19.05.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน
เวลานี้ลูกกำลังนั่งอยู่ในดินแดนของพระเจ้าเพื่อที่จะไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
นี่คือมิตรแห่งสัจจะที่ลูกกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
คำถาม:
ลูกๆ
นั้นสูงส่งกว่าและไม่ยิ่งหย่อนกว่าพ่ออย่างไร?
คำตอบ:
บาบาพูดว่า:
ลูกๆ พ่อไม่ได้กลายเป็นนายของโลก พร้อมกันกับการทำให้ลูกเป็นนายของโลก
พ่อทำให้ลูกกลายเป็นนายของบราห์มันด้วยเช่นกัน
พ่อผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดขอคารวะต่อลูกๆ เหตุนี้เองลูกจึงสูงส่งมากกว่าพ่อ
พ่อคารวะลูกผู้เป็นนาย แล้วลูกก็คารวะต่อพ่อผู้ทำให้ลูกเป็นนายของโลก
โอมชานติ
บาบาพูด“นมัสเต”กับลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน ลูกไม่แม้กระทั่งตอบรับและพูดว่า: บาบา
นมัสเต ลูกๆ รู้ว่าบาบาทำให้ลูกกลายเป็นนายของบราห์มันและเป็นนายของโลก
พ่อเพียงแค่กลายเป็นนายของบราห์มัน ท่านไม่ได้กลายเป็นนายของโลก ท่านทำให้ลูกๆ
กลายเป็นนายของทั้งบราห์มันและโลก ดังนั้นบอกพ่อซิว่าใครยิ่งใหญ่กว่ากัน?
ลูกๆยิ่งใหญ่กว่า ดังนั้นลูกๆจึงพูดว่า: นมัสเต
บาบาเพียงท่านเท่านั้นที่ทำให้เรากลายเป็นนายของบราห์มันและโลก
เหตุนี้เองพวกเราจึงพูด “นมัสเตต่อท่าน” ชาวมุสลิมพูดว่า: ขอคารวะต่ออัลล่าห์
มันคือลูกๆที่มีศรัทธาที่มีความสุข ใครก็ตามที่ไม่มีศรัทธาจะไม่แม้แต่จะมาที่นี่
ผู้ที่มาที่นี่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาหากูรูที่เป็นมนุษย์
พวกเขาไม่ได้มาหาพ่อที่เป็นมนุษย์ ครูที่เป็นมนุษย์ หรือกูรูที่เป็นมนุษย์
ลูกมาหาพ่อทางจิต,ครูทางจิตและสัตกูรูทางจิต
มีมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนในขณะที่ผู้เดียวนี้คือหนึ่งเดียวเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครได้รับคำแนะนำของท่าน
ได้มีการกล่าวไว้ในคัมภีร์ของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาว่าไม่มีใครรู้จักผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง
เพราะพวกเขาไม่รู้จักท่านพวกเขาจึงถูกเรียกว่าลูกกำพร้า
ผู้ที่มีการศึกษาดีก็สามารถเข้าใจได้ว่าพ่อของทุกดวงวิญญาณคือผู้เดียวที่ไม่มีตัวตนเท่านั้น
ท่านมาและกลายเป็นพ่อของเราและเป็นครูและสัตกูรูของเราเช่นกัน
ชื่อของกฤษณะได้รับการยกย่องในกีตะ กีตะคือเพชรพลอยของทุกคัมภีร์
เป็นแม่ของทุกคัมภีร์ เป็นคัมภีร์ที่สูงส่งที่สุด
เพียงกีตะเท่านั้นที่ถือได้ว่าเป็นแม่และพ่อ
ไม่มีคัมภีร์อื่นใดที่จะถูกเรียกว่าเป็นแม่และพ่อ
ศรีมัทภควัตคีตะได้รับการจดจำว่าเป็นแม่
เป็นความรู้ของกีตะที่ปรากฏออกมาจากปากดอกบัวของพระเจ้า พ่อสูงสุดเหนือสิ่งใด
ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่ากีตะที่พูดโดยผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดคือผู้สร้าง
คัมภีร์อื่นๆ ทั้งหมดคือใบไม้หรือเป็นสิ่งสร้างของกีตะ
มรดกไม่เคยได้รับจากสิ่งสร้าง หากลูกได้รับนั่นก็จะเป็นไปเพียงเวลาชั่วคราวเท่านั้น
มีคัมภีร์อื่นๆมากมายที่มนุษย์สอนมนุษย์
ด้วยการศึกษาคัมภีร์เหล่านั้นพวกเขาจะได้รับความสุขชั่วคราวเพียงชาติเกิดเดียวเท่านั้น
การศึกษาที่หลากหลายถูกสอนแก่มนุษย์โดยมนุษย์เป็นระยะเวลาชั่วคราว
พวกเขาได้รับความสุขชั่วคราวเท่านั้น
และแล้วในชาติเกิดถัดไปพวกเขาก็ต้องเริ่มการศึกษาอื่น
ที่นี่มีเพียงพ่อผู้ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่ลูกได้รับมรดกเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถให้สิ่งนี้แก่ลูก พวกเขาทำให้ลูกไม่มีค่าแม้แต่หนึ่งสตางค์
ในขณะที่บาบาทำให้ลูกมีค่าเท่ากับปอนด์ เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ
ลูกทั้งหมดคือลูกของพระเจ้า เพราะพวกเขาเรียกท่านว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
พวกเขาจึงไม่เข้าใจความหมายของสิ่งใด
หากดวงวิญญาณสูงสุดอยู่ในทุกคนนั่นก็จะเป็นความเป็นพ่อ
หากทุกคนจะเป็นพ่อแล้วลูกจะสามารถรับมรดกได้อย่างไร?
ความทุกข์ของใครที่จะถูกขจัดออกไปและโดยใคร?
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นผู้ขจัดความทุกข์และเป็นผู้ประทานความสุข
ไม่มีความหมายเลยในการเรียกทุกคนว่าพ่อ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายว่านี่คืออาณาจักรของราวัน สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครด้วย
ดังนั้นจึงได้มีการแสดงไว้ในภาพอย่างชัดเจน
มันอยู่ในสติปัญญาของลูกๆว่าลูกนั้นอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
พ่อมาเพื่อทำให้ลูกกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
เช่นที่ลูกจะได้รับสถานะภาพโดยการศึกษาเพื่อเป็นนักกฎหมายหรือแพทย์
ดังนั้นลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่าลูกจะกลายเป็นอะไรด้วยการศึกษานี้
ลูกกำลังนั่งที่นี่ในความเป็นมิตรแห่งสัจจะที่จะทำให้ลูกไปสู่ดินแดนแห่งความสุข
มีดินแดนแห่งสัจจะสองดินแดน: หนึ่งคือดินแดนแห่งความสุข
และอีกหนึ่งคือดินแดนแห่งความสงบซึ่งเป็นบ้านของพระเจ้า พ่อคือผู้สร้าง
ผู้ที่กลับมาฉลาดด้วยการศึกษากับพ่อมีหน้าที่ที่จะทำงานรับใช้ พ่อพูดว่า:
เวลานี้ลูกฉลาดขึ้นโดยการเข้าใจทุกสิ่ง ดังนั้นจงไปที่วัดของชีวาและอธิบายแก่พวกเขา
ถามพวกเขาว่า:
ทำไมท่านถึงได้ถวายผลไม้หลากหลายชนิด,ดอกไม้,เนย,กี,ดอกอั๊กและดอกกุหลาบแก่ชีวา?
พวกเขาไม่ได้ถวายดอกอั๊กที่วัดกฤษณะ ที่นั่นพวกเขาถวายดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมาก
ที่วัดของชีวาพวกเขาถวายแต่ดอกอั๊กหรือดอกกุหลาบเท่านั้น
อย่างไรก็ตามไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่รู้ความหมายของสิ่งนั้น
เวลานี้พ่อกำลังสอนลูกๆ ไม่ใช่มนุษย์ที่กำลังสอนลูก
ในส่วนที่เหลือของทั้งโลก,มนุษย์สอนมนุษย์ ในขณะที่ที่นี่พระเจ้าสอนลูก
ไม่สามารถมีมนุษย์คนใดเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้า
แม้แต่ลักษมีและนารายณ์ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นพระเจ้า พวกเขาถูกเรียกว่าเทพ
บราห์มา,วิษณุและชังก้าร์ก็เรียกว่าเป็นเทพเช่นกัน
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือพระเจ้า ท่านคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด
ทุกคนร้องเรียกหา: โอ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด! ชื่อที่แท้จริงของท่านคือชีวา
และลูกๆ ก็เรียกว่าเป็นซาลิแกรม เมื่อบัณฑิตสร้างไฟบูชายัญ
พวกเขาก็ทำชีวาลิงกัมที่มีขนาดใหญ่มากและซาลิแกรมเล็กๆ มากมาย
ดวงวิญญาณถูกเรียกว่าซาลิแกรมและดวงวิญญาณสูงสุดเรียกว่าชีวา
ท่านคือพ่อของทั้งหมดและเราทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน
ผู้คนแม้กระทั่งพูดถึงความเป็นพี่น้อง เราเป็นลูกของพ่อ เราเป็นพี่น้องกัน
ดังนั้นเราได้กลายเป็นพี่น้องหญิงชายได้อย่างไร? ลูกๆ
ถูกสร้างขึ้นผ่านปากของประชาบิดาบราห์มา ลูกคือบราห์มิน
ลูกเป็นลูกของประชาบิดาบราห์มา เหตุนี้เองลูกถูกเรียกว่าบราห์มากุมารและกุมารี
อัจชะ ใครสร้างบราห์มา? พระเจ้า บราห์มา,วิษณุและชังการ์เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสร้าง
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนคือสิ่งสร้างด้วยเช่นกัน
ลูกปรากฏออกมาผ่านปากดอกบัวของบราห์มา ลูกเรียกว่าบราห์มิน
ลูกคือลูกที่ถูกนำมาเลี้ยงที่เกิดจากปาก ประชาบิดาบราห์มาสร้างลูกอย่างไร?
แน่นอนว่าท่านต้องนำพวกเขามาเลี้ยงดู
เช่นเดียวกับที่ได้มีการนำสาวกของกูรูมาเลี้ยงดู พวกเขาทั้งหมดคือสาวก
ประชาบิดาบราห์มาคือพ่อของทั้งโลก ท่านเรียกว่าเป็นปู่ของปู่ของปู่ด้วยเช่นกัน
บราห์มา,พ่อของปวงประชาจำเป็นต้องมีที่นี่
มีบราห์มาในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนด้วยเช่นกัน
แม้ว่าชื่อบราห์มา,วิษณุและชังการ์ได้รับการจดจำว่าเป็นผู้ที่อยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
แต่ก็ไม่มีผู้คนในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ประชาบิดาบราห์มาคือใคร?
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายทุกสิ่งเหล่านี้
พวกพรามณ์ก็เรียกตนเองว่าเป็นลูกของบราห์มาด้วย เวลานี้บราห์มาอยู่ที่ไหน?
ลูกพูดว่าท่านกำลังนั่งอยู่ที่นี่ ในขณะที่พวกเขาพูดว่าท่านมีอยู่ในอดีต
พรามณ์เหล่านั้นเรียกตนเองว่าเป็นผู้กราบไหว้บูชา
เวลานี้ลูกคือบราห์มินในทางปฏิบัติ
ลูกๆทั้งหมดของประชาบิดาบราห์มาเป็นพี่น้องหญิงชายกัน ชีพบาบานำบราห์มามาเลี้ยงดู
ท่านพูดว่า: พ่อเข้ามาในร่างเก่านี้และสอนราชาโยคะแก่ลูก
ในการเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพไม่ใช่งานของมนุษย์
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่เรียกว่าผู้สร้าง
ผู้คนของบารัตรู้ว่าวันเกิดของชีวาได้รับการเฉลิมฉลอง ชีวาคือพ่อ
ผู้คนไม่รู้ว่าใครให้อาณาจักรนี้แก่เหล่าเทพ ผู้สร้างสวรรค์คือดวงวิญญาณสูงสุด
ผู้เดียวที่เรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน
ลูกๆดวงวิญญาณดั้งเดิมแล้วบริสุทธิ์ และจากนั้นก้ได้ผ่านสภาพสะโต,ราโจและตาโม
ทุกคนในยุคเหล็กตอนนี้ตาโมประธาน ในขณะที่ทุกคนในยุคทองนั้นสะโตประธาน
อาณาจักรลักษมีและนารายณ์เริ่มต้นเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว
และราชวงศ์เทพดำรงอยู่มาเป็นเวลา 2500 ปี
ลูกๆของพวกเขาก็ได้ปกครองอาณาจักรด้วยเช่นกัน มีลักษมีและนารายณ์ที่หนึ่ง ที่สองฯลฯ
ผู้คนไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เวลานี้ทุกคนตาโมประธานและไม่บริสุทธิ์
ที่นี่ไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียวสามารถบริสุทธิ์ได้ ทุกคนร้องเรียกหา: โอ้
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! ดังนั้นโลกนี้ไม่บริสุทธิ์
สิ่งนี้เรียกว่านรกยุคเหล็ก โลกใหม่เรียกว่าสวรรค์ โลกที่บริสุทธิ์
แล้วลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
ไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียวในบารัตที่รู้เกี่ยวกับ 84 ชาติเกิดของเขา
ผู้คนใช้ชาติเกิดจำนวนสูงสุด 84 ชาติเกิดและจำนวนน้อยที่สุดหนึ่งชาติเกิด
บารัตถือได้ว่าเป็นดินแดนที่ไม่สูญสลาย
เพราะนี่คือดินแดนที่ซึ่งชีพบาบาจุติอวตารลงมา แผ่นดินบารัตไม่มีวันถูกทำลาย
ในขณะที่แผ่นดินอื่นๆทั้งหมดจะถูกทำลาย
ศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปได้หายไปแล้วในเวลานี้
ไม่มีใครที่นี่ที่จะเรียกตนเองว่าเทพ เพราะเหล่าเทพนั้นบริสุทธิ์และสะโตประธาน
เวลานี้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่ไม่บริสุทธิ์
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ พระเจ้าพูด:
พระเจ้าคือพ่อของทุกคนและท่านมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในบารัต เมื่อไหร่ที่ท่านมา?
ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้
เป็นเพียงในยุคบรรจบพบกันนี้เท่านั้นที่เรียกว่าเป็นยุคที่เป็นสิริมงคลที่สุด
นี่คือยุคบรรจบพบกัน ยุคของการเปลี่ยนยุคเหล็กให้กลายเป็นยุคทอง
จากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ มนุษย์ที่ไม่บริสุทธิ์อาศัยอยู่ในยุคเหล็ก
ในขณะที่เทพที่บริสุทธิ์อาศัยอยู่ในยุคทอง
เหตุนี้เองยุคนี้จึงถูกเรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดเมื่อพ่อมาและเปลี่ยนลูกจากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
ลูกมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นเทพผู้ที่สูงส่งที่สุด
มนุษย์ไม่รู้แม้กระทั่งว่าพวกเราดวงวิญญาณมีชีวิตอยู่ในดินแดนนิพพาน
พวกเรามาที่นี่จากที่นั่นเพื่อเล่นบทบาทของเรา ระยะเวลาของการละเล่นนี้คือ 5000 ปี
พวกเราต้องเล่นบทบาทของเราในการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ มนุษย์ทั้งหมดคือนักแสดง
วงจรของละครนี้ยังคงหมุนต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด
ก่อนอื่นใดเหล่าเทพมาเพื่อเล่นบทบาทของเขาในยุคทอง และแล้วก็มีนักรบของยุคเงิน
การละเล่นนี้จะต้องมีความเข้าใจ โลกนี้ในเวลานี้เป็นป่าหนาม
มนุษย์ทั้งหมดไม่มีความสุข หลังจากยุคเหล็กนี้ ยุคทองจะมา มีมนุษย์มากมายในยุคเหล็ก
จะมีมนุษย์มากเท่าไหร่ในยุคทอง? น้อยมาก
จะมีเพียงเทพของสุริยะวงศ์ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปเท่านั้น
โลกเก่านี้ในเวลานี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
จากโลกของมนุษย์ธรรมดาจะเปลี่ยนเป็นโลกของเหล่าเทพ
เคยเป็นศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
แต่จะไม่มีใครเรียกตนเองว่าเป็นเทพในเวลานี้ พวกเขาได้ลืมศาสนาของตนเอง
เพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่ลืมศาสนาของตนเอง เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในฮินดูสถาน
พวกเขาจึงเรียกศาสนาของพวกเขาว่าฮินดู เหล่าเทพนั้นบริสุทธิ์
ในขณะที่ชาวฮินดูไม่บริสุทธิ์ เหตุนี้เองพวกเขาจึงไม่สามารถเรียกตนเองว่าเทพ
พวกเขาเฝ้าแต่กราบไหว้บูชาเทพ พวกเขาเรียกตนเองว่าเป็นคนบาปที่ตกต่ำ พ่ออธิบาย:
ลูกเคยมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
แต่เวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่ไม่บริสุทธิ์
ความหมายของ“ฮัมโซ”ได้มีการอธิบายแก่ลูกเช่นกัน
พวกเขาพูดว่าดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด พวกเขาแปลความหมายสิ่งนั้นอย่างผิดๆ
ร่างนั้นหลอกลวงและมายาก็หลอกลวง ลูกจะไม่พูดเช่นนี้ในยุคทอง
พ่อสร้างดินแดนแห่งสัจจะ
และแล้วราวันก็มาและทำให้ดินแดนนั้นกลายเป็นดินแดนของความหลอกลวง
เวลานี้พ่อมาและอธิบายสิ่งเหล่านี้แก่ลูก
ดวงวิญญาณคืออะไรและดวงวิญญาณสูงสุดคืออะไร? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ พ่อพูดว่า:
ลูกดวงวิญญาณคือจุดแห่งแสง บทบาทของ 84 ชาติเกิดของแต่ละคนถูกกำหนดไว้แล้ว
ไม่มีใครรู้ว่าเราดวงวิญญาณนั้นเป็นเช่นไร
พวกเขารู้เพียงแค่ว่าผู้นั้นผู้นี้เป็นนักกฎหมายหรือเป็นเช่นนั้นเช่นนี้เท่านั้น
แต่ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับดวงวิญญาณ
ต่อเมื่อพ่อมาเท่านั้นที่ท่านให้การตระหนักรู้แก่ลูก บทบาทของ 84
ชาติเกิดที่คงอยู่ตลอดไปของลูกได้ถูกบันทึกไว้ในลูกดวงวิญญาณ
บทบาทของลูกไม่มีวันถูกทำลาย
บารัตนี้เคยเป็นสวนดอกไม้ที่ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากความสุข
เวลานี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากความทุกข์ เวลานี้พ่อได้ให้ความรู้แก่เรา
เวลานี้ลูกๆกำลังรับฟังสิ่งใหม่จากพ่อ
สิ่งใหม่ที่สุดคือลูกต้องเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ
ลูกรู้ว่าไม่ใช่มนุษย์ที่กำลังสอนลูกเกี่ยวกับการศึกษาที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
เป็นพระเจ้าที่สอนการศึกษานี้
การเรียกพระเจ้าว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันนั้นหมายถึงการดูหมิ่นท่าน
เวลานี้พ่ออธิบาย: พ่อทำให้บารัตเป็นสวรรค์ทุก 5000 ปี ราวันมาและทำให้กลายเป็นนรก
ไม่มีใครในโลกที่รู้สิ่งเหล่านี้
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ
เคยมีการจดจำกันว่าพระเจ้าซักเสื้อผ้าที่สกปรก ที่นั่นไม่มีกิเลส
โลกนั้นปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง ในเวลานี้โลกมีกิเลส ผู้คนร้องเรียกหา: โอ้
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! ราวันได้ทำให้พวกเราไม่บริสุทธิ์
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่าราวันมาเมื่อไหร่หรือเกิดอะไรขึ้น
ราวันได้ทำให้ลูกยากจนข้นแค้นอย่างมาก! 5000 ปีที่แล้วบารัตเคยมั่งคั่งมาก
มีพระราชวังทองคำที่ประดับประดาด้วยเพชรพลอย มีทรัพย์สมบัติมากมาย
ดูซิว่าว่าเวลานี้บารัตในอยู่ในสภาพใด
ไม่มีใครนอกจากพ่อเท่านั้นที่สามารถทำให้บารัตมีมงกุฎ(เป็นดินแดนที่สูงที่สุด)
เวลานี้ลูกพูดว่าชีพบาบากำลังทำให้บารัตเป็นสวรรค์ พ่อพูดว่า:
เวลานี้ความตายกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าลูก ลูกทั้งหมดอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ
เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน
ดังนั้นจงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อที่บาปของลูกจะถูกเผาไป อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
พวกเราคือบราห์มิน ลูกๆที่เกิดจากปากของบราห์มา
พระเจ้าเองกำลังสอนการศึกษานี้แก่เราเพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดากลายเป็นเทพ
คงอยู่ในความซาบซึ้งและความสุขนี้
มันอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้เท่านั้นที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
2.
เวลานี้คือสภาพของการปลดเกษียณของเรา ความตายยืนอยู่เบื้องหน้าเรา เราต้องกลับบ้าน
เหตุนี้เองที่เราต้องเผาบาปของเราทั้งหมดโดยการอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ
พร:
ขอให้ลูกมีสำนึกรู้ของการเป็นผู้แสวงบุญทางจิตอย่างสม่ำเสมอและอยู่เหนือ, ละวาง
และปราศจากความผูกพันยึดมั่น
ผู้แสวงบุญทางจิตยังคงเดินหน้าต่อไปในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
การแสวงบุญนี้ให้ความสุขเสมอ
ผู้ที่ยังคงอยู่ในการจาริกแสวงบุญทางจิตไม่จำเป็นต้องไปจาริกแสวงบุญอื่นๆ
การจาริกแสวงบุญอื่นๆทั้งหมดหลอมรวมอยู่ในการจาริกแสวงบุญนี้
การเร่ร่อนของจิตใจและร่างกายจบสิ้น
ดังนั้นจงมีสำนึกรู้อยู่เสมอว่าลูกเป็นผู้แสวงบุญทางจิต
สำหรับผู้แสวงบุญไม่มีความผูกพันยึดมั่นกับใคร เขาได้รับพรของการอยู่เหนือ, ละวาง
และเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่นอย่างง่ายดาย
คติพจน์:
เฝ้าแต่ร้องเพลงนี้อย่างสม่ำเสมอ “ว้า บาบา! ว้าโชคของฉัน! และ
ว้าครอบครัวที่แสนหวาน!”