15-04-2021 มอร์นิ่ง มูร์ลี โอม ชานติ บัพดาดา มธุบัน


ลูกๆ ที่แสนหวาน จงมีความเมตตาเช่นเดียวกับพ่อและชี้หนทางนี้ให้แก่ผู้อื่นมากมาย ลูกๆ ที่อยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้ทั้งวันทั้งคืนคือผู้ที่กล้าหาญ

คำถาม:

อะไรคือพื้นฐานหลักของการทำให้โชคของลูกสูงส่ง?

คำตอบ:

: การจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง มากเท่าที่ลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึง ลูกจะทำให้โชคของลูกสูงส่งมากตามนั้น ในขณะที่กำลังทำทุกสิ่งเพื่อการหาเลี้ยงชีพของร่างกายของลูก จงเฝ้าแต่จดจำพ่อและมรดก และโชคของลูกจะกลับมาสูงส่งขึ้นเรื่อยๆ

เพลง:

ฉันได้มาแล้วเพื่อปลุกโชคของฉัน

โอมชานติ เมื่อเด็กเกิดมา พวกเขาก็นำโชคของพวกเขาติดตัวไปกับเขาตามกรรมของพวกเขา บางคนเกิดมากับพ่อแม่ที่มั่งคั่งในขณะที่คนอื่นเกิดมากับพ่อแม่ที่ยากจน พ่อก็จะเข้าใจว่าทายาทนั้นได้มาแล้ว แต่ละคนได้รับชาติเกิดตามที่เขาได้บริจาคทานไปมากเท่าไหร่และเขาได้ทำบุญกุศลมากแค่ไหน พ่อมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปหนึ่งวงจรและอธิบายแก่ลูกๆที่สุดแสนหวานผู้เป็นที่รักที่จากหายไปนานและ เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง ลูกๆ รู้ด้วยเช่นกันว่าลูกได้นำโชคของลูกมากับลูก ลูกได้นำโชคของอำนาจในการปกครองสวรรค์มากับลูก สิ่งนี้ใช้กับผู้ที่เข้าใจสิ่งนี้อย่างชัดเจนมากและผู้ที่จดจำพ่อ โชคนั้นเชื่อมโยงกับการจดจำระลึกถึง ลูกได้เกิดมาแล้วและดังนั้นควรจะมีการจดจำระลึกถึงพ่อ ยิ่งลูกมีการจดจำระลึกถึงมากเท่าไหร่ โชคของลูกก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก! ลูกได้รับการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาที ลูกได้มาเพื่อได้รับโชคในดินแดนแห่งความสุขของลูก เวลานี้ลูกแต่ละคนกำลังทำความเพียรพยายาม ลูกแต่ละคนสามารถมองดูตนเองเพื่อดูว่าลูกกำลังทำความเพียรพยายามอย่างไร เช่นที่มาม่า บาบาและลูกๆที่มีค่ามีประโยชน์ในงานรับใช้กำลังทำความเพียรพยายาม ดังนั้นลูกก็ควรจะทำตามพวกเขาเช่นกัน ให้คำแนะนำของพ่อแก่ทุกคน เมื่อลูกให้คำแนะนำของพ่อก็ควรรวมถึงคำแนะนำของตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างด้วยเช่นกัน ไม่มีฤๅษีหรือมุนีใดที่สามารถให้ความรู้ของผู้สร้างหรือตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างได้ เวลานี้สติปัญญาของลูกสำนึกรู้ถึงวงจรทั้งวงจร ไม่มีใครในโลกรู้จักพ่อหรือมรดก เวลานี้ลูกๆ รู้จักพ่อและโชคของลูก เวลานี้ลูกต้องจดจำพ่อ แน่นอนลูกต้องทำหน้าที่การงานเพื่อหาเลี้ยงชีพของร่างกายของลูก ลูกต้องดูแลครัวเรือนของลูกด้วยเช่นกัน ใครก็ตามที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะสามารถทำงานรับใช้ได้ดีมาก ผู้ที่ไม่มีบุตรก็มีโอกาสที่ดีมากที่จะทำงานรับใช้ มิฉะนั้นผู้หญิงจะมีบ่วงพันธะของสามีและลูกๆ ของเธอ ถ้าเธอไม่มีลูกเธอก็เป็นอิสระจากบ่วงพันธะ นั่นคือการอยู่ในชีวิตของการปลดเกษียณ และแล้วจำเป็นต้องมีมิตรเป็นเพื่อไปสู่ดินแดนแห่งการหลุดพ้น ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาพวกเขามีความเป็นมิตรของผู้รู้ ฯลฯ และผู้คนของหนทางสันโดษ ผู้ที่อยู่ในหนทางสันโดษไม่สามารถทำให้ใครได้รับมรดกของหนทางครอบครัว เพียงลูกๆ เท่านั้นที่สามารถทำให้ผู้คนได้รับสิ่งนั้นได้ พ่อได้ชี้หนทางแก่ลูกแล้ว นั่งลงและถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์ของบารัตและ 84 ชาติเกิด เพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่ใช้ 84 ชาติเกิด ไม่ใช่เรื่องของเพียงชาติเกิดเดียว ผู้ที่เป็นของสุริยวงศ์ต่อมาก็เข้าไปสู่จันทราวงศ์แล้วก็สู่ราชวงศ์พ่อค้า เป็นสิ่งที่ตามลำดับกันไป เจ้าชายอันดับหนึ่งของบารัตคือศรีกฤษณะที่พวกเขาแกว่งไกวอยู่ในเปล พวกเขาไม่ได้แกว่งอันดับสอง เพราะองศานั้นได้ลดลงไปแล้ว อันดับหนึ่งได้รับการกราบไหว้บูชา ผู้คนไม่เข้าใจว่ามีกฤษณะหนึ่งหรือสองหรือสามกฤษณะ ไม่มีใครรู้ว่ามีราชวงศ์ของกฤษณะ เพียงอันดับหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับการกราบไหว้บูชา คะแนนนั้นก็ได้รับตามลำดับกันไป ดังนั้นจึงต้องมีการทำความเพียรพยายาม: ทำไมฉันไม่ประกาศสิทธิ์ในอันดับหนึ่ง? ทำตามมาม่าและบาบาและประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของพวกเขา ผู้ที่รับใช้อย่างดีจะได้ไปเกิดในบ้านที่ดีกับจักรพรรดิ ที่นั่นมีเพียงจักรพรรดิและจักรพรรดินีเท่านั้น ไม่มีตำแหน่งเช่นราชาและราชินีในเวลานั้น พวกเขาปรากฏตัวขึ้นในภายหลัง เมื่อพวกเขากลับมาไม่บริสุทธิ์ในยุคทองแดงผู้ที่มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลก็จะได้รับตำแหน่งราชา สถานภาพของจักรพรรดิจะน้อยลงไป มันหายไป เมื่อหนทางความเลื่อมใสศรัทธาเริ่มขึ้นก็มีความแตกต่างระหว่างผู้ที่มั่งคั่งและผู้ที่ยากจน เวลานี้มีเพียงลูกๆ เท่านั้นที่จดจำชีพบาบาและประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากท่าน ในชุมนุมทางจิตอื่นๆ ผู้คนนั่งและถ่ายทอดเรื่องราวทางศาสนา มนุษย์สอนเพียงความเลื่อมใสศรัทธาแก่มนุษย์เท่านั้น พวกเขาไม่สามารถให้ความรู้หรือให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ พระเวทย์และคัมภีร์เป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา เพียงด้วยความรู้เท่านั้นที่มีหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ ผู้คนเชื่อในกลับมาเกิดใหม่ ไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ในระหว่างกลางนั้น เป็นเพียงในเวลาสุดท้ายเท่านั้นที่พ่อมาและพาทุกคนกลับบ้าน ดวงวิญญาณเหล่านั้นทั้งหมดจะไปและอยู่ที่ไหน? แต่ละศาสนานั้นมีสัดส่วนของตนเอง สิ่งนี้ต้องมีการอธิบายเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่ามีต้นไม้ของดวงวิญญาณด้วย ลูกๆ มีความรู้ของทั้งต้นไม้อยู่ในสติปัญญาของลูก มีต้นไม้ของดวงวิญญาณและต้นไม้ของผู้มีชีวิตด้วยเช่นกัน ลูกๆ รู้ว่าลูกจะสลัดร่างเก่าของลูกและกลับบ้าน การคิดว่าตนเองแยกห่างจากร่างกายหมายถึงการตายในขณะที่มีชีวิต เมื่อลูกตายโลกก็ตายไปแล้วสำหรับลูก และแล้วลูกก็ละทิ้งเพื่อนฝูงญาติมิตรของลูกทั้งหมด ก่อนอื่นใดลูกรับคำสอนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์และประกาศสิทธิ์ในสถานภาพแล้วลูกต้องกลับบ้าน การจดจำระลึกถึงพ่อนั้นง่ายมาก แม้ว่าใครบางคนจะเจ็บป่วยลูกก็ควรจะบอกเขาอยู่เรื่อยๆว่า: จดจำชีพบาบาและบาปของคุณจะได้รับการปลดเปลื้อง ไม่เป็นการดีสำหรับผู้ที่เป็นโยคีที่มั่นคงที่จะตายเร็วๆนี้เพราะพวกเขากำลังทำงานรับใช้ทางจิตวิญญาณในขณะที่อยู่ในโยคะ ถ้าพวกเขาตายพวกเขาจะไม่สามารถทำงานรับใช้ได้ ด้วยการทำงานรับใช้ลูกก็จะทำให้สถานภาพของลูกสูงส่งต่อไปและลูกยังสามารถรับใช้พี่น้องหญิงชายของลูกด้วยเช่นกัน ลูกจะประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อด้วย เราเป็นพี่น้องเป็นลูกของพ่อเดียว พ่อพูดว่า: จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง ท่านพูดสิ่งนี้มาก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน ลูกสามารถอธิบายกับใครก็ตาม: พี่น้องหญิงชายทั้งหลาย คุณดวงวิญญาณได้กลับมาตาโมประธาน คุณเคยสะโตประธาน และเวลานี้คุณต้องเปลี่ยนจากตาโมประธานเป็นสะโตประธานและไปสู่โลกที่สะโตประธาน ต้องมีการทำให้ดวงวิญญาณสะโตประธานด้วยการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง ลูกต้องเก็บชาร์ทของการจดจำระลึกถึงที่เหมาะสม ลูกจะไม่สามารถเก็บชาร์ทของความรู้ พ่อยังคงให้ความรู้แก่ลูกต่อไป ลูกต้องตรวจสอบดูว่าจะขจัดภาระของบาปในตัวลูกออกไปอย่างไร เหตุนี้เองจึงมีการเก็บชาร์ทของการจดจำระลึกถึง ฉันอยู่ในการจดจำระลึกถึงกี่ชั่วโมง? ลูกจดจำโลกที่ไม่มีตัวตนและลูกก็จดจำโลกใหม่ด้วยเช่นกัน ความปั่นป่วนต้องเกิดขึ้น กำลังมีการเตรียมการสำหรับสิ่งนั้น พวกเขายังคงผลิตระเบิดกันต่อไป ในด้านหนึ่งพวกเขากล่าวว่าพวกเขากำลังประดิษฐ์วัตถุที่จะนำมาซึ่งความตาย ในอีกด้านหนึ่งพวกเขากล่าวว่า: อย่าได้ผลิตสิ่งใดเพื่อความตาย พวกเขามีแม้กระทั่งสิ่งที่เป็นอันตรายถึงตายได้เหล่านั้นอยู่ใต้ทะเล สิ่งเหล่านั้นจะขึ้นมาจากใต้ทะเล (ในเรือดำน้ำ) ปล่อยระเบิดแล้วก็จมลงไปใต้น้ำอีกครั้ง พวกเขายังคงผลิตสิ่งต่างๆเช่นนั้นต่อไป พวกเขากำลังทำทุกอย่างเพื่อทำลายตัวเอง ความตายเพียงแค่ยืนอยู่เบื้องหน้า มีการสร้างพระราชวังขนาดใหญ่จำนวนมาก แต่ลูกรู้ว่าทั้งหมดนั้นจะกลายเป็นฝุ่น ทรัพย์สมบัติของใครบางคนจะถูกฝังใต้พื้นดิน... สงครามจะเกิดขึ้นแน่นอน พวกเขาจะพยายามทำให้กระเป๋าของทุกคนว่างเปล่า โจรขโมยมากมายก็ไปที่นั่น พวกเขาใช้จ่ายมากมายไปกับเรื่องของสงคราม ทั้งหมดนั้นจะกลายเป็นฝุ่น อาคารทั้งหมด ฯลฯ จะถล่มลงมา เมื่อระเบิดถูกทิ้งสามในสี่ของโลกจะถูกทำลาย จะเหลืออยู่เพียงหนึ่งส่วนสี่ บารัตนั้นอยู่ในหนึ่งส่วนสี่นั้นใช่ไหม? คนอื่นๆทั้งหมดนั้นจะปรากฏขึ้นในภายหลัง เพียงสัดส่วนของบารัตเท่านั้นที่จะยังหลงเหลืออยู่ ทุกคนต้องตาย แล้วทำไมเราจึงไม่ควรประกาศสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของเราจากพ่อ? เหตุนี้เองพ่อพูดว่า: ลูกต้องทำตามความรับผิดชอบของลูกต่อญาติมิตรทางโลกของลูกด้วย หากลูกไม่มีบ่วงพันธะบาบาก็จะแนะนำลูกว่า: ทำไมลูกถึงไม่มายุ่งอยู่ในงานรับใช้? ลูกเป็นอิสระและดังนั้นลูกจึงสามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้คนมากมาย โอเคลูกอาจจะไม่ได้ออกไปไหน อย่างน้อยลูกก็ควรมีความเมตตาต่อเพื่อนและญาติมิตรของลูก! ก่อนหน้านี้ลูกเคยพูดว่า: บาบาได้โปรดเมตตา! เวลานี้ได้มีการแสดงหนทางให้แก่ลูกแล้ว ดังนั้นลูกควรมีความเมตตาต่อผู้อื่นด้วยเช่นกันเช่นเดียวกับที่พ่อมีความเมตตา พ่อพูดว่า: จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง ซันยาสซีทำความเพียรพยายามมากมายด้วยการทำหฐโยคะ ที่นี่ลูกไม่จำเป็นต้องทำอะไรเช่นนั้นเลย ลูกเพียงแค่ต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงเพื่อที่บาปของลูกจะถูกเผาไป ไม่มีความยากลำบากอะไรในสิ่งนี้ เป็นเพียงเรื่องของการอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง เมื่อลูกนั่งเดินเหินและเคลื่อนไหวไปมาลูกทำทุกสิ่งด้วยอวัยวะทางร่างของลูก แต่ลูกเชื่อมโยงสติปัญญาของลูกในโยคะกับพ่อ กลายเป็นคู่รักที่แท้จริงของผู้เป็นที่รักนั้น ท่านเองพูดว่า: โอ้ คู่รัก! โอลูกๆ! ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ลูกได้จดจำพ่ออย่างมากมาย เวลานี้จดจำพ่อผู้เป็นที่รักและบาปของลูกจะถูกเผาไป พ่อรับประกันสิ่งนี้ บางส่วนของสิ่งเหล่านี้ได้มีการกล่าวไว้ในคัมภีร์ ด้วยการรับฟังกีตะจากพระเจ้าลูกจะได้รับการหลุดพ้นในชีวิต ด้วยการรับฟังกีตะจากมนุษย์ ลูกก็ได้เข้ามาสู่ชีวิตของบ่วงพันธะ ลูกลงบันไดมาเรื่อยๆ ลูกต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้เกี่ยวกับทุกสิ่ง ใช้สติปัญญาของลูก! นี่คือการจาริกแสวงบุญของสติปัญญาซึ่งบาปของลูกได้รับการปลดเปลื้อง บาปจะไม่ได้ได้รับการปลดเปลื้องโดยการศึกษาพระเวทย์และคัมภีร์หรือโดยการทำทาปาเซียหรือมีไฟบูชายัญ ลูกลงมาและเวลานี้ลูกต้องขึ้นไปข้างบน จนกว่าจะมีใครบางคนอธิบายสิ่งนั้นให้กับพวกเขา ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครสามารถเข้าใจอะไรได้เลยจากภาพของบันได เช่นที่ลูกสอนเด็กเล็กๆด้วยการแสดงภาพแก่พวกเขา – นี่คือช้าง เมื่อเขาเห็นช้างเขาก็จะจำภาพนั้นได้ ในทำนองเดียวกันสิ่งนี้จะเข้าไปสู่สติปัญญาของลูก ในภาพ,พวกเขาได้แสดงภาพขนาดเล็ก ลูกรู้ว่าสวรรค์นั้นใหญ่มาก จะมีอาณาจักรที่ใหญ่อยู่ที่นั่น จะมีพระราชวังเพชรพลอยที่นั่น และจากนั้นสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดจะหายไป ทุกสิ่งจะหายไป ไม่เช่นนั้นแล้วบารัตนี้จะยากจนได้อย่างไร? จากที่ยากจนก็ต้องกลายเป็นผู้มั่งคั่งและจากมั่งคั่งก็กลับมายากจน ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องอธิบายภาพของบันได โดยการอธิบายให้แก่คนใหม่ที่มา ลูกจะพัฒนาการฝึกฝนนั้นและปากของลูกก็จะเปิดขึ้น ลูกๆถูกทำให้มีค่าต่อการทำงานรับใช้ ในหลายๆศูนย์เด็กๆก็กระจายความไม่สงบเป็นอย่างมาก เมื่อโยคะของสติปัญญาของพวกเขาเร่ร่อนออกไปภายนอกพวกเขาก็ทำให้เกิดความเสียหายและทำลายบรรยากาศ มันเป็นตามลำดับกันไป ดังนั้นพ่อก็จะพูดว่า: ลูกไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนและเวลานี้ดูสิว่าสภาพของลูกนั้นกลายเป็นเช่นไร! แต่ละวันลูกจะมีนิมิตมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่ทำบาปก็จะยังคงได้รับการลงโทษต่อไป แล้วพวกเขาก็จะพูดว่า: ฉันทำบาปโดยที่ไม่มีเหตุผลเลย เมื่อลูกบอกพ่อและสำนึกผิด สิ่งนั้นก็สามารถลดลงไปได้เล็กน้อย ไม่เช่นนั้นสิ่งนั้นก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป จากนั้นลูกก็จะรู้สึกได้และพูดว่า: ฉันจะทำอะไรได้บ้าง? นิสัยนี้ของฉันไม่ได้จบลง ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าที่ไปและอยู่ที่บ้าน บางคนทำงานรับใช้ที่ดีมาก บางคนถึงกับก่อความเสียหายในงานรับใช้ พ่อนั่งที่นี่และให้ชื่อของผู้ที่อยู่ในกองทัพของท่านที่ไม่เกรงกลัวและกล้าหาญ ไม่มีเรื่องของสงครามที่นี่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกๆ ที่ดีได้รับการยกย่องจากพ่ออย่างแน่นอน ลูกๆต้องมีความเมตตากรุณาอย่างมากและให้คุณประโยชน์ กลายเป็นไม้เท้าสำหรับคนตาบอด ชี้หนทางให้แก่ทุกคน: จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง มีคำกล่าวว่า: ดวงวิญญาณบาปและดวงวิญญาณบุญ ไม่ใช่ว่าดวงวิญญาณสูงสุดกำลังนั่งในคนนั้นหรือที่ดวงวิญญาณนั้นกลายเป็นดวงวิญญาณสูงสุด ทั้งหมดนั้นไม่ถูกต้อง ดวงวิญญาณสูงสุดไม่สามารถสะสมบาปได้ ท่านมีบทบาทในละครของการทำงานรับใช้ เป็นมนุษย์ที่กลายเป็นดวงวิญญาณบาปและดวงวิญญาณบุญ ผู้ที่สะโตประธานได้กลับมาตาโมประธาน พ่อนั่งในร่างของผู้นี้และทำให้ลูกสะโตประธานและดังนั้นลูกควรทำตามคำแนะนำและวิถีทางของท่าน เวลานี้พ่อได้ทำให้สติปัญญาของลูกกว้างไกลและไม่มีขีดจำกัดอย่างมาก เวลานี้ลูกรู้แล้วว่าอาณาจักรกำลังก่อตั้งขึ้นอย่างไร พ่อเข้ามาในร่างของบราห์มาและสอนราชาโยคะแก่ลูกๆผู้เป็นสิ่งสร้างที่เกิดจากปากของบราห์มาและทำให้ลูกกลายเป็นเทพ แล้วลูกก็กลับมาเกิดใหม่และลงบันไดมา เวลานี้ทั้งหมดนั้นต้องซ้ำรอย พ่อกำลังทำการก่อตั้งผ่านบราห์มาอีกครั้ง ลูกเอาชนะกิเลสทั้งห้าด้วยพลังโยคะและกลายเป็นผู้เอาชนะโลก ไม่มีเรื่องของสงคราม ฯลฯ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:

1 เป็นอิสระจากบ่วงพันธะและให้ตนเองข้องแวะอยู่ในงานรับใช้ของพ่อ และแล้วเมื่อนั้นลูกก็จะทำให้โชคของลูกสูงส่ง จงมีความเมตตาและชี้หนทางให้แก่ผู้อื่นมากมาย กลายเป็นไม้เท้าให้กับคนตาบอด

2 ขจัดความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดจากร่างกายของลูกและตายในขณะที่มีชีวิต เพราะเวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน แม้ว่าลูกจะเจ็บป่วยเพียงแค่จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง

พร:

พร: ขอให้ลูกกลายเป็นตัวของความสำเร็จด้วยการรับใช้ตนเองและรับใช้ผู้อื่น

เพื่อที่จะกลายเป็นตัวของความสำเร็จ พร้อมกับการรับใช้ผู้อื่นจงรับใช้ตัวเองด้วยเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่ลูกไปทำงานรับใช้ให้คิดเสมอว่าพร้อมกับการทำงานรับใช้ท้ายที่สุดแล้วลูกก็เผาซันสการ์เก่าของลูกด้วย ยิ่งลูกเผาซันสการ์ของลูกมากเท่าไหร่ลูกก็จะยิ่งได้รับความเคารพมากขึ้นเท่านั้น ดวงวิญญาณทั้งหมดจะคาราวะต่อลูกด้วยจิตใจของพวกเขา อย่างไรก็ตามอย่าทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่เคารพลูกแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่เคารพลูกด้วยจิตใจของพวกเขา

คติพจน์:

รักษาเป้าหมายของการทำงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัดไว้ และบ่วงพันธะที่มีขีดจำกัดทั้งหมดของลูกจะถูกทำลาย


*** โอม ชานติ ***