11.04.21 Avyakt Bapdada Thai Murli
10.12.87 Om Shanti Madhuban
ข้อตกลงที่สูงส่งของร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สมบัติ และความสัมพันธ์
วันนี้ พ่อ
มหาสมุทรแห่งสมบัติทั้งหมดและพ่อค้าเพชรพลอยกำลังยิ้มเมื่อเห็นลูกๆของท่านทั้งหมด
ท่านกำลังเห็นว่าใครเป็นลูกนักธุรกิจของพ่อซึ่งเป็นพ่อค้าเพชรที่มีสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและพวกเขาได้ทำข้อตกลงกับใคร
ใบหน้าของผู้ที่เสนอข้อตกลงกับพระเจ้าและผู้ที่ทำข้อตกลงกับพระเจ้านั้นไร้เดียงสามาก
แต่พวกเขาก็ได้ทำข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้!
ดวงวิญญาณเหล่านี้คือนักธุรกิจผู้ที่ทำข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
ผู้คนในโลกไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้ ผู้คนในโลกคิดว่าดวงวิญญาณเหล่านี้สิ้นหวัง
ยากจนมากและเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา พวกเขาไม่สนใจคนเหล่านี้โดยคิดว่า “กุมารีและแม่เหล่านี้จะประกาศสิทธิในการบรรลุผลของพระเจ้าได้อย่างไร?”
อย่างไรก็ตามพ่อได้ทำให้แม่และกุมารีเหล่านี้มีบุคลิกภาพที่สูงส่งที่ทำข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือข้อตกลงใดๆ
ไหแห่งความรู้ได้ถูกวางไว้กับแม่และกุมารีเป็นอันดับแรก
ท่านได้ทำให้กุมารีที่ยากจนน่าสงสารกลายเป็นแม่ของยักย่าเป็นแม่ของโลกจักกะตัมบา
อย่างน้อยผู้เป็นแม่ก็ยังมีทรัพย์สินของเธอบางส่วนเก็บซ่อนไว้
แต่พวกกุมารีที่ยากจนยิ่งกว่าผู้เป็นแม่
ก่อนอื่นพ่อได้ทำให้ผู้ที่ยากจนที่สุดมาเป็นนักธุรกิจ
และข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดคือการทำให้กุมารีที่ยากจนที่สุดเป็นจักกะตัมบา ลักษมี
เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง! จนถึงวันนี้ไม่ว่าใครบางคนจะเป็นมหาเศรษฐีมากแค่ไหน
เขาก็ยังคงร้องขอความมั่งคั่งจากลักษมีอย่างแน่นอนและกราบไหว้บูชาเธอ
พ่อผู้เป็นพ่อค้าเพชรพลอยมีความสุขเมื่อได้เห็นลูกๆนักธุรกิจของท่าน
ด้วยการทำข้อตกลงนี้สำหรับหนึ่งชาติเกิด
ลูกจะกลับมามั่งคั่งอย่างสม่ำเสมอและเต็มเปี่ยมเป็นเวลาหลายชาติเกิด
บางคนที่ทำข้อตกลงธรรมดาไม่ว่าเขาจะเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน
เขาเพียงแค่ทำข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติและสินค้า
มีเพียงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเท่านั้นที่ทำข้อตกลงของทรัพย์สมบัติ จิตใจ ร่างกาย
และความสัมพันธ์ที่สูงส่ง ลูกเคยเห็นผู้ให้คนไหนเป็นเช่นนี้หรือไม่?
ลูกได้ทำข้อตกลงทั้งสี่ประเภทแล้วใช่หรือไม่?
ร่างกายของลูกจะอยู่อย่างมีพลานามัยดีเสมอ จิตใจของลูกจะอยู่อย่างมีความสุขเสมอ
คลังสมบัติของความมั่งคั่งของลูกจะยังคงเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ
และจะมีความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวในความสัมพันธ์ของลูก ลูกมีการรับประกันนี้
ทุกวันนี้ผู้คนให้การรับประกันสำหรับสิ่งที่มีค่า
อย่างมากที่สุดพวกเขาจะให้การรับประกันห้าปีหรือสิบปี แล้วพวกเขาจะทำอะไรอีก?
แต่พ่อ พ่อค้าเพชรให้การรับประกันยาวนานเท่าใด?
ท่านให้การรับประกันหลายชาติเกิดแก่ลูก ไม่มีแม้แต่หนึ่งในสี่ที่ขาดหายไป
แม้ว่าลูกจะเป็นผู้รับใช้ของปวงประชา
ในกรณีนั้นลูกก็จะได้รับทั้งสี่สิ่งนี้จนกระทั่งชาติสุดท้ายของลูก
นั่นคือจนถึงตอนสิ้นสุดของยุคเงิน ลูกเคยทำข้อตกลงเช่นนี้หรือไม่?
ตอนนี้ลูกได้ทำข้อตกลงนี้แล้วใช่ไหม? ลูกทำข้อตกลงที่มั่นคงหรือยังไม่มั่นคงนัก?
ลูกได้ทำข้อตกลงที่ราคาถูกมากกับพระเจ้า ลูกให้อะไรกับท่าน?
ลูกให้สิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับท่านหรือไม่?
ผู้คนจากต่างประเทศมักส่งสัญลักษณ์รูปหัวใจให้บัพดาดาเสมอ
พวกเขาเขียนจดหมายของพวกเขาเป็นรูปของหัวใจ พวกเขาส่งหัวใจเป็นของขวัญ
นั่นคือลูกได้ให้หัวใจใช่ไหม แต่ลูกให้หัวใจแบบไหน?
หัวใจดวงหนึ่งที่แตกสลายเป็นหลายเสี่ยง แม่พ่อลุงป้าเป็นรายการที่ยาวมาก
หากลูกทำรายการเครือญาติในยุคเหล็กจะเป็นรายการที่ยาวมาก
ประการแรกลูกมอบหัวใจให้แก่ญาติพี่น้อง ประการที่สองลูกมอบหัวใจให้กับทรัพย์สมบัติ...
มีกี่สิ่งและกี่คนที่หัวใจลูกยึดติดอยู่?
ลูกให้หัวใจของลูกยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นและทำให้หัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
พ่อได้นำหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆกลับมารวมกันอีกครั้ง ดังนั้นลูกให้และได้รับอะไร?
และวิธีการทำข้อตกลงนี้ก็ง่ายดายมากเช่นกัน เป็นข้อตกลงเพียงหนึ่งวินาที คำว่า “บาบา”
คือวิธีการ เป็นวิธีการของคำเพียงแค่คำเดียว ใช้เวลานานแค่ไหน? ลูกเพียงแค่พูด “บาบา”
จากหัวใจของลูก และข้อตกลงก็ถูกทำขึ้นในหนึ่งวินาที เป็นวิธีที่ง่ายมาก
ข้อตกลงที่ง่ายดายเช่นนี้ไม่สามารถทำได้ในยุคอื่นๆ มีเพียงในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
ดังนั้นบัพดาดาได้เห็นใบหน้าและภาพลักษณ์ของนักธุรกิจ เมื่อเปรียบเทียบกับโลกแล้ว
ลูกทั้งหมดล้วนไร้เดียงสา อย่างไรก็ตามเป็นลูกผู้ไร้เดียงสาที่สร้างความมหัศจรรย์
ลูกฉลาดในการทำข้อตกลงนี้ใช่หรือไม่? หลังจากสะสมความมั่งคั่งแล้ว
คนที่ร่ำรวยและมีความสำคัญในปัจจุบันจมอยู่กับปัญหาในการดูแลความมั่งคั่งของตน
จมอยู่กับปัญหานั้นพวกเขา พวกเขาไม่มีเวลามารับรู้ถึงพ่อ
เวลาของพวกเขาเสียไปเพียงแค่กับการปกป้องตนเองและเงินของพวกเขา
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นจักรพรรดิ พวกเขาก็เป็นจักรพรรดิด้วยความกังวล
เพราะอย่างไรก็ตามเงินที่หามาได้นั้นก็เป็นเงินที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นจักรพรรดิที่มีความวิตกกังวล
ในขณะที่ลูกภายนอกนั้นไม่มีแม้แต่เปลือก(หนึ่งสตางค์)
แต่ลูกเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล แม้ว่าลูกจะเป็นขอทาน แต่ลูกก็เป็นจักรพรรดิ
ลูกใช้คติพจน์อะไรในตอนเริ่มต้น? ขอทานเป็นเจ้าชาย
ลูกเป็นจักรพรรดิในตอนนี้และเป็นจักรพรรดิในอนาคตด้วย
เมื่อเทียบกับคนที่มีบุคลิกภาพที่มั่งคั่งอันดับหนึ่งในปัจจุบันนี้
แม้แต่ปวงประชาในตอนปลายของยุคเงินยังมั่งคั่งมากกว่า
ลองคิดถึงจำนวนประชากรในทุกวันนี้ มีความมั่งคั่งจำนวนเท่าเดิม
และในความเป็นจริงทรัพย์สมบัติที่ถูกฝังไว้ก็จะปรากฏออกมาเช่นกัน
ทรัพย์สมบัติจะถูกแจกจ่ายไปตามจำนวนประชากร แล้วปวงประชาที่นั่นจะเป็นเช่นไร?
ถ้าลูกมองในแง่เหล่านี้จะมีความมั่งคั่งมากมายแค่ไหน แม้แต่ปวงประชาก็ไม่ขาดสิ่งใด
ดังนั้นพวกเขาคือจักรพรรดิใช่หรือไม่?
จักรพรรดิไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องนั่งบนบัลลังก์
จักรพรรดิหมายถึงผู้ที่เต็มเปี่ยม ผู้ที่ไม่ขาดสิ่งใด ผู้ที่ไม่มีสิ่งใดขาดหายไป
ดังนั้นลูกได้ทำข้อตกลงเช่นนั้นแล้วหรือยัง? หรือลูกกำลังทำมันอยู่หรือไม่?
หรือลูกยังคงคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้อยู่?
บางครั้งเมื่อลูกได้รับบางสิ่งที่ดีมากและราคาถูกมาก
ลูกก็จะจมอยู่ในความสับสนที่สงสัยว่ามันจะดีหรือไม่?
ลูกไม่ได้จมอยู่กับความสับสนเช่นนั้นใช่ไหม?
ผู้ที่อยู่ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาทำสิ่งที่ง่ายให้ยากที่ทำให้ทุกคนหัวหมุน
แม้กระทั่งตอนนี้พวกเขายังคงมองหาพ่อในรูปแบบเดียวกันนั้น
พวกเขาทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงจมอยู่ในความสับสน
พวกเขาได้แสดงวิธีการที่ยืดเยื้อและซับซ้อนในการค้นหาพระเจ้าผู้สูงส่งเหนือสิ่งใด
ในขณะที่คิดถึงสิ่งนั้น ดวงวิญญาณที่เลื่อมใสศรัทธายังคงติดกับอยู่ในความสับสนนั้น
พระเจ้ามาเพื่อให้ผลของความรักและศรัทธา แต่เพราะความสับสนนี้
ดวงวิญญาณผู้เลื่อมใสศรัทธาจึงยังคงยุ่งอยู่กับการให้น้ำกับใบไม้ทุกใบ
ไม่ว่าลูกจะให้สาส์นแก่พวกเขามากแค่ไหน พวกเขาพูดอะไร?
ช่างเป็นพระเจ้าที่สูงส่งเช่นนี้
สำหรับท่านที่จะมาที่นี่อย่างง่ายดายนั้นเป็นไปไม่ได้! ดังนั้นพ่อจึงยิ้ม
เพราะผู้คนที่รู้จักกันดีในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาหรือเพื่อความมั่งคั่งของพวกเขาหรือไม่ว่าจะมีอาชีพอะไรก็ตาม
ทั้งหมดต่างก็ยุ่งอยู่กับงานของตนเอง ในขณะที่ลูกดวงวิญญาณธรรมดาได้ทำข้อตกลงกับพ่อ
ลูกพันดาวาสได้ทำข้อตกลงที่มั่นคงใช่หรือไม่?
ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์มีความฉลาดในการทำข้อตกลง ทุกคนได้ทำข้อตกลง
แต่ทุกสิ่งตามลำดับกันไป พ่อได้ให้ทรัพย์สมบัติแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
เพราะท่านคือมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่จำเป็นสำหรับพ่อที่จะให้ทุกสิ่งตามลำดับกันไป
ดวงวิญญาณที่กำลังทำงานที่มุ่งไปสู่การทำลายล้างในปัจจุบันนี้พูดว่ามีการเตรียมวัสดุมากมายสำหรับการทำลายล้างที่พวกเขาสามารถทำลายหลายโลกมากมายเช่นโลกนี้
พ่อพูดว่า
ท่านมีสมบัติมากมายที่แม้ว่าดวงวิญญาณทั้งหมดในโลกจะกลับมารู้คิดเหมือนลูกดวงวิญญาณและทำข้อตกลงและประกาศสิทธิในทุกสิ่ง
ถึงอย่างนั้นสมบัติเหล่านั้นก็ไม่มีที่สิ้นสุด
หากมีดวงวิญญาณมากมายหลายล้านที่มากกว่าจำนวนดวงวิญญาณบราห์มินมาพวกเขาก็สามารถประกาศสิทธิในทุกสิ่งได้เช่นกัน
ท่านก็มีสมบัติที่ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รับตามลำดับกันไป
มีเพียงผู้ที่กล้าหาญเพียงไม่กี่คนที่ปรากฏตัวที่จะทำข้อตกลงด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง
ด้วยเหตุนี้ลูกประคำทั้งสองประเภทจึงได้รับการกราบไหว้บูชา
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างเพชรพลอยทั้ง 8 และลำดับสุดท้ายของ 16000
มีความแตกต่างกันอย่างมาก ลูกทั้งหมดเหมือนกันในการทำข้อตกลง
ดวงวิญญาณอันดับสุดท้ายพูดว่า “บาบา” และดวงวิญญาณอันดับแรกก็พูดว่า “บาบา”
ไม่มีความแตกต่างในคำที่พวกเขาใช้ วิธีการทำข้อตกลงก็เหมือนกัน
และผู้ประทานที่ให้ก็ให้เท่าๆกัน ไม่ว่าจะเป็นสมบัติแห่งความรู้ หรือสมบัติแห่งพลัง
สมบัติในยุคบรรจบพบกันทั้งหมดที่ลูกรู้จัก,ทุกคนได้รับเหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าบาบาจะให้พลังทั้งหมดกับใครบางคนและให้อีกคนเพียงพลังเดียว
หรือท่านให้คุณธรรมเดียวกับบางคน และให้คุณธรรมทั้งหมดกับอีกคน
ไม่มีความแตกต่างนั้น สมญาของทุกคนก็เหมือนกัน: ผู้ที่รู้ความรู้ของตอนเริ่ม
ตอนกลาง และตอนจบคือตรีกาลดาชิ และนายผู้ทรงอำนาจ
ไม่ใช่ว่าใครบางคนเป็นผู้ทรงอำนาจที่มีทุกพลัง และบางคนมีเพียงบางพลัง ไม่เลย
ลูกทั้งหมดถูกเรียกว่าดวงวิญญาณเทพที่จะกลับมาเต็มไปด้วยทุกคุณธรรม
ทุกคนได้ชื่อว่าเป็นภาพลักษณ์แห่งคุณธรรม ทุกคนมีคลังสมบัติทั้งหมด
บางคนที่ศึกษาความรู้นี้มาเพียงเดือนเดียวก็พูดถึงสมบัติแห่งความรู้นี้เหมือนกับผู้ที่อยู่ในความรู้นี้มา
50 ปี หากลูกถูกบอกให้บรรยายเกี่ยวกับคุณธรรมแต่ละคุณธรรมหรือพลังแต่ละพลัง
ลูกสามารถให้การบรรยายที่ดีมาก
เป็นเพราะลูกมีสิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาที่ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้ ดังนั้นทุกคนมีสมบัติ
แต่อะไรคือความแตกต่าง?
นักธุรกิจอันดับหนึ่งใช้สมบัติทั้งหมดเพื่อตนเองโดยการไตร่ตรองเพื่อตนเอง
เขาจึงมีประสบการณ์ของอำนาจแห่งประสบการณ์นั้นแล้วจึงแบ่งปันประสบการณ์นั้นให้กับผู้อื่น
การใช้สมบัติหมายถึงการเพิ่มขึ้น ในด้านหนึ่งคือคนที่พูดถึงสมบัติ
แต่อีกด้านหนึ่งคือคนที่ไตร่ตรองสิ่งเหล่านั้น
เนื่องจากมีประสบการณ์ผู้ที่ไตร่ตรองจึงสามารถทำให้ผู้อื่นมีประสบการณ์ด้วย
ส่วนผู้ที่เพียงแต่พูดความรู้
พวกเขาก็ทำให้ผู้อื่นเป็นเพียงผู้ที่พูดความรู้เท่านั้น
พวกเขาเฝ้าแต่สรรเสริญสิ่งนี้แต่จะไม่มีประสบการณ์ พวกเขาเองจะไม่กลับมายิ่งใหญ่
แต่จะกลายเป็นเพียงผู้ร้องเพลงสรรเสริญเท่านั้น
ดังนั้นอันดับหนึ่งหมายถึงการมีประสบการณ์ในสมบัติด้วยพลังของการไตร่ตรองและทำให้ผู้อื่นมีประสบการณ์
นั่นคือเป็นผู้ที่ทำให้ผู้อื่นมั่งคั่งด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้สมบัติของพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและด้วยการใช้สมบัติเหล่านี้เพื่อตนเองและผู้อื่นตามเวลา
พวกเขาจึงเป็นตัวแห่งความสำเร็จอยู่เสมอ
ผู้ที่เพียงแต่พูดถึงคลังสมบัตินั้นไม่สามารถทำให้ผู้อื่นมั่งคั่งได้
และไม่สามารถใช้เวลา พลัง คุณธรรมหรือความรู้ที่เขาควรใช้เพื่อตนเองตามเวลา
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถสัมผัสกับความสุขของการเป็นตัวตนที่เต็มไปด้วยสมบัติทั้งหมดและพวกเขาไม่สามารถรู้สึกได้ว่าพวกเขาเองกำลังให้ในฐานะที่เป็นผู้ให้
ในขณะที่มีความมั่งคั่งพวกเขาก็ไม่สามารถสัมผัสกับความสุขของความมั่งคั่งนั้นได้
ในขณะที่มีพลังพวกเขาไม่สามารถจะได้รับความสำเร็จในเวลานั้นและด้วยพลังนั้น
ในขณะที่มีคุณธรรมพวกเขาไม่สามารถใช้คุณธรรมเหล่านั้นได้ในเวลาที่เหมาะสม
พวกเขาเพียงแต่พูดถึงสิ่งเหล่านั้นเท่านั้น ทุกคนมีความมั่งคั่ง
แต่ความสุขของความมั่งคั่งนั้นจะสัมผัสได้เมื่อใช้ในเวลาที่ถูกต้องเท่านั้น
ทุกวันนี้ผู้ที่มีสมบัติที่สูญสลาย- บ้างอยู่ในธนาคารของเขา
บ้างก็เก็บไว้ในตู้หรือบ้างก็เก็บอยู่ใต้ที่นอน
จะไม่ใช้มันเองและไม่อนุญาตให้คนอื่นใช้
สมบัติเหล่านั้นจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเองและจะไม่ให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น
ดังนั้นในขณะที่มีสมบัตินั้น พวกเขาไม่ได้รับความสุขจากสมบัติเหล่านั้นใช่หรือไม่?
มันจะยังคงอยู่ใต้หมอนของพวกเขาแล้วตัวพวกเขาเองก็จากไป
ดังนั้นเพียงแค่พูดถึงสมบัตินี้ก็หมายความว่าไม่ได้ใช้มัน
คนเช่นนั้นจะถูกมองว่าเป็นคนยากจนเสมอ
หากไม่ได้ใช้สมบัติเหล่านี้เพื่อตนเองหรือผู้อื่นในเวลาที่เหมาะสม
ถ้าเพียงแต่เก็บไว้ในสติปัญญา
ลูกก็จะไม่สามารถอยู่ในความซาบซึ้งและความสุขของสมบัติที่ไม่สูญสลายได้และลูกจะไม่สามารถให้กับผู้อื่นได้
แล้วลูกก็เคลื่อนต่อไปโดยวิธีการ “ฉันจะทำอะไรได้? ฉันจะทำมันได้อย่างไร?”
ด้วยเหตุนี้ลูกประคำทั้งสองจึงถูกสร้างขึ้น
มีทั้งผู้ที่ไตร่ตรองและผู้ที่พูดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ดังนั้นลูกเป็นนักธุรกิจไหน?
ผู้ที่เป็นอันดับหนึ่งหรืออันดับสอง? เงื่อนไขที่ให้สมบัติเหล่านี้คือ
ยิ่งลูกให้สมบัตินี้กับผู้อื่นและใช้สมบัตินี้ในงานมากแค่ไหน
สมบัตินี้ก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น นี่คือวิธีการขยายตัว
ในเรื่องนี้เนื่องจากการไม่ใช้วิธีการที่ถูกต้องจึงไม่มีความก้าวหน้าในตนเองหรือในการรับใช้ผู้อื่น
บาบาไม่ได้พูดถึงการเพิ่มจำนวน
แต่พูดถึงการเติบโตในการทำให้ผู้อื่นเพียบพร้อมสมบูรณ์
นักเรียนมากมายถูกนับเข้ามาภายในจำนวน แต่,แม้กระทั่งเวลานี้พวกเขายังคงพูดว่า “ฉันไม่เข้าใจว่าโยคะคืออะไร?”
หรือ “ฉันจะจดจำพ่อได้อย่างไร?” เวลานี้พวกเขาไม่มีพลังเช่นนั้น
พวกเขาอยู่ในแถวของนักเรียน ชื่อของพวกเขาอยู่ในทะเบียน
แต่พวกเขาไม่ได้กลับมามั่งคั่งใช่หรือไม่? พวกเขาก็จะถามต่อไป
บางครั้งพวกเขาไปหาครูของพวกเขาและขอความช่วยเหลือ
บางครั้งพวกเขามีการสนทนาจากใจถึงใจกับพ่อว่า “ช่วยลูกด้วย”
ดังนั้นพวกเขายังไม่เต็มเปี่ยมใช่หรือไม่?
ผู้ที่เพิ่มความมั่งคั่งของพวกเขาด้วยพลังของการไตร่ตรองนี้สามารถทำให้ผู้อื่นเพิ่มความมั่งคั่งของพวกเขาได้
พลังในการไตร่ตรองหมายถึงการเพิ่มความมั่งคั่ง
ดังนั้นจงประสบความสุขของการเป็นผู้ที่มั่งคั่ง สัมผัสกับความสุขของความมั่งคั่ง
ลูกเข้าใจไหม? พลังของการไตร่ตรองมีความสำคัญมาก ลูกได้รับสัญญาณเล็กน้อยแล้ว
บาบาจะบอกลูกเพิ่มเติมถึงความสำคัญของพลังในการไตร่ตรองในภายหลัง
บาบายังคงให้งานลูกเพื่อตรวจสอบตนเอง
บาบาไม่ต้องการให้ลูกพูดเมื่อผลได้ประกาศออกมาว่าลูกไม่รู้เรื่องนี้ที่บัพดาดาไม่ได้บอกลูกเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ด้วยเหตุนี้บาบายังคงบอกบางสิ่งบางอย่างกับลูกทุกวัน
การตรวจสอบหมายถึงการเปลี่ยนแปลง อัจชะ
ถึงดวงวิญญาณนักธุรกิจที่สูงส่งทั้งหมด
ถึงลูกที่มีสติปัญญาที่ใหญ่และกว้างไกลที่ใช้สมบัติทั้งหมดของพวกเขาในเวลาที่ถูกต้อง
ถึงลูกๆผู้มีอำนาจแห่งประสบการณ์และผู้มีประสบการณ์ว่าตนเองเต็มเปี่ยมและทำให้ผู้อื่นได้รับประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยม
ด้วยความรักระลึกถึงและนมัสเตจากบัพดาดาผู้ทรงอำนาจ
บัพดาดาพบกลุ่ม (โซนตะวันออก)
ดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก
ดังนั้นโซนตะวันออกหมายถึงดวงอาทิตย์แห่งความรู้ที่ขึ้นอยู่เสมอ
ผู้อยู่ในโซนตะวันออกหมายถึงผู้ที่นำดวงวิญญาณไปสู่ความสว่างด้วยแสงของพระอาทิตย์แห่งความรู้ผู้ที่ปัดเป่าความมืด
งานของพระอาทิตย์คือการจบสิ้นความมืด ดังนั้นลูกทั้งหมดคือนายพระอาทิตย์แห่งความรู้
นั่นคือลูกคือผู้ที่จบสิ้นความไม่รู้ในทุกหนแห่งใช่หรือไม่?
ลูกทั้งหมดยุ่งอยู่กับการทำงานรับใช้นี้ใช่ไหม?
หรือลูกติดกับอยู่ในความซับซ้อนของสถานการณ์ของลูกเองและสถานการณ์ของครอบครัวของลูก?
งานของพระอาทิตย์คือการอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการให้แสงสว่าง
ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัวหรือในความสัมพันธ์อื่นๆ
หรือเมื่อสถานการณ์ใดๆเกิดขึ้นเบื้องหน้าลูก
ลูกผู้เป็นพระอาทิตย์ไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานของการให้แสงสว่าง
ดังนั้นลูกคือเจ้าสุริยะแห่งความรู้หรือบางครั้งลูกจมอยู่กับปัญหาหรือไม่?
หน้าที่แรกคือการให้แสงสว่างแห่งความรู้
เมื่อลูกมีการตระหนักรู้ว่าด้วยความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ลูกต้องทำให้ดวงวิญญาณที่อยู่ในสายใยกับลูกและในครอบครัวของลูกสูงส่ง
แล้วงานรับใช้นี้จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ที่ใดที่ลูกทำทุกสิ่งในนามของพระเจ้า
ความสัมพันธ์ทั้งหมดจะประสบความสำเร็จและง่ายดาย
เมื่อลูกมีความรู้สึกว่าลูกกำลังทำทุกสิ่งในนามของพระเจ้าก็จะมีความเป็นหนึ่งเดียวกันและมีความรักที่แท้จริงสำหรับครอบครัวโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นครอบครัวจึงสูงส่งและการปฏิสัมพันธ์ของลูกกับครอบครัวก็สูงส่งด้วย
การทำบางสิ่งในนามของพระเจ้าไม่ได้ทำให้ลูกก้าวออกไปจากปฏิสัมพันธ์อื่นๆ
ด้วยการไม่ว่างเว้นในการทำบางสิ่งในนามของพระเจ้า
ลูกจะได้รับการค้ำจุนในทุกสิ่งที่ลูกทำเพื่อครอบครัวและในปฏิสัมพันธ์อื่นของลูก
ดังนั้นจงเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอโดยการทำทุกสิ่งในนามของพระเจ้า
พวกเขาแสดงให้เห็นดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ของผู้มาจากเนปาล ในบรรดาราชา
ราชาแห่งสุริยวงค์เป็นที่รู้จักกันดี พวกเขาได้รับการพิจารณาว่าสูงส่ง
ดังนั้นลูกก็เป็นนายของพระอาทิตย์แห่งความรู้ ผู้ให้แสงสว่างแก่ผู้อื่นเช่นกัน
อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกทำทุกการกระทำให้เป็นการกระทำที่พิเศษในยุคบรรจบพบกันและกลับมาสมบูรณ์พร้อมสิบหกองศาเต็ม
ยุคบรรจบพบกันเป็นยุคที่จะเปิดเผยความสามารถพิเศษของลูก
ทุกการกระทำและทุกคุณธรรมของผู้ที่ทุกการกระทำเป็นเหมือนความสามารถพิเศษได้รับการยกย่อง
ความสมบูรณ์พร้อมสิบหกองศาเต็มหมายถึงทุกกิจกรรมของลูกมองเห็นได้ว่าเป็นความสามารถพิเศษ:
นี่คือสิ่งบ่งชี้ของสภาพของความสมบูรณ์พร้อม
ในรูปสะคาร์ลูกได้เห็นคุณสมบัติพิเศษของบาบาในวิธีการพูดการเดิน ฯลฯของท่าน
ดังนั้นนั่นก็เป็นศิลปะเช่นกัน ศิลปะของการนั่งลงและการลุกขึ้น ศิลปะของการมองเห็น
ศิลปะของการเดิน มีเอกลักษณ์และความพิเศษในทุกสิ่ง
ดังนั้นจงทำตามพ่อในลักษณะเดียวกันและเต็มไปด้วยศิลปะทั้งสิบหกประการ
คติพจน์:
คนที่มีพลังคือคนที่แยกแยะบางสิ่งได้ในทันทีและตัดสินได้ในทันที