29.05.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน
ลูกควรจะมีความซาบซึ้งว่าชีวาที่ทุกคนกราบไหว้บูชาเวลานี้ได้กลายเป็นพ่อของลูกและเวลานี้ลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าท่านเป็นการส่วนตัว
คำถาม:
เหตุใดผู้คนจึงร้องขอให้พระเจ้าให้อภัย? พวกเขาได้รับการให้อภัยหรือไม่?
คำตอบ:
ผู้คนเชื่อว่าพระเจ้าจะลงโทษพวกเขาผ่านดารามราช (ผู้พิพากษาสูงสุด)
สำหรับบาปที่พวกเขาได้ทำมา เหตุนื้เองพวกเขาจึงร้องขอการให้อภัย
อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องทุกข์ทรมานสำหรับบาปของเขาในรูปของความทุกข์ทรมานของกรรม
พระเจ้าไม่ได้ให้ยาใดๆแก่พวกเขา พวกเขาต้องมีประสบการณ์ของการลงโทษในกรงขังของครรภ์
พวกเขาได้รับนิมิตของสิ่งที่พวกเขาทำ “เพราะลูกไม่ทำตามคำแนะนำของพระเจ้า
นี่คือการลงโทษสำหรับสิ่งนั้น”
เพลง:
ลูกสูญเสียเวลากลางคืนในการหลับนอนและกลางวันในการรับประทาน...
โอมชานติ
ใครพูดสิ่งนี้? พ่อทางจิตพูดสิ่งนี้ ท่านคือพ่อที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ท่านนั้นสูงยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหมดและสูงกว่าทุกดวงวิญญาณเช่นกัน
มีดวงวิญญาณในแต่ละคน ลูกได้รับร่างกายเพื่อที่จะเล่นบทบาทของลูก
เวลานี้ลูกสามารถเห็นได้ว่ามีความนับถือต่อร่างกายของซันยาสีฯลฯมากเพียงใด
ผู้คนสรรเสริญกูรูของพวกเขาฯลฯ อย่างมาก พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดนี้แฝงตัว ลูกๆ
เข้าใจว่าชีพบาบานั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด ไม่มีใครสูงยิ่งกว่าท่าน
ดรามราชนั้นอยู่กับท่านด้วยเช่นกัน
เหตุนี้เองผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจึงร้องขอการให้อภัย
“โอพระเจ้าได้โปรดให้อภัยแก่ฉัน!” แต่พระเจ้าจะทำอะไรได้?
ที่นี่รัฐบาลจะจับใครบางคนเข้าคุก ดรามราชนั้นจะให้การลงโทษในกรงขังของครรภ์
จะต้องมีความทุกข์ทรมานต่อผลที่เกิดขึ้นตามมาจากสิ่งที่ได้กระทำลงไป
และสิ่งนี้เรียกว่าความทุกข์ทรมานของกรรม
เวลานี้ลูกรู้ว่าใครที่ทุกข์ทรมานกับการกระทำของเขาและอะไรเกิดขึ้น ผู้คนพูดว่า “โอ
พระเจ้า ได้โปรดให้อภัยให้แก่ฉัน”
ขจัดความเจ็บปวดและความทุกข์ของฉันและให้ความสุขแก่ฉัน
พระเจ้าให้ยาอะไรให้แก่ลูกหรือไม่? ท่านไม่สามารถทำอะไรได้
ดังนั้นทำไมพวกเขาถึงถามพระเจ้าเกี่ยวกับสิ่งนั้น
เพราะดรามราชอยู่กับพระเจ้าด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกทำบางสิ่งผิดก็จะต้องรับผลกรรมจากสิ่งนั้นอย่างแน่นอน
ได้รับการลงโทษนั้นในกรงขังของครรภ์ ลูกจะไดัรับนิมิตของทุกสิ่งที่ลูกได้ทำไป
การลงโทษจะไม่เกิดขึ้นหากไม่ได้แสดงนิมิตของสิ่งที่ลูกทำก่อน
ไม่มียาฯลฯในกรงขังของครรภ์ ต้องมีประสบการณ์ของการรับโทษที่นั่น
เมื่อพวกเขามีประสบการณ์ของความทุกข์ พวกเขาก็พูดว่า
พระเจ้าปลดปล่อยฉันจากกรงขังนี้! ลูกๆ กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าใครในเวลานี้?
พ่อคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด แต่ท่านนั้นแฝงตัว
ร่างกายของทุกคนนั้นสามารถมองเห็นได้ ในขณะที่นี่ชีพบาบาไม่มีมือหรือเท้าของท่านเอง
แล้วใครที่จะรับดอกไม้ฯลฯ หากท่านต้องการท่านก็จะรับสิ่งนั้นผ่านมือนี้
อย่างไรก็ตามท่านจะไม่ยอมรับสิ่งใดจากใคร เช่นที่สังคราจารย์พูดว่า
ไม่มีใครควรแตะต้องตัวเขา ดังนั้นเช่นกันพ่อพูดว่า:
พ่อจะรับสิ่งใดจากคนที่ไม่บริสุทธิ์ได้อย่างไร? พ่อไม่ต้องการดอกไม้ฯลฯ
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธามีการสร้างวัดโสมนาถฯลฯและมีการถวายดอกไม้
อย่างไรก็ตามพ่อไม่ได้มีร่างของพ่อเอง จะมีใครสามารถสัมผัสดวงวิญญาณได้อย่างไร?
ท่านพูดว่า: พ่อจะสามารถรับดอกไม้จากผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ได้อย่างไร?
ไม่มีใครแม้กระทั่งจะสามารถแตะต้องท่านได้
ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องท่าน วันนี้พวกเขาอาจจะพูดว่า“บาบา”
ในขณะที่วันพรุ่งนี้พวกเขาก็จะกลายเป็นชาวนรกอีก
บาบาจะไม่แม้กระทั่งมองดูผู้คนเหล่านั้น พ่อพูดว่าพ่อเป็นผู้สูงสุดเหนือสิ่งใด
ตามละครพ่อต้องยกระดับซานยาสซีฯลฯด้วย ไม่มีใครรู้จักพ่อเลย ผู้คนกราบไหว้บูชาชีวา
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าท่านคือพระเจ้าแห่งกีตะ และท่านมาที่นี่เพื่อให้ความรู้แก่พวกเรา
ชื่อของกฤษณะถูกใส่ไว้ในกีตะ ถ้ากฤษณะให้ความรู้ แล้วชีวาจะทำอะไร?
ดังนั้นบางคนคิดว่าท่านไม่เคยมาเลย โอ!
แต่ลูกจะไม่เรียกกฤษณะว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์
พ่อนั้นเรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์
มีเพียงลูกไม่กี่คนที่สามารถมีความเคารพนับถือได้มากเช่นนั้น
ท่านนั้นคงอยู่อย่างเรียบง่ายและอธิบายว่า: พ่อคือพ่อของผู้รู้ทั้งหมดฯลฯ
ท่านคือพ่อของทุกดวงวิญญาณเช่นกันแม้กระทั่งสังคราจารย์ฯลฯ
แน่นอนว่าพ่อทางร่างของพวกเขาก็มีร่างกาย แต่พ่อคือพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด
ทุกคนกราบไหว้บูชาพ่อ เวลานี้พ่อนั่งที่นี่เป็นการส่วนตัวเบื้องหน้าลูก
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ลูกทั้งหมดที่จะเข้าใจว่าลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าใคร
ดวงวิญญาณเคยมีสำนึกที่เป็นร่างมาชาติแล้วชาติเล่า
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจดจำพ่อได้ พวกเขาเฝ้าแต่มองดูร่างกาย
หากพวกเขากลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
พวกเขาก็จะสามารถจดจำพ่อได้และทำตามศรีมัทของท่าน พ่อพูดว่า:
ทุกคนทำความเพียรพยายามที่จะรู้จักพ่อ
เพียงผู้ที่กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณอย่างสมบูรณ์ในเวลาสุดท้ายเท่านั้นที่จะสอบผ่าน
สำนึกที่เป็นร่างเล็กน้อยจะยังคงหลงเหลืออยู่ในลูก พ่อนั้นแฝงตัว
ลูกไม่สามารถให้สิ่งใดแก่ท่านได้ ลูกสาวสามารถไปที่วัดของชีวาเพื่อให้คำอธิบาย
เป็นลูกกุมารีที่ให้คำแนะนำของชีพบาบา แน่นอนว่ามีทั้งกุมารและกุมารี
กุมารต้องให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน
ผู้เป็นแม่ก็ได้รับการยกระดับเป็นพิเศษเพราะพวกเธอนั้นได้ทำงานรับใช้มากกว่าผู้ชาย
ดังนั้นลูกๆ ควรมีความสนใจในการทำงานรับใช้
เช่นเดียวกับที่มีความใส่ใจอย่างมากในการศึกษาอื่นๆ นั่นคือทางโลก ที่นี่คือทางจิต
ด้วยการศึกษาทางโลกและเรียนรู้การฝึกฝนฯลฯ ลูกไม่ได้รับอะไรเลย ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อคู่รักมีลูก พวกเขาก็จะเฉลิมฉลองการตั้งชื่อของเขา (ในวันที่ 6)
ด้วยการแสดงอย่างเอิกเกริกมากมาย แต่เขาจะได้รับอะไร
ไม่มีเวลามากพอสำหรับเขาที่ได้มาซึ่งสิ่งใด
ใครก็ตามที่ได้จากร่างไปจากที่นี่ในตอนนี้จะต้องกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่อีกครั้งด้วยเช่นกัน
แต่เขาจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดเลย
ใครก็ตามที่ศึกษาเล่าเรียนที่นี่และจากร่างของเขาก็จะไปและจดจำชีพบาบาในวัยเด็กของเขาต่อไปตามสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มา
นี่คือมันตรา หากลูกพยายามที่จะสอนเด็กเล็กๆ เขาจะไม่เข้าใจสิ่งใดเกี่ยวกับจุดเล็กๆ
ฯลฯ เขาก็เพียงแค่พูดว่า “ชีพบาบา ชีพบาบา”
จดจำชีพบาบาแล้วลูกจะได้รับมรดกแห่งสวรรค์ หากลูกอธิบายให้แก่พวกเขาในลักษณะนึ้
เขาก็สามารถไปสู่สวรรค์ แต่เขาจะไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
มีลูกเช่นนั้นมากมายผู้ที่มาและเฝ้าแต่พูดว่า “ชีพบาบา ชีพบาบา”
และแล้วความคิดสุดท้ายของพวกเขาจะนำเขาไปสู่จุดหมายปลายทาง
อาณาจักรกำลังมีการก่อตั้ง ผู้คนกราบไหว้บูชาชีวา แต่พวกเขาไม่รู้สิ่งใดเลย
เช่นที่เด็กเล็กๆเฝ้าแต่พูดว่า “ชีวา ชีวา” แต่ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
ดังนั้นที่นี่เช่นกันผู้คนกราบไหว้บูชาท่าน แต่ไม่ได้มีการตระหนักรู้นั้น
ดังนั้นลูกควรจะบอกพวกเขาว่า:
ผู้ที่ท่านกำลังกราบไหว้บูชานั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้และท่านคือพระเจ้าแห่งกีตะ
ท่านกำลังสอนพวกเรา
ไม่มีมนุษย์อื่นใดในโลกที่จะพูดว่าซีพบาบากำลังสอนราชาโยคะแก่พวกเขา
มีเพียงลูกๆเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้ แต่อย่างไรก็ตามลูกก็ลืม พระเจ้าพูด
พ่อสอนราชาโยคะแก่ลูก ใครพูดว่า: "พระเจ้าพูด:
ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นสิ่งที่ต้องเอาชนะ? จงละทิ้งโลกเก่า
หัตถะโยคีคือผู้สละละทิ้งที่มีขีดจำกัด ผู้นั้นคือสังคราจารย์
และผู้เดียวนี้คือชีวาจารย์ (ชีวาผู้เป็นครู) ท่านกำลังสอนพวกเรา
ลูกไม่สามารถพูดว่ากฤษณาจารย์(กฤษณะซึ่งเป็นครู) เขาคือเด็กเล็กๆ
ไม่จำเป็นสำหรับความรู้นี้ในยุคทอง ลูกๆ
สามารถทำงานรับใช้ที่ดีมากที่ใดก็ตามที่มีวัดของชีวา ไปที่วัดของชีวา
หากผู้เป็นแม่ไปที่นั่น ก็เป็นสิ่งดี แต่หากกุมารีไปที่นั่นก็จะดียิ่งกว่า
บอกพวกเขาว่า: เวลานี้พวกเราต้องประกาศสิทธิ์ในโชคของอาณาจักรของเราจากบาบา
พ่อกำลังสอนเราแล้วเราก็จะกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี
พ่อคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ไม่มีมนุษย์ใดสามารถให้คำสอนเช่นนี้แก่เราได้
นี่คือยุคเหล็ก เคยมีอาณาจักรของพวกเขาในยุคทอง
พวกเขากลายเป็นราชาและราชินีได้อย่างไร? ใครสอนราชาโยคะให้แก่พวกเขา?
ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นนายแห่งยุคทอง?
ผู้เดียวที่เรากำลังกราบไหว้บูชาอยู่กำลังสอนพวกเราและกำลังทำให้พวกเรากลายเป็นนายแห่งยุคทอง
การก่อตั้งเกิดขึ้นด้วยบราห์มา การหล่อเลี้ยงด้วยวิษณุ....
ผู้ที่เป็นของหนทางครอบครัวที่ไม่บริสุทธิ์ก็ไปเป็นของหนทางครอบครัวที่บริสุทธิ์
พวกเขาพูดว่า: บาบาทำให้พวกเราที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์
ชำระพวกเราให้บริสุทธิ์และทำให้พวกเรากลายเป็นเทพ ที่นั่นเป็นหนทางครอบครัวเช่นกัน
พวกเขาไม่มีความปรารถนาที่จะกลายเป็นกูรูของหนทางสันโดษ
ลูกสามารถกลายเป็นกูรูของผู้ที่กลับมาบริสุทธิ์
มีความเป็นมิตรของหลายคนที่ไม่ได้แต่งงานเพื่อกิเลส
ดังนั้นลูกๆสามารถทำงานรับใช้ทุกประเภทเหล่านี้ได้ทั้งหมด
ควรมีความใส่ใจนี้อย่างมากภายในลูก
ทำไมเราถึงไม่กลายเป็นลูกที่มีค่าของบาบาและไปทำงานรับใช้เช่นนั้น?
การทำลายล้างของโลกเก่านั้นอยู่เบื้องหน้าลูก ชีพบาบาพูดว่า:
กฤษณะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ เขามาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในยุคทอง
เขาไม่สามารถมีรูปลักษณะเดียวกันและชื่อเดียวกันในชาติเกิดอื่น ใน 84
ชาติเกิดเขาจะมี 84 รูปลักษณะ กฤษณะไม่สามารถสอนความรู้นี้ให้แก่ใครได้
กฤษณะจะสามารถมาที่นี่ได้อย่างไร? เวลานี้ลูกเข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกมีชาติเกิดที่ดีมาก
และจากนั้นอาณาจักรของราวันก็เริ่มต้นขึ้น มนุษย์ได้กลายเป็นเช่นสัตว์อย่างสมบูรณ์
พวกเขาเฝ้าแต่ต่อสู้รบราและทะเลาะเบาะแว้งกันและกัน มันเป็นการเกิดของราวันใช่ไหม?
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ว่าดวงวิญญาณจะใช้ 84 ล้านชาติเกิด
มีเผ่าพันธุ์ที่หลากหลายมากมาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า
ดวงวิญญาณนั้นจะใช้ชาติเกิดมากมายขนาดนั้น พ่อนั่งที่นี่และอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้
ท่านคือพระเจ้าผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ท่านสอนพวกเราและผู้นี้ก็อยู่ถัดไปจากท่าน
หากลูกไม่ศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดี ลูกก็กลายเป็นสาวใช้หรือคนรับใช้ของใครบางคน
ลูกก็จะกลายเป็นสาวใช้หรือคนรับใช้ของชีพบาบาหรือ? พ่ออธิบาย:
เมื่อลูกไม่ศึกษาเล่าเรียนลูกจะไปและกลายเป็นสาวใช้หรือคนรับใช้ในยุคทอง
ใครบางคนจะกลายเป็นอะไรถ้าเขาไม่ได้ทำงานรับใช้อะไรเลยนอกจากกินดื่มและนอนหลับ?
มันเข้าไปอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าลูกจะกลายเป็นอะไรและลูกก็ยังคงรู้สึกว่า
"ฉันจะกลายเป็นจักรพรรดิ!” พวกเขาจะไม่แม้กระทั่งมาอยู่เบื้องหน้าบาบา
พวกเขาเข้าใจด้วยตัวเองว่าพวกเขาจะเป็นอะไร แต่พวกเขาก็ยังคงไม่รู้สึกละอายใดๆ
พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเขาต้องทำความก้าวหน้าและได้มาซึ่งบางสิ่งเพื่อตนเอง
เหตุนี้เองบาบาพูดว่า: อย่าได้คิดว่าเป็นบราห์มานี้ที่บอกสิ่งเหล่านี้แก่ลูก
คิดเสมอว่าเป็นชีพบาบาที่กำลังบอกลูก ลูกต้องมีความเคารพต่อชีพบาบา
มิฉะนั้นจะต้องมีประสบการณ์ของการลงโทษอย่างมากจากดารามราช ดารามราชอยู่กับท่าน
กุมารีต้องกลายเป็นผู้ที่ฉลาดมาก มันไม่ใช่ว่าลูกได้ยินบางสิ่งบางอย่างที่นี่
แต่ทันทีที่ลูกออกไปข้างนอกทุกสิ่งก็จบสิ้นลง
มีการขยายตัวอย่างมากในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา พ่อพูดว่า: เวลานี้จงละทิ้งยาพิษ
กลายเป็นผู้อยู่อาศัยของสวรรค์ สร้างคติพจน์เช่นนี้ กลายเป็นราชสีห์ที่กล้าหาญ
ลูกได้พบพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นทำไมลูกถึงใส่ใจกับสิ่งอื่นเล่า?
รัฐบาลก็ไม่ได้เชื่อในเรื่องศาสนาใด
ดังนั้นพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพได้อย่างไร? พวกเขาพูดว่า:
เราไม่เชื่อในศาสนาใดโดยเฉพาะ เราถือว่าทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันและเป็นเช่นเดียวกัน
ในกรณีนั้นแล้วทำไมท่านถึงต่อสุ้รบราและทะเลาะเบาะแว้งกัน? มีแต่ความไม่จริง
เเละไม่มีอะไรนอกจากความไม่จริงในทุกหนแห่ง ไม่มีร่องรอยของความจริงที่ใดเลย
การพูดไม่จริงครั้งแรกเริ่มด้วยการพูดไม่จริงว่าพระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่ง
ไม่มีศาสนาใดเช่นศาสนาฮินดู คริสต์เตียนมีศาสนาของตนเอง
พวกเขาไม่เปลี่ยนตนเอง(ศาสนาของพวกเขา)
เป็นเพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่เปลี่ยนศาสนาของพวกเขาและพูดว่าพวกเขาเป็นชาวฮินดู
เพียงแค่ดูชื่อที่พวกเขาตั้งให้กับตนเอง ศรีนั้นศรีนี้...
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถเป็นศรีได้ นั่นคือเป็นผู้ที่สูงส่งในเวลานี้
ไม่มีใครแม้กระทั่งให้ศรีมัทได้ เหล่านั้นเป็นเพียงทิศทางของยุคเหล็กของพวกเขา
ลูกจะบอกได้อย่างไรว่านั่นคือศรีมัท? หากลูกกุมารีมีความตื่นตัวและคล่องแคล่ว
ลูกก็สามารถอธิบายให้แก่ใครก็ตามได้
อย่างไรก็ตามลูกสาวที่โยคยุกต์ที่ฉลาดและดีมากนั้นเป็นที่ต้องการ อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะทำความก้าวหน้าจง ข้องแวะอยู่ในงานรับใช้ของพ่อ เพียงแค่กินดื่มและนอน
หมายถึงการสูญเสียสถานภาพของลูก
2.
มีความเคารพนับถือต่อพ่อและคำสอนของท่าน
ทำความเพียรพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ซึมซับคำสอนของพ่อและกลายเป็นลูกที่มีค่าและเชื่อฟัง
พร:
ขอให้ลูกสมบูรณ์พร้อมและทำให้มายาเป็นคนรับใช้ของลูกด้วยการเสนอตนเองเพื่องานรับใช้โลก
เวลานี้จงอุทิศเวลา
การบรรลุผล ความรู้ คุณธรรม และพลังทั้งหมดของลูกสำหรับการรับใช้โลก
ไม่ว่าลูกมีความคิดอะไรให้ตรวจสอบว่ามันเป็นไปเพื่องานรับใช้โลกหรือไม่
โดยการอุทิศทุกสิ่งเพื่องานรับใช้ลูกจะกลับมาสมบูรณ์พร้อมได้อย่างง่ายดาย
ด้วยความรักที่ลูกมีต่องานรับใช้
ข้อสอบหรือการทดสอบเล็กๆที่มาจะอุทิศตัวเองโดยอัตโนมัติ ลูกจะไม่กลัวมายา
แต่จะได้รับชัยชนะอยู่เสมอและร่ายรำอย่างมีความสุขต่อไป
ลูกจะสัมผัสว่ามายาเป็นทาสของลูก
เมื่อลูกอุทิศตนเพื่องานรับใช้มายาจะยอมอุทิศตัวเองให้กับลูกโดยอัตโนมัติ
คติพจน์:
ปิดจิตใจของลูกด้วยการพิจาณาภายในและความโกรธจะจบสิ้น