22.07.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกคือนักเรียนที่สูงศักดิ์มาก ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ
ครู และสัตกูรู และทำงานรับใช้ทางจิต
คำถาม:
อะไรคือสิ่งชี้บอกของผู้ที่เคลื่อนไปในขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นนักแสดงที่ไม่มีขีดจำกัด?
คำตอบ:
พวกเขาไม่ปล่อยให้สติปัญญาของพวกเขาจดจำผู้ที่มีร่างกายที่ละเอียดอ่อนหรือผู้ที่มีร่างกายที่มีตัวตนใดๆ
พวกเขาเฝ้าแต่จดจำพ่อผู้เดียวและบ้านของเขา ดินแดนแห่งความสงบ
เพราะความยิ่งใหญ่ทั้งหมดนั้นเป็นของพ่อผู้เดียว เช่นที่พ่อช่วยเหลือทั้งโลก
และชำระผู้ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ ในทำนองเดียวกันลูกๆ
จะกลายเป็นผู้ช่วยเช่นเดียวกันกับพ่อ
โอมชานติ
ก่อนอื่นใดพ่อเตือนลูกๆ ในขณะที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่เบื้องหน้าพ่อ
ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณหรือไม่? ขอให้เข้าไปสู่สติปัญญาของลูกว่า
ลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าพ่อและลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าครูด้วยเช่นกัน
ประเด็นอันดับหนึ่งก็คือ ลูกคือดวงวิญญาณ พ่อคือดวงวิญญาณ ครูคือดวงวิญญาณด้วย
และกูรูก็เป็นดวงวิญญาณด้วยเช่นกัน ทั้งหมดคือหนึ่งเดียวและเป็นเช่นเดียวกัน
ลูกกำลังรับฟังเรื่องที่ใหม่ ลูกพูดว่า: บาบาพวกเรารับฟังสิ่งนี้ทุกวงจร
ขอให้สติปัญญาของลูกจดจำว่า พ่อกำลังสอนลูก และลูกๆ
ดวงวิญญาณกำลังรับฟังท่านด้วยอวัยวะ ในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกๆ
ได้รับความรู้นี้จากพระเจ้า ผู้สูงสุดเหนือสิ่งใด ท่านคือพ่อของทุกดวงวิญญาณ
และให้มรดกของลูกแก่ลูก ท่านให้ความรู้อะไร? ท่านประทานการหลุดพ้นแก่ทุกคน
นั่นคือท่านพาลูกกลับบ้าน ท่านพาลูกกลับไปกี่ครั้ง? ลูกรู้เรื่องทั้งหมดนี้
ดวงวิญญาณทั้งหมดต้องกลับบ้านเหมือนฝูงยุง ในยุคทองมีเพียงศาสนาเดียว มีทุกสิ่ง
ความบริสุทธิ์ ความสงบและความสุข
เป็นสิ่งที่ง่ายดายอย่างมากสำหรับลูกที่จะอธิบายด้วยการใช้ภาพ
เมื่อลูกสามารถที่จะเข้าใจว่าอังกฤษอยู่ที่ใดบนแผนที่
พวกเขาก็จะสามารถจดจำอังกฤษได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับที่นี่
ต้องมีการอธิบายให้แก่นักเรียนแต่ละคน คำยกย่องเป็นของผู้เดียวเช่นกัน:
ขอคารวะต่อชีวา ต่อพระเจ้า ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
พ่อผู้สร้างคือสมาชิกอาวุโสของครอบครัว พ่อเหล่านั้นเป็นพ่อของบ้านที่มีขีดจำกัด
ในขณะที่ผู้เดียวนี้คือพ่อของบ้านที่ไม่มีขีดจำกัด ท่านเป็นครูด้วยเช่นกัน
ท่านกำลังสอนลูกอยู่ ดังนั้นลูกๆ ควรมีความสุขอย่างมาก ลูกคือนักเรียนที่สูงศักดิ์
พ่อพูดว่า: พ่อเข้ามาในร่างธรรมดา แน่นอนว่าประชาบิดาบราห์มาต้องมีชีวิตอยู่ที่นี่
จะทำสิ่งใดโดยที่ไม่มีท่านได้อย่างไร? ท่านถูกนำมาเลี้ยงดู
ดังนั้นท่านต้องเป็นใครบางคนที่เป็นผู้ใหญ่อย่างแน่นอน
ดังนั้นผู้ที่เป็นผู้ใหญ่จึงเป็นที่ต้องการ กฤษณะจะไม่พูดว่า“ลูกลูก”
สิ่งนั้นเหมาะสมกับผู้อาวุโสเท่านั้น จะไม่มีใครเรียกเด็กว่า: บาบา
ดังนั้นควรจะเข้าไปอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ ว่าลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าใคร
ลูกควรจะมีความสุขอยู่ภายในเช่นกัน ไม่ว่านักเรียนนั้นจะนั่งอยู่ที่ใดก็ตาม
สติปัญญาของพวกเขาก็จะจดจำพ่อและครูของเขา
พ่อของเขาและครูของเขาแยกเป็นคนละคนกันไม่ใช่บุคคลเดียวกัน
พ่อครูและสัตกูรูของลูกคือคนเดียวกัน และเป็นเช่นเดียวกัน บาบานี้เป็นนักเรียนด้วย
ท่านกำลังศึกษาเล่าเรียนด้วย ความแตกต่างเดียวเท่านั้นคือท่านได้ให้ยืมร่างของท่าน
ไม่มีความแตกต่างอื่นใด มิฉะนั้นท่านก็เป็นเหมือนกับลูก
ดวงวิญญาณนี้เข้าใจสิ่งที่ลูกเข้าใจด้วยเช่นกัน ความยิ่งใหญ่เป็นของพ่อผู้เดียว
ท่านถูกเรียกว่าพระภู่ พระอิศวรฯลฯ ผู้นี้พูดด้วยเช่นกันว่า
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำดวงวิญญาณสูงสุดผู้เดียว
ลืมผู้ที่มีร่างกายที่มีตัวตนและละเอียดอ่อนทั้งหมด
ลูกคือผู้อาศัยของดินแดนแห่งความสงบ ลูกคือนักแสดงที่ไม่มีขีดจำกัด
ไม่มีใครอื่นรู้สิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครในโลกรู้ประเด็นเหล่านี้
ผู้ที่มาที่นี่ก็เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ และยังคงทำงานรับใช้ของพ่อต่อไปเรื่อยๆ
ลูกคือผู้ช่วยของพระเจ้าใช่ไหม? พ่อมาเพื่อรับใช้ลูกเช่นกัน
ท่านทำงานรับใช้ของการชำระผู้ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
เมื่อลูกสูญเสียอาณาจักรของลูกและอยู่อย่างไม่มีความสุข ลูกก็เรียกหาพ่อ
ลูกจะเรียกหาผู้เดียวที่ให้อาณาจักรนั้นแก่ลูกเท่านั้น ลูกๆ
รู้ว่าพ่อมาเพื่อทำให้ลูกกลายเป็นนายของดินแดนแห่งความสุข
ไม่มีใครอื่นในโลกรู้สิ่งนี้ ชาวบารัตทั้งหมดเป็นของศาสนาเดียว นั่นคือศาสนาหลัก
เมื่อศาสนานั้นหายไป พ่อจึงมาเพื่อก่อตั้งศาสนานั้น ลูกๆ
รู้ว่าพระเจ้าผู้ที่ทั้งโลกเรียกหาว่าอัลล่าห์หรือพระเจ้าฯลฯ ได้มาที่นี่แล้ว
ตามแผนของละครเช่นที่ท่านเคยทำในวงจรที่แล้ว
นี่เป็นตอนเดียวกันของกีตะที่พ่อมาและดำเนินการก่อตั้ง มีคำกล่าวว่า:
บราห์มินและเทพ นักรบไม่ได้ถูกกล่าวถึง เพราะนักรบมี 2 องศาที่ลดน้อยลงไป
มีเพียงคำว่า“ขอคารวะต่อบราห์มินและเทพ”เท่านั้นที่ถูกกล่าวไว้
โลกใหม่ถูกเรียกว่าสวรรค์ ยุคเงินจะไม่ถูกเรียกว่าโลกใหม่
เริ่มแรกในยุคทองโลกนั้นใหม่อย่างสมบูรณ์ เวลานี้โลกนี้เก่าที่สุด
จากนั้นลูกจะไปสู่โลกที่ใหม่ที่สุด เวลานี้ลูกจะไปสู่โลกนั้น และเหตุนี้เองลูกๆ
จึงพูดว่า ลูกกำลังเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นนารายณ์
เรารับฟังเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง
นั่นจะไม่เรียกว่าเรื่องราวของการกลายเป็นเจ้าชาย
นั่นจะเรียกว่าเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง
พวกเขาคิดว่านารายณ์จะเป็นอีกบุคคลหนึ่ง
แต่พวกเขาก็ไม่ได้แสดงประวัติชีวิตของนารายณ์ มีความรู้มากมายหลายประเด็น
เหตุนี้เองลูกจึงได้รับความรู้เป็นเวลา 7 วัน ลูกต้องอยู่ในบัทตีเป็นเวลา 7 วัน
ไม่ใช่ว่าลูกสามารถมาและพักอยู่ที่นี่ในบัทตีตลอดเวลา
ถ้าเป็นเช่นนั้นหลายคนก็จะมีข้ออ้างที่จะต้องอยู่ในบัทตีนี้และเพียงแค่อยู่ที่นี่เท่านั้น
การศึกษาเกิดขึ้นในตอนเช้าและตอนเย็น บรรยากาศในตอนบ่ายนั้นไม่ค่อยดีนัก
ในเวลากลางคืนเช่นกันตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน บรรยากาศเลวร้ายมาก
ที่นี่ลูกๆต้องทำความเพียรพยายามที่จะอยู่ในการจดจำระลึกถึงและกลับมาสะโตประธาน
ที่นั่นลูกยังคงยุ่งอยู่กับงานและธุรกิจของลูกตลอดทั้งวัน
มีผู้คนมากมายที่ทำงานและศึกษาเล่าเรียนด้วยเพื่อจะได้งานที่ดีขึ้น
ลูกกำลังศึกษาอยู่ที่นี่ ดังนั้นลูกต้องจดจำครูผู้ที่กำลังสอนลูก โอเค
หากลูกจดจำท่านอย่างเป็นครู ลูกสามารถจดจำทั้งสาม พ่อ ครู
และสัตกูรูในเวลาเดียวกันด้วย เป็นสิ่งที่ง่ายมากสำหรับลูก
ดังนั้นลูกจะสามารถจดจำท่านได้ในทันที ท่านคือบาบาของเรา ครูของเรา
และเป็นกูรูของเราเช่นกัน พ่อคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ผู้ที่เราได้รับมรดกแห่งสวรรค์ของเราจากท่าน เราจะไปสวรรค์อย่างแน่นอน
สวรรค์ต้องมีการก่อตั้งอย่างแน่นอน
ลูกกำลังทำความเพียรพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานภาพที่สูง ลูกเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้
มนุษย์จะมาเพื่อรู้สิ่งนี้เมื่อเสียงของลูกกระจายออกไป
ศาสนาทางจิตของลูกบราห์มินคือการทำตามศรีมัทและอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้ทางจิตนี้
ผู้คนก็จะมาเพื่อรู้ถึงงานที่สูงส่งที่ลูกกำลังทำด้วยการทำตามศรีมัทด้วยเช่นกัน
ไม่มีใครอื่นสามารถทำงานรับใช้ทางจิตได้อย่างที่ลูกทำ
มีเพียงลูกเท่านั้นที่เป็นของศาสนาบราห์มินที่สามารถทำงานนี้ได้
ดังนั้นตัวลูกเองควรจะมุ่งมั่นอยู่กับงานนี้และอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในสิ่งนี้เท่านั้น
พ่ออยู่อย่างไม่ว่างเว้นด้วยเช่นกันใช่ไหม? ลูกกำลังก่อตั้งอาณาจักร
ผู้นำของรัฐบาลก็เพียงแค่มาพบกันเพื่อค้ำจุนและช่วยเหลือทุกคน
ลูกกำลังทำอะไรที่นี่ในทางที่แฝงตัว?
ลูกคือนักรบนิรนามที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงและแฝงตัว ไม่มีใครรู้ความหมายของสิ่งนี้
ลูกคือกองทัพที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงสองทาง
ความก้าวร้าวรุนแรงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือกิเลสที่ทำให้ทุกคนไม่บริสุทธิ์
ต้องมีการเอาชนะกิเลสนี้ พระเจ้าพูด: ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ด้วยการเอาชนะกิเลสนี้ลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะโลก ลักษมีและนารายณ์เอาชนะโลกใช่ไหม?
บารัตเคยเอาชนะโลก พวกเขาได้กลายเป็นนายของโลกได้อย่างไร?
บุคคลภายนอกจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้
สติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัดนั้นเป็นที่ต้องการที่จะเข้าใจสิ่งนี้
ผู้ที่เข้าสอบที่สำคัญต้องมีสติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัด
ลูกกำลังก่อตั้งอาณาจักรของลูกเองด้วยการทำตามศรีมัท
ลูกสามารถอธิบายแก่ใครก็ตามว่าความสงบเคยคงอยู่ในโลกและไม่ได้มีอาณาจักรอื่นใดในเวลานั้น
ไม่สามารถมีเพียงความสงบในสวรรค์ ดินแดนสุขาวดีนั้นเรียกว่าสวนของอัลล่าห์
ที่นั่นไม่ได้มีเพียงสวนเท่านั้นที่ต้องการ มนุษย์ก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกกำลังจะกลายเป็นนายของดินแดนสุขาวดี
ลูกๆควรจะมีความซาบซึ้งอย่างมากและความคิดของลูกควรจะสูงส่ง
ลูกไม่ต้องการความสุขจากภายนอก เวลานี้ลูกคงอยู่อย่างเรียบง่ายอย่างแท้จริง
เวลานี้ลูกกำลังจะไปสู่บ้านของฝ่ายสามีของลูก นี่คือบ้านพ่อแม่ของลูก
ลูกมีพ่อสองคนที่นี่ หนึ่งนั้นคือผู้เดียวที่ไม่มีตัวตนและสูงสุดเหนือสิ่งใด
และอีกหนึ่ง คือผู้มีตัวตนนี้ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดด้วยเช่นกัน
เวลานี้ลูกกำลังจะไปสู่ดินแดนของวิษณุ บ้านของฝ่ายสามีของลูก
นั่นจะไม่เรียกว่าเป็นดินแดนของกฤษณะ ดินแดนนั้นจะไม่เป็นของเด็ก
มันเป็นดินแดนของวิษณุซึ่งหมายถึงดินแดนของลักษมีและนารายณ์ ลูกกำลังศึกษาราชาโยคะ
ดังนั้นลูกจะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน ลูกๆ
คือผู้ช่วยที่แท้จริงของพระเจ้า
บาบานั้นเรียกใครบางคนที่ทำความเพียรพยายามที่จะคงอยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณอย่างน้อย
8 ชั่วโมงว่าผู้ช่วยที่แท้จริงของพระเจ้า เมื่อไม่มีบ่วงกรรม หลงเหลืออยู่
ลูกสามารถกลายเป็นผู้ช่วยและไปถึงสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมของลูก
สภาพอยู่เหนือบ่วงกรรมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา
หากบ่วงกรรมยังคงหลงเหลืออยู่ก็จะมีการลงโทษ ลูกๆ สามารถเข้าใจด้วยตนเองว่า
การจดจำระลึกถึงต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากมาย
วิธีการสำหรับสิ่งนี้ง่ายดายอย่างยิ่ง: เพียงแค่จดจำพ่อ
โยคะโบราณของบารัตนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
ความรู้นี้เป็นไปสำหรับโยคะที่ซึ่งพ่อมาและสอนลูก กฤษณะไม่ได้สอนโยคะ
ได้มีการแสดงกฤษณะพร้อมกับกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ภาพนั้นผิดอย่างสิ้นเชิง
ลูกต้องไม่จดจำภาพใดฯลฯ เวลานี้ให้ลืมทุกสิ่ง
สติปัญญาของลูกไม่ควรจะถูกดึงเข้าไปหาใคร สายใยของลูกต้องชัดเจนอย่างมาก
นี่คือเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียน จงลืมโลก พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
เพียงเท่านั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง พ่อพูดว่า: เมื่อลูกมาในครั้งแรก
ลูกมาอย่างปราศจากร่างและเวลานี้ลูกต้องกลับไปอย่างปราศจากร่าง
ลูกคือผู้ที่มีความสามารถรอบด้าน นักแสดงเหล่านั้นมีขีดจำกัด
ในขณะที่ลูกนั้นไม่มีขีดจำกัด
เวลานี้ลูกรู้ว่าลูกเคยเล่นบทบาทนั้นมาหลายต่อหลายครั้ง
ลูกได้กลายเป็นนายของความไม่มีขีดจำกัดมาหลายต่อหลายครั้ง การละเล่นเล็กๆ
นั้นได้มีการแสดงหลายครั้งภายในการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคทองจนถึงยุคเหล็กก็จะเฝ้าแต่ซ้ำรอยต่อไป
ทุกสิ่งที่อยู่บนยอดจนถึงส่วนปลายนั้นอยู่ในสติปัญญาของลูก นั่นคือโลกที่ไม่มีตัวตน
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนและวงจรโลก นั่นคือเรื่องราวทั้งหมด
ลูกไม่มีสัมพันธ์ใดกับแผ่นดินอื่น ศาสนาของลูกคือศาสนาที่ให้ความสุขอย่างมาก
เมื่อถึงเวลาสำหรับผู้อื่นที่จะมา พวกเขาก็จะมาอีกครั้ง
เช่นที่ลูกลงมาตามลำดับกันไป ลูกก็จะกลับไปอีกครั้งในลักษณะเดียวกันนั้น
พวกเราจะพูดอะไรถึงศาสนาอื่น? ลูกเพียงแค่ต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว
ลืมภาพทั้งหมดนั้นฯลฯ และจดจำพ่อผู้เดียว ไม่ควรจดจำแม้แต่บราห์มา วิษณุ
หรือชังก้าร์ เพียงแค่จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น
พวกเขาเชื่อว่าดวงวิญญาณสูงสุดคือสัญลักษณ์รูปไข่
ใครบางคนจะสามารถมีสัญลักษณ์เหมือนรูปไข่ได้อย่างไร?
แล้วท่านจะสามารถพูดความรู้ได้อย่างไร?
ท่านจะดลใจลูกด้วยการพูดผ่านเครื่องขยายเสียงที่ซึ่งลูกจะรับฟังหรือ?
ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ว่าท่านนั้นดลใจชังก้าร์
ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร การทำลายล้างต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เช่นที่ลูกๆ
ดวงวิญญาณพูดผ่านร่างกาย ดังนั้นพระเจ้าก็เช่นกันที่พูดกับลูกๆ
บทบาทของท่านสูงส่งและพิเศษสุด
มีพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ชำระผู้ไม่บริสุทธิ์ให้กลับมาบริสุทธิ์ ท่านพูดว่า:
บทบาทของพ่อพิเศษสุด ผู้ที่มาที่นี่ในวงจรก่อนหน้านี้จะเฝ้าแต่มา
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เคยเกิดขึ้นในอดีตคือละคร
ไม่สามารถมีความแตกต่างแม้เพียงน้อยนิดได้
ลูกต้องคิดถึงการทำความเพียรพยายามเช่นกัน
ไม่ใช่ลูกจะพูดว่าความเพียรพยายามของลูกมีน้อยกว่าเพราะเป็นไปตามละคร
ในกรณีนั้นสถานภาพที่ลูกได้รับจะต่ำมาก ความเพียรพยายามของลูกต้องเข้มข้น
อย่าได้ปล่อยสิ่งนั้นไว้กับละคร เฝ้าแต่ตรวจสอบชาร์ทของลูก เฝ้าแต่เพิ่มชาร์ทของลูก
จดบันทึกว่า; ชาร์ทของลูกเพิ่มขึ้นหรือลดลง? ต้องให้ความใส่ใจอย่างมาก
ที่นี่ลูกมีมิตรที่เป็นบราห์มิน ในขณะที่ข้างนอกมีแต่มิตรที่ไม่ดี
พวกเขาพูดในสิ่งผิดเท่านั้น เวลานี้พ่อกำลังนำลูกออกมาจากมิตรที่ไม่ดี
มนุษย์เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและการแต่งกายของพวกเขาฯลฯ
เพราะได้รับอิทธิพลจากมิตรที่ไม่ดี
พวกเขาได้เปลี่ยนแผ่นดินและเครื่องแต่งกายของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
นี่เป็นเหมือนกับการดูถูกดูหมิ่นศาสนาของพวกเขา ดูที่ทรงผมของพวกเขา!
มีจิตสำนึกที่เป็นร่าง พวกเขาใช้จ่ายเงิน 100 ถึง150 รูปี เพียงแค่มีทรงผมของพวกเขา
นั่นเรียกว่าสำนึกที่เป็นร่างอย่างที่สุด พวกเขาไม่สามารถรับความรู้ได้ บาบาพูดว่า:
จงอยู่อย่างเรียบง่ายอย่างแท้จริง
เมื่อลูกสวมใส่ส่าหรีราคาแพงสิ่งนี้คือสำนึกที่เป็นร่าง
เพื่อที่จะตัดสำนึกที่เป็นร่าง ทุกสิ่งที่ลูกสวมใส่ควรจะเรียบง่ายอย่างมาก
สิ่งของที่ดีมีราคาแพงนำมาซึ่งสำนึกที่เป็นร่าง
ในเวลานี้ลูกอยู่ในสภาพของเครื่องแต่งกายที่ธรรมดา (ก่อนที่เด็กสาวจะแต่งงานเธอสวมเสื้อผ้าเก่าและฉีกขาด)
จงขจัดความผูกพันยึดมั่นของลูกออกจากทุกสิ่ง คงอยู่อย่างธรรมดาให้มาก
ลูกอาจจะไปงานแต่งงานในเสื้อผ้าที่มีสีสันเพื่อที่จะทำตามความรับผิดชอบของลูก
แต่เมื่อลูกมาถึงบ้านก็ให้เปลี่ยนชุด เวลานี้ลูกต้องไปอยู่เหนือเสียง
ผู้ที่อยู่ในสภาพของการปลดเกษียณก็จะสวมเสื้อผ้าสีขาว
ลูกทั้งหมดไม่ว่าจะเยาว์วัยหรือแก่ชราอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ
ให้เตือนแม้แต่เด็กเล็กๆว่าให้จดจำชีพบาบา
พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้เท่านั้น เวลานี้พวกเรากำลังจะไปหาชีพบาบา
แค่นี้เอง าอัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ให้ความใส่ใจเสมอและให้แน่ใจว่าพฤติกรรมของลูกไม่ได้ขึ้นอยู่กับสำนึกเป็นร่างในทางใดทางหนึ่ง
อยู่อย่างเรียบง่ายมาก อย่าได้มีความผูกพันยึดมั่นกับสิ่งใด
อยู่อย่างระมัดระวังมิตรที่ไม่ดี
2. ในขณะที่เพียรพยายามที่จะมีการจดจำระลึกถึง
ให้ตัดบ่วงกรรมของลูกทั้งหมดและกลับมาอยู่เหนือบ่วงกรรม
อยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณเป็นเวลาอย่างน้อยแปดชั่วโมงและกลายเป็นผู้ช่วยที่แท้จริงของพระเจ้า
พร:
ขอให้ลูกเป็นอิสระจากบ่วงพันธะและหลุดพ้นในชีวิตและอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างสม่ำเสมอ
จิตสำนึกที่เป็นร่างคือสภาพที่มีขีดจำกัด
ในขณะที่การมีจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณคือสภาพที่ไม่มีขีดจำกัด
เมื่อลูกเข้าสู่ร่างกายลูกจะต้องเข้าสู่บ่วงกรรมและข้อจำกัดของกรรม
แต่เมื่อลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ บ่วงเหล่านั้นทั้งหมดจะจบสิ้น กล่าวกันว่า:
ผู้ที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะจะได้รับการหลุดพ้นในชีวิต
ในทำนองเดียวกันผู้ที่อยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่ไม่มีขีดจำกัด
จะได้รับการหลุดพ้นจากกระแสและสภาพแวดล้อมของโลกรวมถึงทัศนคติที่ตะโมกุนิและการจู่โจมของมายา
สิ่งนี้เรียกว่าสภาพของการหลุดพ้นในชีวิตซึ่งลูกต้องสัมผัสประสบการณ์ในยุคบรรจบกัน
คติพจน์:
สิ่งบ่งบอกของสติปัญญาที่มีศรัทธาคือผู้นั้นมีชัยชนะที่รับประกันไว้แล้วและไร้ความกังวล
ไม่มีสิ่งที่ไร้ประโยชน์ใดสามารถเข้ามาสู่ดวงวิญญาณเช่นนี้ได้