16.05.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน เวลานี้วงจรละครโลกนี้กำลังจะจบสิ้นลงแล้ว
ดังนั้นเพื่อที่จะไปสู่โลกใหม่ลูกต้องกลายเป็นเหมือนน้ำนมและน้ำตาล
ทุกคนที่นั่นเหมือนน้ำนมและน้ำตาลในขณะที่ทุกคนที่นี่เป็นเหมือนน้ำเกลือ
คำถาม:
ด้วยการรู้เกี่ยวกับความรู้ใดซึ่งลูกแต่ละคนมีดวงตาที่สามแห่งความรู้ได้กลายเป็นผู้ที่ล่วงรู้รูปกาลเวลาทั้งสาม?
คำตอบ:
เวลานี้ลูกได้รับความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของทั้งโลก
ลูกรู้ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ตั้งแต่ตอนต้นยุคทองจนถึงตอนปลายยุคเหล็ก
ลูกแต่ละคนได้รับดวงตาที่สามของความรู้ ดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและได้รับอีกร่างหนึ่ง
ซันสการ์อยู่ในแต่ละดวงวิญญาณ พ่อพูดว่า: ลูกๆเวลานี้จงละวางจากรูปและนาม
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง
เพลง:
มีความอดกลั้นเถิด โอ้ มนุษย์! วันเวลาของความสุขของลูกนั้นกำลังจะมาถึง…
โอมชานติ
สิ่งนี้พูดกับลูกทุกๆวงจร ลูกๆ รู้สิ่งนี้เช่นกัน
ความปรารถนาในหัวใจของลูกคือยุคทองที่จะมาถึงในไม่ช้าเพื่อที่ลูกจะสามารถได้รับการปลดปล่อยจากโลกแห่งความทุกข์นี้
อย่างไรก็ตามละครก็เคลื่อนไปช้ามาก พ่อบอกลูกให้มีความอดกลั้น:
เหลือเพียงอีกไม่กี่วัน
เสียงนั้นก็มาจากผู้มีชื่อเสียงด้วยเช่นกันว่าโลกนี้ต้องเปลี่ยน
ผู้นำทั้งหมดยกตัวอย่างเช่นพระสันตะปาปาฯลฯ บอกว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลง อัจชะ
แล้วจะมีความสงบได้อย่างไร? ในปัจจุบันทุกคนเป็นเหมือนน้ำเกลือ
ที่นี่กำลังกลายเป็นเหมือนน้ำนมและน้ำตาล
ในขณะที่คนในอีกด้านหนึ่งกำลังกลายเป็นเหมือนน้ำเกลือมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาทั้งหมดจะต่อสู้กันเองและจบสิ้นกันและกัน
การเตรียมการทั้งหมดทำขึ้นเพื่อสิ่งนั้น วงจรของละครกำลังจบสิ้นลงในเวลานี้
โลกเก่ากำลังจะจบสิ้นและโลกใหม่กำลังมีการสร้างขึ้น
โลกใหม่กลับมาเก่าและแล้วโลกเก่าก็ถูกทำให้ใหม่อีกครั้ง
สิ่งนี้เรียกว่าวงจรโลกและยังคงหมุนต่อไปเรื่อยๆ
ไม่ใช่ว่าโลกเก่านั้นจะกลับมาใหม่หลังจากหลายแสนปี ไม่เลย
ลูกๆรู้อย่างชัดเจนมากว่าความเลื่อมใสศรัทธานั้นแยกจากความรู้โดยสิ้นเชิง
ความเลื่อมใสศรัทธาเชื่อมโยงกับราวันและความรู้เชื่อมโยงกับราม
เวลานี้ลูกเข้าใจสิ่งนี้ ลูกเรียกหาพ่อและสวดมนต์อธิฐาน: โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ได้โปรดมา! มาและสร้างโลกใหม่ มีความสุขในโลกใหม่อย่างแน่นอน
ลูกที่เป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่รู้ว่าเวลานี้เราต้องกลับบ้านแล้ว
เวลานี้ละครนี้จบสิ้นลง
อีกครั้งหนึ่งที่พวกเราจะต้องไปสู่ยุคทองและแล้วก็วนไปรอบวงจรของ 84 ชาติเกิด
พวกเราดวงวิญญาณได้ตระหนักรู้ในตนเองแล้ว
พวกเราดวงวิญญาณมีดวงตาที่สามของความรู้ซึ่งหมายความว่าพวกเรารู้วงจรโลก
สิ่งนี้เรียกว่าเป็นผู้ที่มีตรีเนตร เวลานี้ลูกมีดวงตาที่สามในขณะที่มนุษย์อื่นๆ
ทั้งหมดมีเพียงดวงตาทางร่างกาย ไม่มีใครในบรรดาพวกเขามีดวงตาแห่งความรู้
เมื่อพวกเขาแต่ละคนมีดวงตาที่สามซึ่งดวงวิญญาณได้รับความรู้พวกเขาก็สามารถเป็นผู้ล่วงรู้รูปกาลเวลาทั้งสาม
เป็นดวงวิญญาณที่ละร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง ซันสการ์นั้นอยู่ในดวงวิญญาณ
ดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลาย เวลานี้พ่อพูดว่า: จงละวางจากรูปและนาม
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง อย่าได้คิดว่าตนเองเป็นร่างกาย
ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่าลูกเคยจดจำดวงวิญญาณสูงสุดมาแล้วเป็นเวลาครึ่งวงจรและลูกจดจำท่านมากยิ่งขึ้นเมื่อลูกมีความทุกข์มากมาย
เวลานี้มีความทุกข์มากมาย ก่อนหน้านี้ไม่มีความทุกข์มากนัก
ราชาเหล่านั้นก็เริ่มต้นต่อสู้กันเมื่อบุคคลภายนอกมา พวกเขาได้กลับมาแตกแยก
ในยุคทองมีอาณาจักรเดียวเท่านั้น
เวลานี้เราเข้าใจประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นยุคทองจนถึงตอนสิ้นสุดของยุคเหล็ก
มีอาณาจักรเดียวเท่านั้นในยุคทองและยุคเงิน
ไม่เช่นนั้นโดยทั่วไปจะไม่ได้มีเพียงราชวงศ์เดียว แค่ดูชาวคริสเตียน
พวกเขาทั้งหมดนั้นแตกแยกกัน ที่นั่นในยุคทองทั้งโลกอยู่ในมือของเพียงคนเดียว
สิ่งนั้นมีอยู่ในยุคทองและยุคเงินเท่านั้น
ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่ไม่มีขีดจำกัดอยู่ในสติปัญญาของลูกแล้วในเวลานี้
ลูกจะไม่ได้ยินคำว่า“ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์”ใน(สัตซัง)ชุมนุมทางจิตอื่นๆ
ที่นั่นลูกได้ยินเพียงรามายาณะและมหาภารตะเท่านั้น สิ่งเหล่านั้นไม่ได้คงอยู่ที่นี่
ที่นี่ลูกมีประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลก
มันมีอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าสูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อของลูก
เป็นการขอบคุณพ่อผู้พูดความรู้ทั้งหมดนี้
ต้นไม้หนึ่งนั้นเป็นของดวงวิญญาณและอีกหนึ่งเป็นของมนุษย์
ใครที่แสดงให้เห็นว่ากำลังยืนอยู่ที่ยอดสุดของต้นไม้ของมนุษย์?
เพียงบราห์มาเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นปู่ของปู่ของปู่ ลูกรู้ว่าบราห์มาเป็นคนหลัก
แต่ไม่มีใครรู้ถึงประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของบราห์มา
เวลานี้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าพ่อที่สูงสุดเหนือสิ่งใดอยู่ในอาณาเขตสูงสุด
ลูกรู้เกี่ยวกับอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนด้วยเช่นกัน
ลูกผู้เป็นมนุษย์ทั้งหลายจะเปลี่ยนเป็นเทวดานางฟ้า
เหตุนี้เองจึงได้มีการแสดงอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนไว้ ลูกดวงวิญญาณไปที่นั่น
ร่างดสบของลูกจะไม่ไปยังอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ลูกจะไปที่นั่นได้อย่างไร?
กล่าวกันว่าด้วยดวงตาที่สาม สิ่งนั้นเรียกว่าเทพนิมิตหรือการเข้าฌานด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกเข้าฌานลูกจะเห็นบราห์มา วิษณุ และชังการ์
ผู้คนได้แสดงให้เห็นถึงการทำลายล้างเมื่อดวงตาของชังการ์เปิด
ไม่มีใครสามารถเข้าใจอะไรได้จากสิ่งนั้น
ลูกรู้ว่าตามละครการทำลายล้างจะต้องเกิดขึ้น
ผู้คนจะต่อสู้กันเองและการทำลายล้างจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามชังการ์ทำอะไร?
ชื่อของเขาเป็นที่กล่าวถึงตามละครเท่านั้น ดังนั้นลูกต้องอธิบายว่ามีทั้งสาม:
บราห์มา,วิษณุและชังการ์ ได้มีการแสดงบราห์มาเพื่อการสร้าง วิษณุเพื่อการหล่อเลี้ยง
และชังการ์เพื่อการทำลายล้าง ในความเป็นจริงละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้วล่วงหน้า
ชังการ์ไม่มีบทบาทในการเล่น บทบาทที่บราห์มาและวิษณุเล่นนั้นคงอยู่ตลอดทั้งวงจร
บราห์มากลายเป็นวิษณุและวิษณุกลายเป็นบราห์มา 84
ชาติเกิดของบราห์มานั้นได้จบสิ้นลงแล้วดังนั้น 84
ชาติเกิดของวิษณุก็จบสิ้นลงด้วยเช่นกัน ชังการ์อยู่เหนือการเกิดและการตาย
เหตุนี้เองพวกเขาจึงรวมชีวากับชังการ์ ในความเป็นจริงชีวามีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ท่านสอนลูก พระเจ้านั้นเรียกว่าผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้
หากท่านต้องทำงานของท่านด้วยการดลใจท่านจะให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรโลกแก่เราได้อย่างไร?
เหตุนี้เองพ่อจึงอธิบาย: ลูกๆ ไม่มีเรื่องของการดลใจ พ่อต้องมาที่นี่ พ่อพูดว่า:
ลูกๆ พ่อมีความรู้ของวงจรโลก พ่อได้รับบทบาทนี้เพื่อเล่น
เหตุนี้เองพ่อจึงเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ ผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้
ต่อเมื่อลูกได้รับความรู้ที่ลูกสามารถรู้ว่าความรู้คืออะไร
หากลูกยังไม่ได้รับความรู้ลูกจะรู้ความหมายของความรู้ได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ลูกเคยพูดเช่นกันว่าพระเจ้าให้การดลใจและท่านรู้ทุกสิ่งและพระเจ้าเห็นบาปใดก็ตามที่เราได้กระทำ
บาบาพูดว่า: พ่อไม่ได้ทำธุรกิจนั้น ไม่ว่าลูกแต่ละคนจะทำการกระทำใด
ตัวลูกเองต้องสัมผัสกับการลงโทษสำหรับการกระทำเหล่านั้น พ่อไม่ได้ให้การลงโทษกับใคร
พ่อไม่ได้ดูใครและก็ไม่ได้ลงโทษด้วยการดลใจ
หากพ่อได้ทำสิ่งใดด้วยการดลใจก็จะเป็นราวกับว่าพ่อได้ให้การลงโทษ
หากพ่อนั้นบอกใครบางคนให้ไปฆ่าคนอื่นพ่อก็จะถูกตำหนิ
ผู้ที่บอกคนอื่นก็จะถูกจับขังด้วยเช่นกัน หากชังการ์ให้แรงบันดาลใจ
เขาเองก็จะถูกขังเช่นกัน พ่อพูดว่า: พ่อให้ความสุขแก่ลูกๆ ลูกยกย่องพ่อ
ลูกร้องเพลง: บาบา ได้โปรดมาและขจัดความทุกข์ของเราออกไป
พ่อไม่ได้เป็นเหตุที่ทำให้ลูกมีความทุกข์ใดๆ
เวลานี้ลูกกำลังนั่งเบื้องหน้าพ่อเป็นการส่วนตัว ดังนั้นลูกควรมีความสุขอย่างมาก
ลูกได้รับความรู้สึกโดยตรงที่นี่ว่าบาบากำลังสอนพวกเราเป็นการส่วนตัว
สิ่งนี้เรียกว่าการพบปะทางจิต(เมล่า)
ลูกไปที่ศูนย์แต่ลูกจะไม่เรียกว่าเป็นการพบปะของดวงวิญญาณกับดวงวิญญาณสูงสุด
การพบปะของดวงวิญญาณกับดวงวิญญาณสูงสุดเกิดขึ้นที่นี่ เพียงลูกๆ
เท่านั้นที่รู้ว่าการพบปะเกิดขึ้นในเวลานี้ พ่อมาท่ามกลางลูกๆของพ่อ
ดวงวิญญาณทั้งหมดอยู่ที่นี่ เป็นดวงวิญญาณที่จดจำพ่อและขอให้ท่านมา
นี่คือการพบปะที่ดีที่สุด พ่อมาและปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหมดจากอาณาจักรของราวัน
ดังนั้นนี่เป็นการพบปะที่ดีใช่ไหม?
เป็นการพบปะที่จะทำให้มนุษย์กลายเป็นผู้ที่มีเทพปัญญา มนุษย์กลับมาสกปรกในเมล่า
(งานออกร้านแสดงสินค้า) พวกเขาไม่ได้รับอะไรเลย เพียงแค่เสียเงินของเขาต่อไป
เหล่านั้นเรียกว่าเมล่าปีศาจของมายา นี่คือเมล่าของพระเจ้า
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน
ลูกเคยเป็นของเมล่าปีศาจแต่เวลานี้ลูกเป็นของเมล่าของพระเจ้า
ลูกรู้เช่นกันว่าบาบาได้มาแล้ว ถ้าทุกคนรู้เรื่องนี้
ไม่มีใครบอกได้เลยว่าฝูงชนจะมากมายเพียงใด
บาบาจะได้รับอาคารมากมายจากที่ไหนเพื่อให้ผู้คนอยู่อาศัย?
มีการจดจำกันว่าผู้คนร้องเพลงในเวลาสุดท้าย: โอ้พระเจ้า!
การละเล่นของท่านนั้นมหัศจรรย์มาก! การละเล่นใด? การละเล่นของการเปลี่ยนแปลงโลก
นี่คือการละเล่นที่มหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ก่อนที่โลกเก่าจะถูกทำลายโลกใหม่จะต้องได้รับการก่อตั้งขึ้น
ดังนั้นเมื่อลูกอธิบายให้กับใครก็ตามก่อนอื่นใดต้องพูดถึงการก่อตั้งเสมอและจึงพูดถึงการทำลายล้างและการบำรุงรักษา
เมื่อการก่อตั้งเสร็จสิ้นการทำลายล้างจะเริ่มขึ้นและจากนั้นการบำรุงรักษาก็จะเกิดขึ้น
ดังนั้นลูกๆ
มีความสุขที่ลูกคือบราห์มินผู้ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองแล้วลูกก็กลายเป็นผู้ปกครองโลก
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอาณาจักรของเหล่าเทพ
ชื่อและร่องรอยทั้งหมดของสิ่งนั้นได้สูญหายไป
แทนที่จะเรียกตนเองว่าเทพพวกเขาเรียกตัวเองว่าฮินดู
ผู้ที่อยู่ที่ฮินดูสถานก็เรียกว่าฮินดู ลักษมีและนารายณ์จะไม่ถูกเรียกเช่นนั้น
พวกเขาเรียกว่าเทพ ดังนั้นลูกมาเมล่านี้ตามละคร สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร
การขยายตัวจะค่อยๆเกิดขึ้นทีละน้อย
ไม่ว่าลูกจะเล่นบทบาทไหนในเวลานี้ลูกจะเล่นบทบาทนั้นในวงจรถัดไป
วงจรนี้ยังคงหมุนต่อไป ลูกได้รับการหล่อเลี้ยงที่เป็นเช่นปีศาจในอาณาจักรของราวัน
เวลานี้ลูกเป็นลูกของพระเจ้า ลูกจะกลายเป็นลูกของเทพ จากนั้นก็เป็นลูกของนักรบ
ลูกกลายเป็นส่วนหนึ่งของหนทางครอบครัวที่ไม่บริสุทธิ์
แต่เวลานี้ลูกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหนทางของครอบครัวที่บริสุทธิ์
พวกเขาก็เป็นมนุษย์เช่นกันแต่พวกเขามีคุณธรรมที่สูงส่ง
ได้มีการแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีแขนมากมาย ไม่มีใครสามารถบอกลูกได้ว่าวิษณุคือใคร
พวกเขากราบไหว้บูชามหาลักษมี ผู้คนไม่เคยร้องขอความมั่งคั่งจากจากัดอัมบา
หากพวกเขาได้รับเงินจำนวนมากพวกเขาก็บอกว่าเป็นเพราะพวกเขาได้กราบไหว้บูชาลักษมีและเหตุนั้นเองที่เธอเติมคลังสมบัติของพวกเขา
ที่นี่ลูกได้มาซึ่งทุกสิ่งจากพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณสูงสุดชีวาผ่านจากัดอัมบา
ท่านคือผู้ประทาน ลูกๆมีโชคดีกว่าบัพดาดา
เพียงแค่ดูว่ามีการจัดงานออกร้านมากมายเพียงใดเพื่อจากัดอัมบา
ไม่มีการจัดงานนั้นมากมายนักให้แก่บราห์มา
ได้มีการทำให้บราห์มานั่งในสถานที่เดียวเท่านั้น
มีวัดที่ใหญ่โตของบราห์มาใกล้อัชเมียร์
มีวัดมากมายเพื่อเทพเจ้าเนื่องจากคำยกย่องของทุกสิ่งที่ลูกทำในเวลานี้
เพราะลูกรับใช้บารัตลูกจึงได้รับการกราบไหว้บูชามากกว่า ลูกโชคดี
จากัดอัมบาไม่เคยถูกเรียกว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน ลูกได้รับการยกย่อง
บราห์มา,วิษณุและชังการ์ไม่เคยถูกเรียกว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
แต่พ่อนั้นถูกกล่าวว่าอยู่ในทุกอณู! ลูกประณามพ่ออย่างมาก!
พ่อได้เพิ่มคำสรรเสริญของลูกอย่างมาก! มีคำกล่าวว่า: ชัยชนะต่อผู้เป็นแม่ของบารัต
ลูกไม่ใช่แผ่นดินที่เป็นแม่ของบารัต
ในยุคทองผืนดินที่ตอนนี้ตาโมประธานจะกลับมาสะโตประธาน
เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่าเหล่าเทพนั้นไม่เคยก้าวเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้
พวกเขามาเมื่อแผ่นดินนี้กลับมาสะโตประธาน เวลานี้ลูกต้องกลับมาสะโตประธาน
หากลูกทำตามศรีมัทอย่างต่อเนื่องและจดจำพ่อลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ลูกต้องมีความใส่ใจนี้ เมื่อลูกจดจำบาบาบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
ลูกจะยังคงได้รับศรีมัทต่อไป
ในยุคทองลูกดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์ดังนั้นลูกจะได้รับร่างที่บริสุทธิ์
เมื่อทองคำมีอัลลอยด์ปะปน อัญมณีที่ทำจากทองนั้นก็เป็นเช่นนั้นเช่นกัน
ในทำนองเดียวกันเมื่อดวงวิญญาณไม่จริงแท้ ร่างกายของเขาก็ไม่จริงแท้เช่นกัน
คุณค่าของทองนั้นลดลงไปเมื่อมีอัลลอยด์ปะปนลงไป เวลานี้ลูกไม่มีคุณค่า
ก่อนหน้านี้ลูกเคยเป็นทองคำ 24 กะรัต เป็นนายของโลก เวลานี้กล่าวได้ว่าลูกนั้น 9
กะรัต พ่อมีการสนทนาจากใจถึงใจนี้กับลูกๆ พ่อนั่งที่นี่และทำให้ลูกๆ สนุกสนาน
ดังนั้นเพียงแค่รับฟังท่านลูกก็เปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นเทพ
จะมีปราสาทราชวังเพชรและอัญมณี สวรรค์ควรจะเป็นอย่างไรอีก?
ลูกแม้กระทั่งดื่มน้ำมะม่วงที่นั่น(ในตอนเข้าฌาน)และกลับมาที่นี่
ผลไม้ที่นั่นมีขนาดใหญ่มาก ลูกจะไม่ได้พบผลไม้เช่นนั้นที่นี่
ไม่มีสิ่งใดในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ลูกกำลังจะไปที่นั่นในทางปฏิบัติในไม่ช้า
นี่คือการพบปะของดวงวิญญาณกับดวงวิญญาณสูงสุด
ด้วยการพบปะนี้ลูกจะกลับมาสะอาดและสดใส เมื่อลูกๆ
มาที่นี่ลูกก็จะเป็นอิสระเพราะลูกไม่มีความวิตกกังวลเรื่องบ้านหรือธุรกิจของลูก
ดังนั้นในขณะที่ลูกอยู่ที่นี่ลูกมีโอกาสที่ดีมากที่จะอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง
ที่นั่นลูกจดจำบ้านและทุกๆสิ่ง ที่นี่ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องจดจำ
ลูกสามารถตื่นนอนในเวลาตีสองและนั่งที่นี่ ลูกไม่สามารถไปที่ศูนย์ในเวลากลางคืน
ที่นี่เป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก ลูกสามารถมาและนั่งในการจดจำระลึกถึงชีพบาบา
อย่าได้จดจำคนอื่น ลูกได้รับความช่วยเหลือที่นี่เช่นกัน
ไปนอนแต่หัวค่ำและตื่นแต่เช้า มาและนั่งที่นี่ตั้งแต่ตีสามถึงตีห้า
บาบาจะมาและลูกๆจะมีความสุขอย่างมากด้วยเช่นกัน บาบาคือผู้ที่สอนโยคะ
ผู้นี้กำลังศึกษาอยู่ด้วย ดังนั้นทั้งบัพและดาดาจะมาที่นี่
และแล้วลูกก็จะสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างการนั่งที่นี่ในการจดจำระลึกถึงและการนั่งที่นั่น
ลูกไม่ต้องจดจำสิ่งอื่นใดที่นี่ มีคุณประโยชน์มากมายในสิ่งนี้
บาบาแนะนำลูกว่าสิ่งนี้ดีมาก เวลานี้เราจะดูว่าลูกๆสามารถตื่นขึ้นมาได้
ลูกบางคนมีการฝึกที่จะตื่นแต่เช้าตรู่
ลูกละทิ้งกิเลสทั้งห้าและมีการวางเฉยต่อทั้งโลกเก่า อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
การกระทำที่มหัศจรรย์ของการเปลี่ยนแปลงโลกกำลังเกิดขึ้นในเวลานี้
ดังนั้นจงเปลี่ยนแปลงตนเอง อยู่ด้วยกันเหมือนน้ำนมและน้ำตาล
2.
ตื่นแต่เช้าตรู่และนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว อย่าได้จดจำคนอื่นในเวลานั้น
มีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดในโลกเก่าและละทิ้งกิเลสทั้งห้า
พร:
ขอให้ลูกได้รับชัยชนะด้วยการมีศรัทธาในสติปัญญาของลูกและสัมผัสกับการค้ำจุนของพ่อในทุกขณะแทนที่จะก้าวออกไปจากสิ่งใด
ดวงวิญญาณที่ได้รับพรจากการได้รับชัยชนะจะสัมผัสว่าตนเองมีการค้ำจุนในทุกขณะ
พวกเขาไม่มีความคิดแม้แต่น้อยในจิตใจว่าตนเองไม่ได้รับการค้ำจุนหรือรู้สึกเหงา
พวกเขาจะไม่เคยเศร้าหรือมีการวางเฉยชั่วคราวที่มีขีดจำกัด
พวกเขาไม่เคยก้าวออกไปจากงาน ปัญหา หรือบุคคลใด ๆ
แต่ในขณะที่ทำทุกสิ่งและเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง
พวกเขาจะให้ความร่วมมือและรักษาทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด
คติพจน์:
อยู่ในความเป็นมิตรของพ่อผู้เดียวและทำให้ท่านเป็นมิตรของลูก