีของเธอให้ทิ้งแม้กระทั่งไม้เท้าของเขาอย่างไร พ่อพูดว่า: เสื้อผ้าเก่าเหล่านี้และโลกเก่านี้ทั้งหมดจะจบสิ้น ดังนั้นตัดโยคะของสติปัญญาของลูกออกจากโลกเก่าทั้งหมด นี่เรียกว่าการสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด ซันยาสซีเคยมีการสละละทิ้งที่มีขีดจำกัด แต่ตอนนี้พวกเขาได้เริ่มตั้งถิ่นฐานภายใน(เมืองต่างๆ)แล้ว เมื่อก่อนนี้พวกเขามีความแข็งแกร่งอย่างมาก จะมีการยกย่องผู้ที่ตกลงมาได้อย่างไร? ดวงวิญญาณใหม่จะลงมาเรื่อยๆเพื่อเล่นบทบาทของพวกเขาจนจบ เขาจะมีพละกำลังมากแค่ไหน? ลูกใช้ 84 ชาติเกิดเต็มที่ จำเป็นต้องมีสติปัญญาที่ดีมากในการทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ลูกที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้จะมีความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้อย่างมาก ลูกๆของมหาสมุทรแห่งความรู้ควรให้คำบรรยายด้วยความกระตือรือร้นเช่นเดียวกับที่บาบาทำ เราไม่ควรท้อแท้ในสิ่งนี้ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่เชื่อฟังและสวามิภักดิ์และซื่อสัตย์อย่างยิ่ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อบัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทาง จิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1. ทำให้สติปัญญาของลูกมีการสละละทิ้งอย่างไม่มีขีดจำกัด ขณะนี้เป็นเวลาที่ต้องกลับบ้าน ดังนั้นจงอยู่อย่างเป็นอิสระจากสิ่งดึงดูดใดๆ ต่อโลกเก่าและร่างเก่า

2. อยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสในขณะที่สังเกตการณ์ทุกฉากของละคร

พร:

ขอให้ลูกปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิงและสร้างสรรค์ทุกความคิด พูดทุกคำพูด และทำทุกการกระทำในขณะที่มั่นคงในตำแหน่งสูงสุดของลูก

การปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิงหมายความว่าลูกจะไม่ถูกดึงดูดจากกิเลสใดๆโดยเปอร์เซ็นต์ใดๆ และลูกไม่ได้รับอิทธิพลจากกิเลสใดๆ ดวงวิญญาณที่มีตำแหน่งสูงสุดไม่สามารถมีความคิดธรรมดาๆได้ ดังนั้นก่อนที่ลูกจะสร้างความคิดหรือแสดงการกระทำใด ๆ ให้ตรวจสอบว่า: งานนั้นสูงส่งเท่ากับชื่อของลูกหรือไม่? หากชื่อของลูกสูงส่งและงานของลูกต่ำแล้วลูกก็จะทำให้เสียชื่อเสียง ดังนั้นให้ใช้คุณสมบัติที่เหมาะสมกับเป้าหมายของลูกแล้วลูกจะได้รับการกล่าวขานว่าปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิงนั่นคือดวงวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

คติพจน์:

ในขณะที่ทำสิ่งใดก็ตามจงตระหนักถึงพ่อผู้เป็นคารันคาราวันฮาร์และจะมีความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความพยายามและโยคะของลูกเอง


*** โอม ชานติ ***