12.05.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน เวลานี้ลูกได้พบกับคนพายเรือที่จะพาลูกข้ามจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่ง
เท้าของลูกไม่ได้อยู่บนโลกเก่านี้อีกต่อไป สมอเรือของลูกได้ถูกยกขึ้นแล้ว
คำถาม:
เวทมนต์ที่มหัศจรรย์อะไรที่พ่อซึ่งเป็นนักมายากลได้ทำ ที่ไม่มีใครอื่นสามารถทำได้?
คำตอบ:
การเปลี่ยนดวงวิญญาณที่ไร้ค่าเหมือนเปลือกหอยให้เป็นผู้ที่มีค่าเช่นเพชร
ท่านได้กลายเป็นนายของสวนและเปลี่ยนหนามให้เป็นดอกไม้ นั่นคือเวทมนต์ที่มหัศจรรย์
มีเพียงพ่อผู้เป็นนักมายากลเท่านั้นที่แสดงเวทมนต์ที่มหัศจรรย์นี้
ไม่มีใครสามารถแสดงเวทมนต์นี้ได้ ผู้คนเรียกตนเองว่านักมายากลเพียงเพื่อหาเงิน
แต่ไม่มีใครสามารถแสดงเวทมนต์ได้เหมือนพ่อ
โอมชานติ
พ่อเข้ามาในวงจรโลกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในละคร ไม่มีใครในสัตซัง(ชุมนุม)อื่นจะคิดเช่นนี้
ในสถานที่เหล่านั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางศาสนาไม่ใช่พ่อของพวกเขาและพวกเขาก็ไม่ใช่ลูกของเขา
ในความเป็นจริงพวกเขาไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสาวก
ที่นี่ลูกเป็นลูกพร้อมกับเป็นนักเรียนและเป็นสาวกด้วย พ่อจะพาลูกๆ กลับไปกับพ่อ
เมื่อบาบาจากไป ลูกๆก็จะจากโลกที่สกปรกนี้ไปด้วยเช่นกัน
และไปสู่โลกใหม่ที่สวยงามและปกครองที่นั่น สิ่งนี้ควรเข้าไปในสติปัญญาของลูกๆ
ดวงวิญญาณอาศัยอยู่ในร่างกายนั้นมีความสุขมาก ลูกๆ ดวงวิญญาณควรจะมีความสุขอย่างมาก
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ซึ่งเป็นพ่อของทุกคนได้มาแล้ว เพียงลูกๆ
เท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้ คนอื่นๆ ในโลกไม่รู้คิด พ่อนั่งที่นี่และอธิบาย:
ราวันทำให้ลูกๆไม่รู้คิดมาก พ่อมาและทำให้ลูกรู้คิด
ท่านทำให้ลูกรู้คิดมากที่จะกลับมามีค่าควรแก่การปกครองทั้งโลก
เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พระเจ้ามาสอนลูกและลูกมีชีวิตนักเรียนนี้
สิ่งนี้จะอยู่ในสติปัญญาของลูกเท่านั้น
สิ่งนี้ไม่สามารถเข้าไปในสติปัญญาของผู้ที่ติดกับในธุรกิจของพวกเขา ฯลฯ
ที่พระเจ้าสอนพวกเขา พวกเขาจดจำธุรกิจของพวกเขาเท่านั้น ฯลฯ
ดังนั้นในเมื่อลูกๆรู้ว่าพระเจ้ากำลังสอนลูก ลูกควรจะมีความสดชื่นแจ่มใสมาก
คนอื่นๆทั้งหมดเป็นลูกของคนที่มีค่าเพียงไม่กี่สตางค์เท่านั้น
ที่นี่ลูกกลายเป็นลูกของพระเจ้า และดังนั้นลูกควรจะมีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด
ลูกบางคนก็คงอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสมาก ลูกบางคนพูดว่า: บาบา
เราไม่สามารถพูดความรู้ได้ สิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนั้นเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามการพูดความรู้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากมาก ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ผู้คนไปหาผู้รู้และผู้เคร่งศาสนา และถามว่าพวกเขาว่าจะสามารถพบพระเจ้าได้ออย่างไร
แต่ไม่มีใครรู้
พวกเขาเพียงแค่ส่งสัญญาณด้วยการชี้นิ้วขึ้นไปข้างบนเพื่อให้พวกเขาจดจำพระเจ้า
เท่านั้นเอง! พวกเขามีความสุขกับคำตอบนั้น ไม่มีใครในโลกที่รู้ว่าท่านเป็นใคร
ไม่มีใครรู้จักพ่อ ละครถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีนี้ แล้วลูกก็จะลืมอีกครั้ง
ในบรรดาลูกๆเช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักพ่อและสิ่งสร้าง
ในบางสถานที่พฤติกรรมของลูกๆก็เป็นเช่นนั้น อย่าได้ถามเลย! ความซาบซึ้งนั้นได้หายไป
เป็นราวกับว่าเท้าของลูกๆ ไม่ได้อยู่ในโลกเก่านี้อีกต่อไป
ลูกรู้ว่าเท้าของลูกได้ถูกยกขึ้นเหนือโลกยุคเหล็กแล้ว สมอเรือได้ถูกยกขึ้นมาแล้ว
เวลานี้เรากำลังจะจากไป มันอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าพ่อจะพาลูกไปที่ใด
เพราะพ่อคือคนพายเรือและเป็นนายของสวนดอกไม้เช่นกัน
ท่านมาและเปลี่ยนหนามให้เป็นดอกไม้
ไม่มีเจ้าของสวนดอกไม้ที่เป็นเช่นท่านที่สามารถเปลี่ยนหนามให้กลายเป็นดอกไม้ได้
ท่านเปลี่ยนดวงวิญญาณที่ไร้ค่าเหมือนเปลือกหอยให้เป็นผู้ที่มีคุณค่าเช่นเพชร
เวทมนต์นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ทุกวันนี้มีนักมายากลมากมาย นี่คือโลกของการโกง
พ่อคือสัตกูรู พวกเขาพูดถึงสัตกูรู, ผู้ที่เป็นอมตะ
พวกเขาพูดด้วยความซาบซึ้งอย่างมาก
ในเมื่อพวกเขาเองพูดว่าสัตกูรูคือผู้เดียวเท่านั้น
ผู้ประทานการหลุดพ้นสำหรับทุกคนคือผู้เดียวเท่านั้น
แล้วเหตุใดพวกเขาจึงเรียกตนเองว่ากูรู?
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดและผู้คนที่เชื่อในพวกเขาก็ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
มีอะไรในโลกเก่า? ในเมื่อลูกๆ รู้ว่าบาบากำลังสร้างบ้านใหม่ให้กับลูก
แล้วใครที่จะไม่ชอบบ้านใหม่และยังคงรักบ้านเก่า?
สติปัญญาของเราควรจะจดจำบ้านใหม่เท่านั้น
เวลานี้ลูกกลายเป็นลูกของพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
และดังนั้นลูกจึงควรตระหนักว่าพ่อกำลังสร้างโลกใหม่เพื่อลูกและลูกกำลังจะไปสู่โลกใหม่นั้น
โลกใหม่นั้นมีหลายชื่อ: ยุคทอง สวรรค์ ดินแดนสุขาวดี ไวกุณฑ์ ฯลฯ
สติปัญญาของลูกได้ออกจากโลกเก่านี้ เพราะไม่มีสิ่งใดนอกความทุกข์ที่นี่
โลกเก่านี้ชื่อว่าอะไร? ชื่อว่านรก ป่าหนาม ก้นบึ้งของนรกที่ลึกที่สุด
ดินแดนของคันส์ (ปีศาจ)
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของมันเพราะสติปัญญาของทุกคนนั้นเป็นหิน ดูสภาพของบารัต!
พ่อพูดว่า: ในเวลานี้ทุกคนมีสติปัญญาเป็นหิน ในยุคทองสติปัญญาของทุกคนสูงส่ง
ผู้ปกครองเป็นเช่นไรปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น ที่นี่เป็นการปกครองประชาชนโดยประชาชน
เหตุนี้เองจึงมีการทำตราประทับของทุกคน
ดังนั้นสติปัญญาของลูกต้องจดจำว่าสูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อ
ใครเป็นผู้สูงสุดอันดับสอง? บราห์มา,วิษณุและชังการ์ไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นเช่นนี้
เพียงแค่ดูเครื่องแต่งกายที่พวกเขาวาดให้ชังการ์!
พวกเขาพูดว่าชังการ์เคยดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาและทานดอกไม้ที่มีรสขม
ทั้งหมดนั่นคือการดูถูกดูหมิ่นเขา สิ่งเหล่านั้นไม่ได้มีอยู่ที่นั่น
ผู้คนทั้งหมดเหล่านั้นได้ลืมศาสนาของตนเอง
เพียงแค่ดูสิ่งที่พวกเขาพูดเกี่ยวกับเหล่าเทพของพวกเขา!
พวกเขาไม่เคารพต่อเทพของพวกเขาอย่างมาก ดังนั้นพ่อพูดว่า: พวกเขาได้ประณามพ่อ
ประณามชังการ์และบราห์มาด้วยเช่นกัน วิษณุไม่ได้ถูกประณาม
อย่างไรก็ตามพวกเขาประณามวิษณุในวิธีที่แฝงตัวเพราะวิษณุคือราเด้และกฤษณะเช่นกัน
กฤษณะเป็นเด็กทารกและถือว่าสูงส่งยิ่งกว่าดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่
บราห์มานี้ได้สละละทิ้งทุกสิ่งเมื่อเขาแก่ชรา
ในขณะที่เด็กทารกนั้นถึงอย่างไรก็บริสุทธิ์และไร้เดียงสา เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบาป
สูงสุดเหนือสิ่งใดคือชีพบาบา
ถึงอย่างนั้นคนที่น่าสงสารเหล่านั้นก็ไม่รู้ว่าประชาบิดาบราห์มาอยู่ที่ไหน?
ประชาบิดาบราห์มาถูกแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีร่างกาย มีวัดให้แก่ท่านในอัจเมอร์
รูปของบราห์มาถูกแสดงว่ามีเคราและหนวด
ซึ่งชังการ์และวิษณุไม่ได้มีการแสดงในลักษณะเช่นนั้น
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของความเข้าใจ
บราห์มาพ่อของมวลมนุษย์จะอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนเช่นนั้นได้อย่างไร?
ท่านต้องลงมาที่นี่ มีลูกๆ ของบราห์มามากมายในเวลานี้
มีการเขียนไว้ว่ามีบราห์มากุมารและบราห์มากุมารีมากมาย
ดังนั้นจะต้องมีประชาบิดาบราห์มาอย่างแน่นอน เนื่องจากท่านมีชีวิต
ท่านต้องทำบางสิ่งบางอย่างอย่างแน่นอน
ประชาบิดาบราห์มาเพียงแค่สร้างลูกๆหรือท่านจะทำสิ่งอื่นด้วย?
แม้ว่าอดิเทพบราห์มาและอดิเทวีสรัสวตีจะได้รับการกล่าวถึง
แต่ไม่มีใครรู้ว่าบทบาทของพวกเขาคืออะไร เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้สร้าง
พวกเขาต้องอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน ชีพบาบาต้องได้นำบราห์มินมาเลี้ยงดูอย่างแน่นอน
บราห์มาจะมาจากที่อื่นใดไหม? นี่คือประเด็นใหม่
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งนี้จนกระทั่งพ่อมาและอธิบาย ไม่ว่าบทบาทของใครจะเป็นเช่นไร
บทบาทก็จะแสดงโดยบุคคลนั้น พระพุทธเจ้าเล่นบทบาทอะไร?
ท่านมาเมื่อไหร่และทำอะไรเมื่อท่านมา? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
ลูกรู้หรือไม่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นกูรู หรือเป็นครูหรือเป็นพ่อ? ไม่เลย
พระพุทธเจ้าไม่สามารถให้การหลุดพ้นแก่ใคร ท่านเป็นเพียงผู้สร้างศาสนาพุทธ
ท่านไม่ใช่กูรู พ่อสร้างลูกๆแล้วพ่อก็สอนลูกๆ พ่อเป็นทั้งสามคือพ่อ,ครูและกูรู
พ่อไม่ได้ขอให้คนอื่นมาสอนลูก ไม่มีใครมีความรู้นี้
เพียงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเท่านั้นที่เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้และดังนั้นท่านจะให้ความรู้แก่เราอย่างแน่นอน
เพียงพ่อเท่านั้นที่ให้โชคของอาณาจักรแห่งสวรรค์แก่เราและเวลานี้ท่านกำลังให้สิ่งนั้นแก่เราอีกครั้ง
พ่อพูดว่า: ลูกมาและพ่ออีกครั้งหนึ่งหลังจาก 5000 ปี ลูกๆ
ควรมีความสุขอยู่ภายในว่าเวลานี้ลูกได้พบผู้เดียวที่ทุกคนในโลกยังคงแสวงหา
บาบาพูดว่า: ลูกๆ เวลานี้ลูกได้มาพบพ่ออีกครั้งหลังจาก 5000 ปี ลูกๆ ตอบว่า: ใช่
บาบา เราได้พบท่านหลายครั้งนับไม่ถ้วนมาก่อน ไม่ว่าใครจะทุบตีลูกสักแค่ไหน
ให้มีความสุขนี้อยู่ภายในตัวลูก
อย่างน้อยลูกก็สามารถจำได้ว่าลูกได้พบกับชีพบาบาแล้ว
ด้วยการจดจำระลึกถึงท่านเท่านั้นที่บาปของลูกจะถูกตัดออกไป
บาปของผู้ที่ไร้เดียงสาผู้ที่อยู่ในบ่วงพันธะถูกตัดออกไปเพราะพวกเขาจดจำชีพบาบามากขึ้น
เมื่อพวกเขาถูกทำร้าย, สติปัญญาของพวกเขาก็จะไปหาชีพบาบา “ชีพบาบาปกป้องฉันด้วย!”
ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะจดจำท่าน หากลูกถูกทุบตีทุกวัน,
อย่างน้อยลูกก็จะจดจำชีพบาบา และนั่นคือการกระทำที่ให้คุณประโยชน์
ดังนั้นลูกควรจะขอบคุณสำหรับการทุบตีเช่นนั้น เพราะเมื่อลูกถูกทุบตี
อย่างน้อยลูกก็ได้จดจำชีพบาบา! มีคำกล่าวว่า:
ในช่วงเวลาของความตายเราควรจะอยู่บนฝั่งแม่น้ำคงคาและให้มีน้ำของแม่น้ำคงคาอยู่บนริมฝีปาก
ดังนั้นในช่วงเวลาของการถูกทุบตี ให้มีการจดจำอัลฟ่าและเบต้าในสติปัญญา เท่านั้นเอง!
ด้วยการพูดว่า “บาบา” ลูกจะจดจำมรดกของลูกอย่างแน่นอน
ไม่มีใครที่ไม่จดจำมรดรของเขาเมื่อเขาพูดว่า“บาบา” พร้อมกับการจดจำพ่อของใครบางคน
บุคคลนั้นก็จะจดจำทรัพย์สมบัติของพ่อของเขาอย่างแน่นอน
พร้อมกับชีพบาบาลูกก็จดจำมรดกด้วยเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะทุบตีลูกด้วยกิเลส
พวกเขาก็ทำให้ลูกจดจำชีพบาบา
ดังนั้นลูกจะได้รับมรดกของลูกจากพ่อและบาปของลูกก็จะถูกตัดออกไปเช่นกัน
นี่คือคุณประโยชน์ที่แฝงตัวสำหรับลูกในละคร เช่นที่มีคำกล่าวว่ามีประโยชน์ในสงคราม
ในทำนองเดียวกันมีประโยชน์ในการทุบตีนี้เช่นกัน
เวลานี้ลูกๆกำลังให้ความใส่ใจอย่างมากกับงานรับใช้ในงานนิทรรศการและงานออกร้าน
พร้อมกับนิทรรศการ “สิ่งสร้างของโลกใหม่” ให้เขียนเช่นกันว่า: “ประตูสู่สวรรค์”
ควรมีข้อความทั้งสองนี้
เมื่อผู้คนได้ยินว่ามีนิทรรศการเกี่ยวกับการก่อตั้งโลกใหม่เกิดขึ้นได้อย่างไร
พวกเขาจะมีความสุขมาก
รูปภาพเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ลูกอธิบายว่าโลกใหม่กำลังมีการก่อตั้งขึ้นอย่างไร
“มาและดูสิ่งเหล่านั้น” คำว่า “ประตูสู่โลกใหม่” ก็ดีมากเช่นกัน
ประตูเหล่านั้นเปิดโดยผ่านสงครามที่จะเกิดขึ้น ในกีตะมีคำกล่าวว่า
พระเจ้ามาและสอนราชาโยคะ ท่านเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
ดังนั้นโลกใหม่จะต้องได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยท่านอย่างแน่นอน
ผู้คนทำความเพียรพยายามอย่างมากที่จะไปยังดวงจันทร์
พวกเขาสามารถเห็นได้ว่าไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากผืนดินที่นั่น
ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะเห็นได้ที่นั่น พวกเขาสามารถบอกลูกได้เพียงเท่านี้
ประโยชน์ของสิ่งนั้นคืออะไร? เวลานี้ลูกกำลังจะไปสู่ความเงียบสงบที่แท้จริง
ลูกกลับมาปราศจากร่าง นั่นคือโลกแห่งความเงียบสงบ ลูกต้องการที่จะตาย
ลูกต้องการที่จะสละร่างกายของลูก ลูกร้องเรียกหาพ่อเพื่อความตาย
ลูกร้องเรียกหาท่านเพื่อพาลูกไปกับท่านสู่การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
อย่างไรก็ตามผู้คนไม่เข้าใจว่าพวกเขาได้เชื้อเชิญผู้ชำระให้บริสุทธิ์ให้มาเมื่อใด
ดูเหมือนราวกับว่าพวกเขากำลังเชื้อเชิญความตายเหนือความตายทั้งหมดให้มา
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าบาบาได้มาแล้ว ท่านพูดว่า: มาสิ, เวลานี้ให้เรากลับบ้านกันเถอะ
ดังนั้นเวลานี้พวกเรากำลังจะกลับบ้าน สติปัญญายังคงทำงานต่อไป
มีลูกบางคนที่นี่ที่สติปัญญาของพวกเขาวิ่งไปที่ธุรกิจ ฯลฯ หรือผู้นั้นผู้นี้ล้มป่วย
หรือพวกเขาสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา มีความคิดมากมายหลายแบบ พ่อพูดว่า:
ในขณะที่ลูกนั่งอยู่ที่นี่ สติปัญญาของลูกดวงวิญญาณไปหาพ่อและมรดก
มันคือดวงวิญญาณที่จดจำ ยกอย่างเช่น
เมื่อพ่อได้รับข่าวว่าลูกที่อยู่ในลอนดอนไม่สบาย
สติปัญญาของเขาก็จะไปที่นั่นอย่างรวดเร็วมาก
แล้วความรู้นี้ก็จะไม่อยู่ในสติปัญญาของเขา ในขณะที่กำลังนั่งที่นี่
สติปัญญาของเขาก็จะเฝ้าแต่จดจำลูกของเขา เมื่อสามีของผู้หญิงล้มป่วย
เธอก็จะมีความปั่นป่วนภายใน สติปัญญาของเธอก็จะหันเหไปที่นั่น
ลูกต้องเฝ้าแต่จดจำชีพบาบาในขณะที่กำลังนั่งที่นี่ หรือลูกกำลังทำสิ่งใดอยู่ก็ตาม
นี่ก็เป็นโชคที่ยิ่งใหญ่ของลูกเช่นกัน เช่นที่พวกเขาจดจำสามีหรือกูรูของพวกเขา
ดังนั้นลูกต้องจดจำพ่อ อย่าได้เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว!
ยิ่งลูกจดจำพ่อได้มากเท่าไหร่
ลูกก็จะสามารถจดจำพ่อได้มากเท่านั้นในขณะที่ทำงานรับใช้ พ่อได้กล่าวไว้ว่า:
อธิบายแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาของพ่อ ใครที่พูดสิ่งนี้? ชีพบาบา
ลูกจะอธิบายอะไรต่อผู้เลื่อมใสศรัทธาของกฤษณะ?
พวกเขาจะเชื่อลูกหรือไม่ถ้าลูกบอกพวกเขาว่ากฤษณะกำลังจะสร้างโลกใหม่?
พระเจ้าผู้เป็นพ่อที่เป็นผู้สร้างไม่ใช่กฤษณะ
พวกเขาจะยอมรับสิ่งนั้นเมื่อลูกบอกพวกเขาว่า พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดเป็นผู้ที่ทำให้โลกเก่านั้นใหม่
โลกใหม่กลับมาเก่าแล้วโลกเก่าจะกลับมาใหม่
อย่างไรก็ตามเนื่องจากสิ่งนี้ใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน ผู้คนจึงอยู่ในความมืดสนิท
ท่านกำลังนำมอบสวรรค์บนฝ่ามือของท่านให้แก่ลูก พ่อพูดว่า:
พ่อมาเพื่อทำให้ลูกกลายเป็นนายของสวรรค์นั้น ลูกจะกลายเป็นสิ่งนั้นไหม? ยอดเยี่ยม!
ทำไมเราไม่กลายเป็นเช่นนั้นล่ะ? อัจชะ จดจำพ่อและกลับมาบริสุทธิ์!
ด้วยการจดจำระลึกถึงนี้เท่านั้นที่บาปของลูกจะถูกเผาทิ้งไป
ลูกๆรู้ว่าภาระของบาปอยู่ในดวงวิญญาณและไม่ใช่ร่างกาย หากภาระนั้นอยู่ในร่างกายแล้ว
ดังนั้นเมื่อร่างกายถูกเผา บาปก็จะถูกเผาเช่นกัน ดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลาย
เป็นเพียงว่าอัลลอยที่ถูกปะปนเข้าไปในดวงวิญญาณ
พ่อได้แสดงให้ลูกเห็นวิธีเดียวที่จะขจัดอัลลอยออกไป: จดจำพ่อ!
วิธีที่จะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์นั้นดีมาก
ผู้ที่สร้างวัดและกราบไหว้บูชาชีวาคือผู้เลื่อมใสศรัทธา
ผู้กราบไหว้บูชาไม่สามารถเรียกว่าผู้มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา อัจชะ
ถึง ลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จาก
แม่ พ่อ บัพดาดา
พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เวลานี้เราได้พบกับบาบาผู้ที่คนทั้งโลกยังคงแสวงหาท่าน คงอยู่ในความสุขนี้!
โดยมีการจดจำระลึกถึงนี้เท่านั้นที่บาปของลูกจะถูกตัดไป
ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร จดจำพ่อและมรดก
อย่าได้สูญเสียเวลาของลูกแม้แต่หนึ่งนาที
2.
นำสมอเรือของสติปัญญาของลูกออกไปจากโลกเก่านี้
เวลานี้บาบากำลังสร้างบ้านใหม่สำหรับเรา
คงอยู่ในสำนึกรู้เสมอว่าโลกนี้คือก้นบึ้งของนรกที่ลึกที่สุด, ดินแดนของคันส์ (ปีศาจ)
และเวลานี้เรากำลังไปยังสรวงสวรรค์
พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิต
และให้นิมิตของรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูกขณะที่ลูกเดินเหินและเคลื่อนไหวไปมารอบ ๆ
ในตอนแรกเมื่อบราห์มาเดินเหินและเคลื่อนไหวไปมารอบ ๆ ท่านก็จะหายไปและจะเห็นกฤษณะ
ภาพนิมิตที่เห็นนี้ทำให้พวกเขาละทิ้งทุกสิ่ง
ดังนั้นเวลานี้จงทำให้งานรับใช้เกิดขึ้นด้วยนิมิตเช่นนั้น
เมื่อพวกเขาได้มาซึ่งบางสิ่งจากการมองเห็นภาพนิมิตพวกเขาจะไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่ได้กลายเป็นเช่นนั้น
และเหตุนี้เองเวลานี้ลูกต้องให้นิมิตของการเดินเหินและการเคลื่อนไหวไปมาของลูกในรูปที่เป็นเทวดานางฟ้า
มีคนมากมายที่เป็นผู้ให้คำบรรยาย (bhasan) แต่ลูกต้องกลายเป็นคนที่ให้ประสบการณ์ (bhaasna)
ผู้คนจะรู้สึกว่าลูกเป็นผู้ที่เป็นของพระเจ้า
คติพจน์:
สัมผัสกับความสุขทางจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอและลูกจะไม่สับสน