24.05.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
15.01.86 Om Shanti Madhuban
การต่อรองที่ไม่แพงและงบประมาณของการประหยัดอดออม
พ่อผู้เป็นพ่อค้าเพชรพลอยกำลังยิ้มเมื่อเห็นลูกซึ่งเป็นนักธุรกิจของท่านที่ทำการต่อรองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
การต่อรองนี้ใหญ่มากเมื่อเทียบกับโลก
ผู้ที่ทำการต่อรองนี้มีความธรรมดาและไร้เดียงสา
ดวงวิญญาณใดที่กลายเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคที่ได้ทำการต่อรองกับพระเจ้า?
พ่อเห็นสิ่งนี้และยิ้ม ลูกทำการต่อรองที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ในชาติเกิดเดียว
แล้วลูกก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ลูกให้อะไรและลูกได้รับอะไร? ลูกได้รับรายได้หลายล้านนับไม่ถ้วน
และทำการต่อรองหลายล้านอย่างง่ายดาย
อันที่จริงใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งวินาทีในการทำการต่อรองนี้
การต่อรองที่ลูกทำนี้ถูก(ไม่แพง)แค่ไหน?
ลูกทำการต่อรองในหนึ่งวินาทีด้วยคำพูดเดียว: ลูกยอมรับด้วยหัวใจของลูก: บาบาของฉัน!
ด้วยคำเดียวนี้ลูกได้ทำการต่อรองสมบัติที่ยิ่งใหญ่นับไม่ถ้วน
นี่เป็นการต่อรองที่ถูกใช่ไหม? มันไม่ยากหรือแพงเลย และลูกไม่ต้องให้เวลา
เมื่อลูกทำการต่อรองราคาที่มีขีดจำกัด ลูกจะต้องให้เวลาอย่างมาก
ลูกต้องเพียรพยายามด้วยเช่นกัน และสิ่งนี้ก็แพงขึ้นทุกวัน
สิ่งนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน? ลูกไม่สามารถรับประกันได้แม้กระทั่งหนึ่งชาติเกิด
ดังนั้นลูกได้ทำการต่อรองที่สูงส่งหรือลูกกำลังคิดจะทำการต่อรองเช่นนั้น?
ลูกได้ทำการต่อรองทางธุรกิจที่มั่นคงแล้วใช่ไหม?
บัพดาดามองลูกๆของท่านที่เป็นนักธุรกิจและดูว่าใครเป็นที่รู้จักกันดีในรายชื่อของนักธุรกิจ
ผู้คนในโลกได้ทำรายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีใช่ไหม?
พวกเขาจะทำสมุดรายนามพิเศษขึ้นมา ชื่อของใครจะได้รับการกล่าวถึงในสมุดรายนามของพ่อ?
ผู้ที่สายตาของโลกไม่ได้ดึงดูดคือผู้ที่ทำการต่อรองกับพ่อและพวกเขาก็กลายเป็นดวงดาวในดวงตาของพระเจ้า
เป็นแสงแห่งดวงตาของพระเจ้า
เขาทำให้ดวงวิญญาณที่ไม่มีความหวังกลายเป็นดวงวิญญาณพิเศษ
ลูกมีความซาบซึ้งของการเป็นบุคคลสำคัญ(วีไอพี)ที่พิเศษเช่นนั้นในทำเนียบรายชื่อของพระเจ้าหรือไม่?
เหตุนี้เองจึงมีการจดจำกันว่าพระเจ้าเป็นของผู้ที่ไร้เดียงสา ท่านเป็นผู้ฉลาดที่สุด
แต่ท่านก็รักผู้ที่ไร้เดียงสา พ่อไม่ชอบผู้ที่สนใจแต่สิ่งภายนอกที่ฉลาดของโลก
อาณาจักรของพวกเขาอยู่ในยุคเหล็กที่พวกเขาเป็นมหาเศรษฐีในช่วงเวลาหนึ่งแล้วไม่มีอะไรเลยในช่วงเวลาถัดมา
อย่างไรก็ตามลูกทั้งหมดได้กลับมาเป็นมหาเศรษฐีตลอดเวลา
มันไม่ใช่ในอาณาจักรของความกลัว แต่เป็นความไม่ขลาดกลัว
ในโลกทุกวันนี้มีความมั่งคั่งและความหวาดกลัวด้วยเช่นกัน
ยิ่งพวกเขามีความมั่งคั่งมากเท่าไหร่พวกเขาก็จะยิ่งรับประทานในความกลัว
และนอนหลับด้วยความกลัวมากเท่านั้น ในขณะที่ลูกนั้นเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ลูกปราศจากความกลัว มีคำกล่าว่าความกลัวเป็นวิญญาณปีศาจร้าย
ลูกได้รับการปลดปล่อยจากวิญญาณปีศาจร้ายนั้น ลูกมีอิสระแล้วใช่ไหม?
ลูกมีความกลัวอะไรหรือไม่? ที่ใดที่มีจิตสำนึกของ “ของฉัน”
ที่นั่นจะมีความกลัวอย่างแน่นอน “บาบาของฉัน!”
เป็นชีพบาบาเท่านั้นที่ทำให้ลูกไม่มีความกลัว
หากมีสิ่งใดแม้แต่กวางทองนอกเหนือจากท่านซึ่งเป็น"ของฉัน"แล้วก็จะมีความกลัว
ดังนั้นตรวจสอบดูว่าไม่มีสันสการ์ “ของฉัน ของฉัน”
หลงเหลืออยู่ในชีวิตบราห์มินของลูกแม้กระทั่งในรูปที่ละเอียดอ่อน
ลูกกำลังเฉลิมฉลองการครบรอบ 25 ปี (Silver Jubilee) และการครบรอบ 50 ปี (Golden
Jubilee)
เงินกับทองจะจริงเมื่อลูกหลอมละลายในไฟและขจัดสิ่งใดก็ตามที่ปะปนอยู่ในเงินและทองนั้น
นี่เป็นการเฉลิมฉลอง silver jubilee ที่แท้จริง และ golden jubilee
ที่แท้จริงใช่ไหม? ดังนั้นเพื่อที่จะเฉลิมฉลองการครบรอบ
ลูกจะต้องกลายเป็นเงินแท้และทองแท้ ไม่ใช่ว่าผู้ที่เฉลิมฉลอง silver jubilee
จะเป็นเพียงแค่เงิน ในแง่ของจำนวนปีลูกพูดว่าเป็น silver jubilee
อย่างไรก็ตามลูกทั้งหมดคือผู้ที่เป็นของยุคทองและมีสิทธิ์ในยุคทอง
ดังนั้นจงตรวจสอบดูว่าลูกได้กลับมาเป็นทองคำแท้มากขนาดไหน ลูกได้ทำการต่อรอง
แต่ไม่ใช่ว่าลูกได้รับบางสิ่งแล้วก็ใช้จนหมด
ลูกได้สะสมเป็นอย่างมากที่ลูกสามารถอยู่อย่างเต็มเปี่ยมอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 21
ชั่วอายุที่ราชวงศ์ของลูกยังคงเจริญรุ่งเรืองด้วยเช่นกันหรือไม่? ไม่ใช่เพียงแค่ 21
ชาติเกิดเท่านั้น แต่แม้กระทั่งในยุคทองแดงใช่ไหม?
เพราะลูกจะเป็นดวงวิญญาณที่มีความเลื่อมใสศรัทธาลูกจะไม่ขาดสิ่งใด
ลูกจะมีความมั่งคั่งมากมายแม้กระทั่งในยุคทองแดงที่ลูกจะสามารถให้ทานและทำบุญได้เป็นอย่างดี
ดูสิแม้กระทั่งในตอนปลายของยุคเหล็กและแม้กระทั่งในชาติเกิดสุดท้ายของลูก
ลูกก็ยังไม่ได้เป็นขอทานใช่ไหม?
ลูกได้กลายเป็นผู้ที่อย่างน้อยก็รับประทานดัล(ซุปถั่ว)และโรตี
ลูกไม่มีเงินที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างน้อยลูกก็ยังมีซุปถั่วและโรตี
รายได้ของเวลานี้จะทำให้แน่ใจว่าลูกไม่ต้องเป็นขอทานตลอดทั้งวงจร
ลูกได้สะสมมากที่แม้กระทั่งในชาติเกิดสุดท้ายลูกก็ยังรับประทานซุปถั่วและโรตี
ลูกได้เก็บรักษาบัญชีว่าลูกสะสมได้มากแค่ไหนหรือไม่?
ลูกรู้วิธีทำงบประมาณของลูกหรือไม่? ลูกฉลาดเมื่อพูดถึงการสะสมใช่ไหม?
ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วลูกจะทำอะไรกับ 21 ชาติเกิด?
ลูกจะเป็นผู้ที่หารายได้หรือเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในอาณาจักรและเป็นผู้ที่ปกครองอาณาจักรหรือไม่?
ผู้ที่เป็นของราชวงศ์ไม่จำเป็นต้องหารายได้อะไรเลย ปวงประชาต้องหารายได้
มันตามลำดับกันไปในสิ่งนี้เช่นกัน มีปวงประชาที่มั่งคั่งและปวงประชาที่ธรรมดา
ไม่มีคนยากจนที่นั่น
อย่างไรก็ตามราชวงศ์จะได้รับอาณาจักรอันเป็นรางวัลของความเพียรพยายามของพวกเขา
พวกเขากลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในราชวงศ์ชาติแล้วชาติเล่า
พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ในทุกชาติเกิด
แต่พวกเขาจะได้รับสิทธิ์ในราชวงศ์ชาติแล้วชาติเล่า ดังนั้นลูกจะกลายเป็นอะไร?
เวลานี้ทำงบประมาณของลูกและวางแผนรูปแบบการออมขึ้นมา
โลกปัจจุบัน พวกเขาเปลี่ยนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ให้กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
พวกเขาลดการสูญเสียทั้งหมด
ดังนั้นลูกทั้งหมดก็ควรจะเก็บบัญชีออมทรัพย์ไว้ในสำนึกรู้ของลูก
สร้างงบประมาณว่าลูกจะต้องใช้พลังความคิด พลังคำพูด
พลังการกระทำและพลังเวลาของลูกอย่างไรและที่ไหน
อย่าให้พลังทั้งหมดเหล่านี้สูญเปล่าไป
หากความคิดของลูกธรรมดาหรือไร้สาระแล้วทั้งความธรรมดาและความไร้สาระจะไม่ช่วยประหยัดอดออมอะไรเลย
แต่จะทำให้ลูกสูญเสียบางสิ่ง ให้รักษาชาร์ทของลูกตลอดทั้งวัน
ฉันใช้พลังเหล่านี้และเพิ่มพลังเหล่านี้มากแค่ไหน?
ยิ่งลูกใช้พลังเหล่านี้สำหรับงานมากแค่ไหน พลังนั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ลูกทั้งหมดรู้ว่าความคิดคือพลัง แต่ลูกก็ตามลำดับกันไปในการนำสิ่งนั้นไปปฏิบัติ
บางคนไม่ได้ใช้สิ่งนั้นเพื่องานและพวกเขาก็สูญเสียสิ่งนั้นไปกับการกระทำบาป
อย่างไรก็ตามในตารางเวลาปกติ
ลูกไม่ได้หารายได้หรือสูญเสียรายได้เพราะลูกไม่ได้สะสมอะไร
การมีตารางเวลาของงานรับใช้ตามปกติหรือการมีตารางเวลาของชีวิตครอบครัวตามปกติจะไม่ถูกเรียกว่าการสะสมในบัญชีออมทรัพย์
อย่าเพียงแค่ตรวจสอบว่าลูกนั้นรับใช้และศึกษาเล่าเรียนตามความสามารถของลูกหรือไม่
ว่าลูกนั้นไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ใครมีความทุกข์ ที่ลูกนั้นไม่ได้กระทำผิดใดๆ
ลูกไม่ได้ทำให้ใครมีความทุกข์ แต่ลูกได้ให้ความสุขแก่พวกเขาหรือไม่?
ลูกทำงานรับใช้ที่มีพลังมากเท่าที่ลูกควรจะทำหรือไม่? ยกตัวอย่างเช่น
บัพดาดาจะให้คำแนะนำสั่งสอนเสมอว่า: การสละจิตสำนึก “ฉัน” และ “ของฉัน”
เป็นงานรับใช้ที่แท้จริง ดังนั้นฉันรับใช้เช่นนั้นหรือไม่ ?
ฉันไม่ได้พูดคำพูดที่ผิด แต่ฉันพูดคำที่ให้ความหวังแก่ดวงวิญญาณที่สิ้นหวังหรือไม่?
ฉันทำให้ดวงวิญญาณที่ขาดความกล้ามีความกล้าหาญหรือไม่?
ฉันให้ความจริงจังและความกระตือรือร้นของความสุขในบางคนหรือไม่?
นี่คือการสะสมและการออม
เพียงแค่ใช้เวลาสองหรือสี่ชั่วโมงอย่างธรรมดานั้นไม่ได้เป็นการออมอะไรเลย
จงสร้างงบประมาณที่ลูกจะประหยัดอดออมและสะสมพลังทั้งหมด
ปีนี้ทำงานของลูกด้วยงบประมาณนี้ วางแผนว่าลูกจะใช้ทุกพลังอย่างไร
ทำงบประมาณทางจิตวิญญาณเช่นนั้นที่ทุกดวงวิญญาณในโลกจะได้มาซึ่งบางสิ่งและร้องเพลงสรรเสริญของลูก
แน่นอนว่าลูกจะต้องให้บางสิ่งกับทุกคน
ไม่ว่าลูกจะให้การหลุดพ้นหรือการหลุดพ้นในชีวิตแก่พวกเขาก็ตาม
ลูกกำลังทำงานรับใช้ที่ไม่ใช่เพียงแค่ชำระล้างดวงวิญญาณมนุษย์ให้บริสุทธิ์เท่านั้นแต่ชำระวัตถุธาตุให้บริสุทธิ์ด้วย
งบประมาณทางจิต(ของพระเจ้า)หมายความว่าดวงวิญญาณทั้งหมดวัตถุธาตุทั้งหมดมีความสุขและความสงบ
รัฐบาลนั้นทำงบประมาณที่พวกเขาจะให้น้ำมากเท่านี้ ให้อาคารมากมายเท่านี้
ให้ไฟฟ้ามากมายเท่านี้ ฯลฯ ลูกกำลังสร้างงบอะไร?
ลูกจะต้องให้การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตกับทุกคนสำหรับหลายชาติเกิด
และปลดปล่อยพวกเขาจากความยากจน(ยากจนข้นแค้น) ความทุกข์และความไม่สงบของพวกเขา
เป็นเวลาครึ่งวงจรพวกเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างสะดวกสบาย
ความปรารถนาของพวกเขาจะได้รับการเติมเต็มอย่างแน่นอน
ผู้คนเหล่านั้นต้องการการหลุดพ้นเท่านั้น พวกเขาไม่รู้สิ่งนั้น
แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังร้องขอใช่ไหม?
ดังนั้นให้ทำงบประมาณทางจิต(ของพระเจ้า)สำหรับตัวเองและสำหรับโลก
ลูกเข้าใจหรือไม่ว่าลูกจะต้องทำอะไร? ลูกกำลังเฉลิมฉลองทั้ง silver jubilee และ
golden jubilee ในปีนี้ใช่ไหม? ดังนั้นนี่เป็นปีที่สำคัญ อัจชะ
ถึงผู้ที่เก็บการต่อรองที่สูงส่งไว้ในสำนึกรู้ของพวกเขาเสมอ
ถึงผู้ที่เพิ่มบัญชีของการสะสมของพวกเขาเสมอ
ถึงผู้ที่ใช้พลังทั้งหมดของพวกเขาและด้วยเหตุนี้พลังเหล่านั้นจึงเพิ่มขึ้น
ถึงผู้ที่รู้ถึงความสำคัญของเวลาและกลับมายิ่งใหญ่เสมอและทำให้ผู้อื่นยิ่งใหญ่
ถึงลูกๆ ที่มั่งคั่งที่สูงส่งและที่รู้คิดที่สูงส่งเช่นนั้น ด้วยความรัก
การจดจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
บัพดาดาพบกับพวกกุมาร:
ชีวิตกุมารเป็นชีวิตที่โชคดีเพราะลูกได้รับการช่วยให้ปลอดภัยจากการปีนบันไดที่ผิด
ลูกไม่เคยมีความคิดที่จะปีนขึ้นไปบนบันไดที่ผิดใช่ไหม?
แม้กระทั่งผู้ที่ปีนขึ้นไปก็ลงมา
แม้กระทั่งผู้ที่ครองเรือนก็เรียกตนเองว่ากุมารและกุมารีใช่ไหม?
ดังนั้นพวกเขาได้ลงบันไดมาใช่ไหม?
ดังนั้นจงรักษาโชคที่สูงส่งนี้ของลูกไว้ในสำนึกรู้ของลูกเสมอ
ชีวิตกุมารหมายถึงชีวิตที่รอดพ้นจากบ่วงพันธะ
มิฉะนั้นดูซิว่าลูกจะถูกผูกมัดอยู่ในบ่วงพันธะมากมายแค่ไหน
ดังนั้นลูกจึงรอดพ้นจากการถูกดึงรั้งจากบ่วงพันธะ
ลูกเป็นอิสระในจิตใจของลูกและเป็นอิสระในความสัมพันธ์ของลูก
ชีวิตของกุมารจึงเป็นชีวิตที่มีอิสรภาพ
ลูกไม่มีแม้กระทั่งในความคิดหรือแม้กระทั่งในความฝันของลูกที่จะหาผู้ช่วยบางคนที่ลูกควรจะมีมิตร
ที่พวกเขาควรจะช่วยลูกในช่วงเวลาที่เจ็บป่วยใช่ไหม? ลูกเคยคิดเช่นนี้ไหม?
ลูกเคยมีความคิดนี้ทั้งหมดหรือไม่?
ชีวิตกุมารหมายถึงการเป็นนกที่โบยบินอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ใช่ผู้ที่ติดกับอยู่ในบ่วงพันธะ อย่าให้มีความคิดนี้
คงอยู่อย่างเป็นอิสระจากบ่วงพันธะและเฝ้าแต่เดินหน้าต่อไปด้วยความเร็วสูง
บัพดาดาพบกับพวกกุมารี:
พวกกุมารีได้รับลิฟต์ที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าในงานรับใช้
ลิฟต์นี้เป็นของขวัญที่สูงส่ง ลูกรู้วิธีที่จะใช้ของขวัญนี้ใช่หรือไม่?
ยิ่งลูกทำให้ตัวเองมีพลังมากเท่าไหร่ งานรับใช้ที่ลูกทำก็จะยิ่งมีพลังมากเท่านั้น
ถ้าลูกอ่อนแอในเรื่องใด งานรับใช้นั้นก็จะอ่อนแอเช่นกัน
ดังนั้นจงกลับมามีพลังและเป็นผู้รับใช้ที่มีพลัง
เฝ้าแต่เตรียมการเช่นนั้นเพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาลูกสามารถข้องแวะอยู่ในงานรับใช้อย่างประสบความสำเร็จและได้รับลำดับต้นๆ
ในปัจจุบันลูกต้องให้เวลาของลูกกับการศึกษาเล่าเรียนของลูก
แล้วลูกจะมีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องทำ ดังนั้นไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน
จงฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
เฝ้าแต่เตรียมตัวลูกเองในการเป็นมิตรของดวงวิญญาณเครื่องมือและลูกจะกลายเป็นผู้รับใช้ที่มีค่า
ยิ่งลูกก้าวไปข้างหน้ามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีคุณประโยชน์ต่อลูกมากเท่านั้น
บัพดาดาพบครูผู้รับใช้:
1)
ผู้รับใช้หมายถึงผู้ที่เป็นเครื่องมือเสมอ
ความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือจะทำให้ลูกประสบความสำเร็จในงานรับใช้โดยอัตโนมัติ
ถ้าไม่มีความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีความสำเร็จ
ลูกได้ทำสัญญาว่าลูกจะเป็นของพ่ออย่างสม่ำเสมอ ที่ลูกเป็นของพ่อ
และที่ลูกจะเป็นของท่านเสมอใช่ไหม?
ผู้รับใช้หมายถึงผู้ที่วางทุกย่างก้าวในรอยเท้าของพ่อ
สิ่งนี้เรียกว่าเป็นผู้ที่ทำตามพ่อ
ลูกเป็นผู้รับใช้ที่ทำให้ทุกย่างก้าวสูงส่งโดยการทำตามคำแนะนำสั่งสอนที่สูงส่งใช่ไหม?
การประสบความสำเร็จในงานรับใช้คือเป้าหมายที่สูงส่งของผู้รับใช้
ดังนั้นลูกทั้งหมดคือผู้ที่รักษาเป้าหมายที่สูงส่งใช่ไหม?
ยิ่งความสูญเปล่าทั้งหมดจบสิ้นลงในตัวลูกเองและในงานรับใช้มากเท่าไหร่
ลูกและงานรับใช้ก็จะกลับมามีพลังมากเท่านั้น
ดังนั้นการจบสิ้นความสูญเปล่าทั้งหมดและอยู่อย่างมีพลังอย่างสม่ำเสมอคือคุณสมบัติพิเศษของผู้รับใช้
ยิ่งลูกดวงวิญญาณที่เป็นเครื่องมือมีพลังมากเท่าไหร่
งานรับใช้ก็จะมีพลังมากเท่านั้น
การเป็นผู้รับใช้หมายถึงการนำความจริงจังและความกระตือรือร้นมาใช้ในงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอ
ผู้ที่มีความจริงจังและกระตือรือร้นสามารถให้ความจริงจังและกระตือรือร้นแก่ผู้อื่น
ดังนั้นให้ความจริงจังและความกระตือรือร้นปรากฏให้เห็นในทางปฏิบัติเสมอ
อย่าเป็นเช่นนั้นที่ภายในฉันเป็นเช่นนั้นแต่มันไม่สามารถมองให้เห็นได้จากภายนอก
ความเพียรพยายามที่แฝงตัวก็เป็นสิ่งหนึ่ง
แต่ความจริงจังและความกระตือรือร้นไม่สามารถซ่อนเร้นได้
ประกายของความจริงจังและกระตือรือร้นอย่างสม่ำเสมอจะปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของลูกโดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าลูกจะพูดอะไรหรือไม่ก็ตาม ใบหน้าและประกายของลูกควรจะแสดงให้เห็นสิ่งนั้น
ลูกเป็นผู้รับใช้เช่นนั้นหรือไม่?
การได้รับโอกาสทองของงานรับใช้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงโชคที่สูงส่งเช่นกัน
ลูกได้รับโชคของการเป็นผู้รับใช้ แต่เวลานี้ลูกต้องสร้างโชคของลูก
และดูว่าเป็นอันดับหนึ่งหรืออันดับสอง
ไม่เพียงแค่จะได้รับโชคประเภทหนึ่งเท่านั้นแต่เป็นการได้มาซึ่งโชคเหนือโชค
ยิ่งลูกได้รับโชคมากเท่าไหร่
ลำดับของลูกก็จะยิ่งเคลื่อนไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติมากเท่านั้น
สิ่งนี้เรียกว่าการเป็นผู้ที่มีโชคหลายล้านเท่า
อย่าเพียงแค่กลายเป็นตัวของความสำเร็จในเรื่องหนึ่ง
แต่ต้องเป็นตัวของความสำเร็จในทุกเรื่อง อัจชะ
ใครมีความสุขที่สุด-ลูกหรือพ่อ? ทำไมลูกไม่พูดว่าลูกมีความสุขที่สุด?
ลูกได้ร้องหาในความเลื่อมใสศรัทธาตั้งแต่ในยุคทองแดงและเวลานี้ที่ลูกได้พบท่านแล้ว
ลูกควรมีความสุขอย่างมาก! เป็นเวลา 63 ชาติเกิดที่ลูกปรารถนาที่จะพบท่าน
และเวลานี้ที่ความปรารถนาของ 63
ชาติเกิดก็ได้รับการเติมเต็มแล้วก็มีความสุขอย่างมาก
เมื่อความปรารถนาใดๆได้รับการเติมเต็ม ลูกก็มีความสุขใช่ไหม?
ความสุขนี้จะให้ความสุขกับโลก เมื่อลูกมีความสุข ทั้งโลกก็มีความสุข
ลูกได้รับความสุขเช่นนั้นแล้วใช่ไหม? เมื่อลูกเปลี่ยน โลกก็เปลี่ยนเช่นกัน
และมันจะเปลี่ยนไปในลักษณะเช่นนั้นที่ไม่มีชื่อหรือร่องรอยของความทุกข์หรือความไม่สงบเหลืออยู่เลย
ดังนั้นจงเฝ้าแต่ร่ายรำในความสุขอย่างสม่ำเสมอ
เฝ้าแต่สะสมไว้ในบัญชีของการกระทำที่สูงส่งของลูกเสมอ
แจกจ่ายสมบัติแห่งความสุขให้กับทุกคน ไม่มีความสุขในโลกทุกวันนี้
ทุกคนเป็นขอทานเพื่อความสุข ดังนั้นเติมเต็มพวกเขาด้วยความสุข
เฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยงานรับใช้นี้เสมอ
เฝ้าแต่ให้ความจริงจังและความกระตือรือร้นแก่ดวงวิญญาณที่สิ้นหวัง
พวกเขาสิ้นหวังด้วยการคิดว่า “ฉันไม่สามารถทำอะไรได้ มันเป็นไปไม่ได้...”
ดังนั้นลูกกลายเป็นผู้มีชัยชนะ
ลูกทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะและลูกเพิ่มความจริงจังและความกระตือรือร้นของพวกเขา
ให้ติลักของความตระหนักรู้แห่งชัยชนะติดอยู่เสมอ
ลูกคือผู้ที่มีติลักและมีสิทธิ์ในการปกครองตนเอง รักษาสำนึกรู้นี้ไว้เสมอ อัจชะ
คำถาม:
สิ่งบ่งบอกของผู้ที่เป็นดวงดาวที่ใกล้ชิดคืออะไร?
คำตอบ:
ความทัดเทียมจะเห็นได้ในพวกเขา
คุณธรรมของบัพดาดาและงานของท่านนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนในดวงดาวของที่ใกล้ชิด
ยิ่งมีความใกล้ชิดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความทัดเทียมมากเท่านั้น
ใบหน้าของแต่ละคนจะเป็นกระจกที่ให้นิมิตของบัพดาดา เมื่อเห็นพวกเขา
ผู้คนจะได้รับคำแนะนำของบัพดาดา แม้พวกเขาจะเห็นลูก พวกเขาก็จะถูกดึงดูดไปหาบัพดาดา
สิ่งนี้เรียกว่า “ลูกชายแสดงให้เห็นพ่อ”
ใครก็ตามที่ลูกรัก,แสตมป์(ตราประทับหรือเอกลักษณ์)ของผู้นั้นจะปรากฏให้เห็นในทุกย่างก้าวของลูก
ยิ่งลูกร่าเริงเบิกบานมากแค่ไหน ลูกก็จะกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ดึงดูดมากเท่านั้น
อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่และก้าวไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอโดยการรับพรจากดวงวิญญาณมากมาย
การเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่หมายถึงการรับใช้ผู้อื่น
ด้วยการรับใช้ผู้อื่นลูกจะได้รับการรับใช้โดยอัตโนมัติ
การเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่หมายถึงการทำให้ตัวเองเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมด
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณมากมายที่ลูกให้ทานของความสุข พลัง และความรู้
เสียงแห่งการบรรลุผลหรือพรที่ปรากฏออกมาจากพวกเขาจะกลายเป็นรูปของพรสำหรับลูก
พรเหล่านี้เป็นวิธีที่จะนำลูกไปข้างหน้า ผู้ที่ได้รับพรมีความสุขเสมอ
ดังนั้นทุกวันในเวลาอมฤต ให้ทำโปรแกรมเพื่อกลายเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่
อย่าให้มีแม้แต่วันเดียวที่ลูกไม่ได้ให้ทาน
คติพจน์:
ผลในทันทีและในทางปฏิบัติของเวลาในปัจจุบัน
จะช่วยให้ดวงวิญญาณมีพลังของสภาพที่โบยบิน